ประกันภัยรถยนต์ จะสามารถเข้ามาดูแลผู้ได้รับความเสียหาย ในลักษณะของการใช้ รถยนต์ ประเภท ประมาท เจตนาชน และมึนเมาจากยาเสพติด ได้หรือไม่อย่างไร

คำถาม: เป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมใคร่รู้ เรื่องระบบ ประกันภัยรถยนต์ จะทำงานอย่างไร ต่อกรณี รถบรรทุก 6 ล้อ วิ่งตะบึงเพราะฤทธิ์ยาเสพติด แล้วชนแหลกประมาณ 34 คัน

คำตอบ: ก่อนอื่นต้องมาดูข้อมูลการ ประกันภัย ของ รถยนต์บรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว ซึ่งเป็นที่แน่ชัดได้ว่ามี ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3 คุ้มครองอยู่ โดยมีทุนความคุ้มครองต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 6 แสนบาท และคุ้มครองต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอกอีก 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครองจาก ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับอีกด้วย

ข้อมูลสำคัญอีกประการหนึ่งนั้นก็คือ พฤติกรรมที่ทำให้เกิด ซึ่งสรุปได้สั้นๆ ว่า ประมาท เจตนา หรือมึงเมาจากสารยาเสพติด จะมีผล หรือเข้าข่ายข้อยกเว้น ไม่คุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ประกันภัย หรือไม่

ประเด็นคุ้มครองหรือไม่ ประเด็นนี้ทางบริษัทที่รับ ประกันภัย ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า ให้ความคุ้มครอง เพราะไม่เข้าข่ายยกเว้น โดยเฉพาะประเด็นมึนเมาจากยาเสพติดนั้น ในเงื่อนไขกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ยกเว้นไม่คุ้มครองเฉพาะกรณี มึนเมาสุรา และมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 150 มิลลิกรัม (พ.ร.บ.จราจร เมาแล้วขับ แค่เกิน 50 มิลลิกรัม ผิดกฎหมาย)

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากข้อมูลเบื้องต้น มีความเสียหายเฉพาะตัว รถยนต์ 34 คันเท่านั้น ซึ่งประเมินดูแล้วน่าจะมีความเสียหายมากกว่าทุน ประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครอง ซึ่งอยู่ที่ 6 แสนบาท กรณีอย่างนี้ บริษัท ประกันภัย จะใช้หลักเฉลี่ยความเสียหาย ด้วยการเรีอกผู้เสียหายมาทั้งหมด เพื่อตกลงกันตามระดับความเสียหาย เสียหายน้อยได้น้อย เสียหายมากได้มาก ตามสัดส่วน แต่ไม่เกิน 6 แสนบาท ส่วนความเสียหายที่มากกว่าเงินสินไหมที่ได้รับ ทางผู้เสียหายคงไปเรียกร้องต่อเจ้าของ รถบรรทุก 6 ล้อเอง

ในทางกลับกันถ้า รถยนต์ คันที่ถูกชนมี ประกันภัย ประเภท 1 คุ้มครอง หรือมีกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ แบบเฉพาะภัย (ตระกูลบวก) ให้ความคุ้มครอง จะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะกรมธรรม์ ประกันภัย ที่มีอยู่ จะทำงานได้ความคุ้มครองก่อน แต่ไม่เกินวงเงินทุน ประกันภัย ที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ กลางง่ายๆ ว่าบริษัท ประกันภัย ของ รถยนต์ คันที่ถูกชนจะซ่อมแซม รถยนต์ ให้ก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะใช้หลักของการรับช่วงสิทธิ (ประกันภัยค้ำจุน) ไปเรียกร้องความเสียหายจากบริษัท ประกันภัยรถยนต์ คู่กรณี และถ้ายังมีความเสียหายที่เกินกว่า ก็จะไล่เบี้ยต่อไปยังเจ้าของ รถยนต์

“มี ประกันภัย คุ้มครอง เกิดอุบัติเหตุครั้งใดยังยิ้มได้เสมอ”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์