นายกสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจวินาศภัยต้องเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้ผลประกอบการโดยรวมมีเบี้ย ประกันภัย รับ 202,279 ล้านบาท ขยายตัว 1.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งก็เป็นผลมาจากการขยายตัวของ ประกันภัย เบ็ดเตล็ด มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง 73,027 ล้านบาท ขยายตัว 2.74%

ขณะที่การ ประกันภัย ทางทะเลและขนส่ง มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง 5,343 ล้านบาท ขยายตัว 0.74% ประกันอัคคีภัย มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง 10,485 ล้านบาท หดตัวลง 5.21% ในปีที่ผ่านมาการ ประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง 120,424 ล้านบาท ขยายตัว 2.12% และยังมีปริมาณ รถยนต์ ใหม่ที่จดทะเบียนตามกฎหมาย ตั้งแต่ มกราคม-ธันวาคม 2558 มี 2,772,296 คัน ลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปี 2557 ถึงแม้ว่ายอดขายจะลดลง แต่การ ประกันภัยรถยนต์ ยังมีการแข่งขันสูง ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ขอให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย และราคาเบี้ย ประกันภัย ที่เหมาะสมด้วย และควรให้ความสำคัญเรื่องการบริการแก่ลูกค้า มากกว่าการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ

สำหรับในปี 2559 นี้จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทางสมาคมฯ จึงไม่ได้คาดหวังให้มีการเติบโตเหมือนที่ผ่านมา แต่ขอให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะจากผลประกอบการในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมานี้ มีเบี้ย ประกันภัย รับโดยตรง 34,573 ล้านบาท หดตัวลง 0.72% ดังนั้นสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องคำนึงถึงการบริหาร พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการนำดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาระบบ ประกันภัย ทั้งการรับ ประกันภัย และเคลมให้มากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยปี 2559 นี้ สมาคมฯ คาดว่าจะมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมโดยตรงรวม 213,945 ล้านบาท เติบโต 2.2%

ที่มา : อาร์วายทีไนน์