ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประชาสัมพันธ์-สื่อสารองค์กร

รถยนต์ ยังไม่ได้โอน ประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองหรือไม่

ผู้เอา ประกันภัย โอน รถยนต์ บริษัทต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ต่อไป ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอา ประกันภัย

รถยนต์ ยังไม่ได้โอน ประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองหรือไม่

มิถุนายน

26

คู่มือตีความกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ออกโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตีความในเรื่องของการโอนรถไว้ว่า

“เมื่อผู้เอา ประกันภัย ได้โอน รถยนต์ แก่บุคคลอื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอา ประกันภัย ตามกรมธรรม์ ประกันภัย นี้ และบริษัทต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์ ประกันภัย ต่อไป ตลอดอายุกรมธรรม์ ประกันภัย ที่ยังเหลืออยู่

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ทำ ประกันภัย ประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ผู้เอา ประกันภัย จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงผู้ขับขี่ให้รับทราบ เพื่อที่จะได้มีการปรับปรุงอัตราเบี้ย ประกันภัย ตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงไป มิฉะนั้นผู้เอา ประกันภัย อาจจะต้องรับผิดชอบในค่าเสียหายส่วนแรกเอง ตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ปรากฏในกรมธรรม์”

การกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่ากรมธรรม์จะไม่สิ้นผลบังคับ เพราะเหตุที่มีการโอน รถยนต์ ไปให้บุคคลอื่น โดยมิได้แจ้งการโอนให้บริษัททราบ ทั้งนี้ เนื่องจากโดยปกติเพียงแค่ผู้เอา ประกันภัย เดิม หรือผู้รับแจ้งโอนแจ้งการโอนให้บริษัททราบ บริษัทก็มักจะให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ดังกล่าวดำเนินต่อไป ตามระยะเวลาเอา ประกันภัย ที่เหลืออยู่ โดยบริษัทเพียงแค่ออกใบสลักหลังเปลี่ยนชื่อผู้เอา ประกันภัย เท่านั้น เงื่อนไขข้อนี้จึงกำหนดให้สิทธิตามกรมธรรม์ติดตามไปกับตัว รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือการโอนใดๆ ก็ไม่ทำให้สัญญา ประกันภัย ตามกรมธรรม์นี้สิ้นผลบังคับ แต่ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอา ประกันภัย ตามกรมธรรม์นี้

ถึงแม้ว่ากฎหมายจะให้สิทธิความคุ้มครองตามกรมธรรม์ติดไปกับตัว รถยนต์ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ถือเป็นเด็ดขาด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาของเจ้าของ รถยนต์ ผู้โอนด้วยว่า มีความประสงค์จะโอนกรมธรรม์ตามไปด้วยหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่าระยะเวลาของความคุ้มครองที่ยังเหลืออยู่นั้น ผู้โอนสามารถเวนคืนกรมธรรม์ได้ โดยจะได้รับค่าเบี้ย ประกันภัย คืนตามระยะเวลาความคุ้มครองที่ยังเหลืออยู่

เช่นเดียวกัน กรณีที่มีการโอนและสัญญาซื้อขายมิได้ระบุถึงสิทธิด้าน ประกันภัย ว่าจะมีการโอนตามไปด้วยหรือไม่นั้น คู่มือตีความฯ ได้ชี้ชัดไว้ว่า …การที่ผู้เอา ประกันภัย ได้โอน รถยนต์ ไปให้บุคคลอื่น โดยข้อตกลงในการโอนนั้น แม้จะมิได้กล่าวถึงและมิได้มีการส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ผู้รับโอนก็ตาม ก็ต้องถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอา ประกันภัย ตามกรมธรรม์นี้แล้ว

ในทางกลับกัน แม้ว่าผู้โอนได้แสดงเจตนาโดยชัดแจ้งว่า ไม่ประสงค์โอนความคุ้มครอง ประกันภัย ตามไปด้วย และมิได้มีการส่งมอบกรมธรรม์ให้กับผู้รับโอน แต่ถ้าผู้โอนยังไม่ได้แจ้งบอกเลิกกรมธรรม์กับบริษัทอย่างเป็นทางการ ในระหว่างนั้นถ้า รถยนต์ คันที่จะโอนไปประสบอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัย ต้องรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ คันนั้นๆ

ส่วนกรณีที่เป็นกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ระบุชื่อผู้ขับขี่ ถ้ามีการโอน รถยนต์ กันแล้ว กฎหมายให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้รับโอน จะต้องแจ้งการเปลี่ยนผู้ขับขี่ให้บริษัทผู้รับ ประกันภัย ได้รับทราบด้วย ทั้งนี้เพื่อว่าจะได้มีการปรับปรุงเบี้ย ประกันภัย ใหม่ให้ถูกต้องตามสภาพความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยการปรับปรุงจะเริ่มนับ ณ วันที่บริษัทได้รับการแจ้งเปลี่ยนแปลง โดยคิดอัตราเบี้ย ประกันภัย เฉลี่ยรายวัน ตามระยะเวลาคุ้มครองที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งผู้รับโอนอาจจะต้องจ่ายเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น หรืออาจจะได้รับการคืนเบี้ย ประกันภัย บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่ที่ขอเปลี่ยนแปลงชื่อนั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูงหรือต่ำกว่าผู้ขับขี่เดิม

ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงในเรื่องชื่อผู้ขับขี่นั้นสามารถทำได้ทุกกรณี คือจากมีชื่อผู้ขับขี่ เป็นไม่มีชื่อก็ได้ หรือจากไม่มีชื่อ ให้เป็นมีการระบุชื่อก็ได้

แต่ถ้าผู้รับโอนไปแล้วไม่ได้แจ้งมีการเปลี่ยนชื่อผู้ขับขี่ เพราะเข้าใจในเบื้องต้นว่าความคุ้มครอง ประกันภัย ย่อมติดตามไปกับตัว รถยนต์ ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องแต่ไม่ครบถ้วน เพราะถ้า รถยนต์ ที่รับโอนไม่ว่าใครจะเป็นผู้ขับขี่ก็ตาม ถ้า รถยนต์ คันนั้นๆ ไปประสบอุบัติเหตุ ทำให้ตัว รถยนต์ เสียหายหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเสียหาย ผู้ที่รับโอนจะต้องมาร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกเอง เป็นจำนวนเงินใดจำนวนเงินหนึ่ง หรือทั้ง 2 จำนวนแล้วแต่กรณี ดังนี้

จ่าย 2,000 บาท สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

จ่าย 6,000 บาท ของความเสียหายต่อ รถยนต์ ที่เกิดจากการชนหรือการคว่ำ

และที่สำคัญถ้ามีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่เป็นตัวเงิน บริษัทประกันภัย จะจ่ายให้กับผู้เอา ประกันภัย เดิม ที่ระบุชื่ออยู่ในกรมธรรม์ หรือทายาทตามกฎหมายเท่านั้น

สรุปได้ว่า ในกรณีเจ้าของ รถยนต์ คันเดิมในฐานะผู้โอนคงไม่มีประเด็นอะไรให้พะวงมากนักในเรื่องของ ประกันภัยรถยนต์ แต่ถ้าเป็นผู้รับโอนต้องถือเป็นหน้าที่ ดำเนินการตรวจสอบกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ว่ามีการระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อความคุ้มครองดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่ถ้าให้ปลอดปัญหา 100% รับโอน รถยนต์ ครั้งใด ต้องแจ้งให้ บริษัทประกันภัย รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงทันที

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์