กระจกรถยนต์ นับว่ามีความสำคัญไม่น้อย ทั้งเรื่องความสะดวก ปลอดภัย ตลอดจนความสบายของผู้โดยสาร เพิ่มทัศนวิสัยให้แก่ผู้ขับ ทำหน้าที่ปิดกั้นบรรดามลภาวะต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในตัวรถ กลิ่น และเสียงดังจากกายนอก ด้วยเหตุควรจะทำความรู้จักกับ กระจกรถ

ประเภทของกระจก

กระจกบังลมหน้า แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 3 ชนิด โดยแต่ละอย่างจะมีคุณภาพ และคุณสมบัติแตกต่างกัน

กระจก Tempered
โดยทั่วไปที่ใช้จะมีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร หรือรถบางรุ่นที่มีเจตนาลดเสียงลมปะทะ และเสียงก้องของกระจกหน้า ก็อาจมีการใช้กระจกหนาขึ้นกว่านี้อีกเล็กน้อย จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

Zone-Tempered เวลาเกิดเหตุทำให้กระจกหน้าแตกขึ้นมาตรงไหน มันจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลามไปทั้งบาน ตอนกลางกระจกจะแตกเป็นผลึก หรือเม็ดโต อาศัยมองเส้นทางได้บ้างแม้จะไม่ชัดเจน

Full-Tempered มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน แต่เวลาแตกมันจะลามไปเป็นเม็ดเล็กๆ ทั่วทั้งแผ่น ซึ่งจะออกแบบมา ไม่ให้เม็ดกระจกเหล่านี้มีความแหลมคม เพื่อไม่ให้สร้างอันตรายต่อผู้ขับขี่

กระจกแบบ Laminated
กระจกนิรภัยแบบ Laminated ทั่วไปจะมีความหนาประมาณ 6 มิลลิเมตร ได้รับการพัฒนามาจากกระจกแบบ Tempered แต่มีขบวนการผลิตที่ยุ่งยาก ซับซ้อนกว่า โดยการรีดกระจกออกมาเป็นแผ่นบางๆ แล้วจับเอามาประกบกัน ซึ่งมีแผ่นฟิล์มใสทำจาก “ไวนิล” ที่เหนียวและบางแค่ 0.5 มิลลิเมตร สอดไส้เอาไว้ สามารถกรองแสงและรังสี UV ได้ดีกว่ากระจกแบบ Tempered

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ กระจกจะแตกร้าวเป็นเส้นเฉพาะบริเวณที่เกิดเหตุเท่านั้น ไม่ร้าวไปทั้งแผ่น รวมทั้งจุดที่แตกยังสามารถป้องกันลมและฝนไม่ให้ซึมเข้ามาภายในได้ จึงยังสามารถใช้งานและขับขี่ต่อไปได้อย่างสบาย โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานได้ทนทานและยาวนาน อย่างไรก็ตามการเสื่อมหรือเริ่มหมดอายุเจะมีลักษณะเป็นฝ้าตามขอบและมุมกระจก

จะรู้ได้อย่างไรว่ากระจกที่ติดรถเรามานั้น เป็นกระจกชนิดใด โดยทั่วไปเค้าจะพิมพ์ประเภทของกระจกติดเอาไว้แถวมุมกระจก แต่ถ้าไม่มีให้สังเกตได้จากเงาสะท้อนของกระจก กระจกแบบ Tempered หลังจากทำความความสะอาด จะพบว่ามีลายสะท้อนออกสีเหลือบฟ้าในแนวตั้ง

อยู่ดีๆ กระจก ก็แตก

ขับรถอยู่ดีๆ กระจกก็เกิดการแตกขึ้นมา ส่วนใหญ่มักคิดกันว่า มาจากอุณหภูมิที่แตกต่างระหว่างภายในรถที่เปิดแอร์ กับอุณหภูมิที่ร้อนจากภายนอก หรือเพราะจอดรถทิ้งไว้กลางแดดจนกระจกรถร้อนจัด แล้วรีบเปิดแอร์ ทำให้กระจกเย็นหรือหดตัวอย่างรวดเร็ว ตัวการที่แท้จริงม่ใช่เรื่องของความร้อน หรือการจอดรถ เรื่องเหล่านี้บริษัทผู้ผลิตกระจกคำนึงถึงเป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอกันอยู่แล้ว

โครงสร้างรถมีปัญหา

รถบางรุ่นบางยี่ห้อ โดยเฉพาะรถบางล็อต อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของโครงสร้าง จากการประกอบที่ไม่สมบูรณ์ มีการบิดอยู่เล็กน้อย เมื่อตัวรถมีการบิดตัว หรือเกิดการกระแทกแรงๆ อย่างเช่นการเลี้ยวโค้ง หรือตอนกระโจนผ่านคอสะพานแรงๆ ก็อาจจะทำให้กระจกแตกได้

กระจกเป็นโรคเครียด

เรื่องนี้มักเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ไม่ทราบ คือกระจกบังลมหน้าได้รับความเครียด จนกระทั่งทำลายความแข็งแรงของกระจกให้หมดไป ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่มีร่องรอยบ่งบอก สำหรับตัวสร้างความเครียด มักเกิดขึ้นจากการกระทบกับวัสดุขนาดเล็ก พวกเศษหินที่ดีดมาจากรถคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทาง ทำให้เกิดเป็นรอยร้าวเล็กๆ ขึ้นในเนื้อกระจก เล็กมากจนกระทั่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และเมื่อกระจกได้รับความร้อนจากแสงแดด ในกรณีที่กระจกมีรอยร้าว หรือรอยกะเทาะเกิดขึ้น การขยายตัวก็ต่างกันไม่สม่ำเสมอเท่าเทียมกัน และเป็นตัวการที่ทำให้กระจกแตก

เปลี่ยนกระจกใหม่

โดยทั่วไปการเปลี่ยนกระจกใหม่จากทางบริษัทรถมักจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะกระจกที่นำมาเปลี่ยนนั้นได้มาตรฐาน อุปกรณ์ในการเปลี่ยนก็ได้มาตรฐาน แต่มีหลายท่านที่ไม่นิยมเปลี่ยนกระจกกับทางศูนย์ เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่จะเลือกซื้อจากร้านกระจกทั่วไป ซึ่งมีเรื่องหลายอย่างที่ต้องใส่ใจ เพราะอาจเกิดปัญหากระจกแตกหรือเกิดการรั่วซึมในภายหลังได้

รูปแบบของการติดตั้ง การยึดกระจกเข้ากับตัวรถนั้นมีหลายแบบเช่น แบบใช้ยางขอบกระจก หรือแบบใช้กาวหยอดแล้ววางประกบลงไป พวกรถที่ใช้ยางขอบกระจกควรจะเปลี่ยนยางขอบกระจกทุกครั้ง ทั้งนี้เพราะยางที่ผ่านการใช้งานไปจะเข้ารูปกับกรอบสนิท เมื่อมีการถอดออกมาแล้วใส่เข้าไปใหม่ อาจเกิดการยืดตัว หรือไม่เข้ากับรอยเดิมได้สนิท มักจะทำให้เกิดการรั่วซึม

ส่วนประเภทที่ใช้กาวหยอดยึดเอาไว้ ก็ต้องมีการขูดเอากาวเดิมออกให้หมด พร้อมทำความสะอาด รวมทั้งเทคนิคในการติดตั้งก็ต้องมีเยอะด้วย ไม่ว่าจะเป็นชนิด ปริมาณ และ ตำแหน่งของกาวที่ใช้ ระยะเวลาที่รอให้กาวเซ็ทตัว การเว้นช่องว่างของกระจก การวางตำแหน่งกระจกไม่ได้ฉาก ฯลฯ

กระจกมาตรฐานต่ำ กระจกรถมีทำขึ้นมามากมายหลายบริษัท ตั้งแต่คุณภาพของเนื้อกระจก ไม่ว่าจะเป็นความใสหรือการหลอกตา ขนาดของกระจกไม่ได้มาตรฐาน ทั้งความกว้าง ความยาว และความหนาด้วย บางทีเป็นของคัดเกรดทิ้งมาจากบริษัทรถ ซึ่งไม่ได้สเป็คตามที่กำหนด แล้วคนผลิตเสียดายไม่อยากทุบทิ้ง เลยนำออกมาจำหน่ายในราคาถูก ถ้าผิดสเป็คเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามากนักมันก็มีปัญหาได้

โครงสร้างตัวถัง พวกรถที่มีอุบัติเหตุอาจได้รับการซ่อมแซมมาไม่ดีเท่าที่ควร โครงสร้างมีการบิดตัว แบบนี้ก็มีปัญหากับการเปลี่ยนกระจก ถ้าพบว่ารถเคยมีอุบัติเหตุแม้จะไม่เกี่ยวกับโครงหลังคา และกระจกแตกเป็นประจำหรือเกิดการรั่ว อาจมีปัญหากับโครงสร้างตัวรถ ซึ่งเกิดการบิดตัวอันเป็นผลกระทบจากการชนมานั่นเอง

เครดิต: ยานยนต์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์