“มิวนิค รี” เผยปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นปีอุตสาหกรรม ประกันภัย ต้องจ่ายสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกสูงสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ด้วยยอดเคลมรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.75 ล้านล้านบาท โดยภัยที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือ แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้น 2 ครั้งซ้อนในญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สำนักข่าวเอพี เผยรายงานผลสำรวจความเสียหายประจำปีที่ บริษัท มิวนิค รี ค่าย ประกันภัย ต่อชั้นนำจากเยอรมนีจัดทำขึ้น โดยรวบรวมความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในรอบปี 2559 ที่ผ่านมาพบว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลกมูลค่าถึง 1.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.12 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ทำ ประกันภัย ไว้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.75 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 29% ของความเสียหายทั้งหมด

สำหรับเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายสูงสุด คือ แผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน ขนาด 6.4 ริคเตอร์ และ 7.3 ริคเตอร์ ที่เกาะคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 และ 16 เมษายนที่ผ่านมา และทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมานับร้อยๆ ครั้ง ที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายที่มีการทำ ประกันภัย ไว้ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.1 แสนล้านบาท ขณะที่น้ำท่วมหนักในจีน เมื่อเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากเป็นลำดับที่ 2 ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่ทำ ประกันภัย ไว้เพียง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.05 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ส่วนพายุเฮอริเคน “แมทธิว” ที่ถล่มพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลแคริบเบียน และโซนตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากเป็นอันดับที่ 3 คิดเป็นมูลค่า 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.57 แสนล้านบาท เป็นความเสียหายที่ทำ ประกันภัย ไว้ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.33 แสนล้านบาท

มิวนิค รี ยังเปรียบเทียบความเสียหายระหว่างปี 2559 กับปี 2558 ว่า ในปี 2558 มีความเสียหายน้อยกว่า โดยเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น คิดเป็นมูลค่า 1.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.6 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มี ประกันภัย คุ้มครอง 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.12 ล้านล้านบาท เป็นผลสืบเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ทำให้พายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเกิดน้อยลง ส่งผลให้ความเสียหายโดยรวมลดลงด้วย

แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ภัยพิบัติ 8,700 คน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 มีจำนวน 25,400 คน

กรรมการ มิวนิค รี ให้ความเห็นว่า แม้สินไหมทดแทนในปีที่ผ่านมาจะสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา แต่จัดอยู่ใน “ช่วงกลางๆ” หลังจาก 3 ปีก่อนหน้านี้ ลอสส์ค่อนข้างต่ำ แต่อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า “ความเสียหายเพียงปีเดียว ไม่สามารถที่จะถูกมองว่าเป็นแนวโน้มในปีถัดๆ ไปได้ ขณะที่ความเสียหายที่ไม่มี ประกันภัย คุ้มครอง อยู่ในสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทีเดียว”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์