สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) ได้ประกาศความผิดของบริษัท ประกันภัย ผ่านเว็บไซต์ คปภ. (www. oic.or.th) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าจะแก้ไขจนพ้นผิด หรือจ่ายค่าปรับเรียบร้อยแล้ว แต่การประกาศความผิดยังกินเวลานานหลายเดือน โดยล่าสุดประกาศลงวันที่ 23 ตุลาคม 2556 มีบริษัทประกันวินาศภัยถูกเปรียบเทียบปรับทั้งสิ้น 7 ราย

โดยเป็นความผิดฐานดำรงเงินกองทุนฯ ไม่ครบถ้วน 1 ราย และแก้ไขเรียบร้อยแล้ว คือ บมจ.เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) ทำความผิดฐานดำรงเงินกองทุนฯ ไม่ครบตามกฎหมาย ตั้งแต่สิ้นปี 2555 โดยมีเงินกองทุนฯ เพียง 18.29 ล้านบาท จากจำนวนที่ต้องดำรงให้ครบถ้วนตามกฎหมาย 46.99 ล้านบาท แต่เมื่อ 31 มีนาคม 2556 บริษัทได้แก้ไขฐานะการเงินและดำรงเงินกองทุนฯ ครบถ้วนตามกฎหมายแล้วจำนวน 275.97 ล้านบาท และสามารถรับประกันภัยได้ตามปกติ

ส่วนความผิดเนื่องจากประวิงจ่ายสินไหม และชำระค่าปรับเรียบร้อยแล้ว 1 ราย ได้แก่ บมจ.ไทยเศรษฐกิจ ประกันภัย ประวิงจ่ายสินไหมให้กับผู้เอา ประกันภัย กรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ถูกปรับเป็นเงิน 250,000 บาท โดยบริษัทได้ชำระค่าปรับแล้ว

ถูกปรับฐานออกกรมธรรม์ ประกันภัย ทรัพย์สิน และเอกสารแนบท้ายฉบับภาษาอังกฤษให้กับผู้เอา ประกันภัย โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนจำนวน 3 ราย ซึ่งชำระค่าปรับแล้ว ได้แก่ บ.นิวแฮมพ์ เชอร์อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย, บ. นิว อินเดีย แอสชัวรันซ์ จก. และบมจ.ไทยไพบูลย์ ประกันภัย

ส่วนอีก 2 ราย คือ บมจ.เจ้าพระยา ประกันภัย มีความผิดฐานประวิงสินไหม แก่ผู้รับประโยชน์ตามสัญญา ประกันภัย อิสรภาพแก่ศาล ภายในระยะเวลาที่กำหนด และยังไม่ชำระค่าปรับจำนวน 250,000 บาท โดยยังอยู่ระหว่างดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ชำระค่าปรับตามสัญญา ประกันภัย อิสรภาพให้แก่ศาลแขวงดุสิตแล้ว

และบมจ.ฟีนิกซ์ ประกันภัย (ประเทศไทย) มีความผิดจัดสรรเงินสำรองเบี้ย ประกันภัย ที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัท และเงินสำรองสำหรับค่าสินไหมของบริษัท ในเดือนพฤษภาคม 2554 - มีนาคม 2555 ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ถูกปรับเป็นเงิน 187,500 บาท และกระทำความผิดต่อเนื่อง ปรับเป็นรายวัน 305 วัน เป็นเงิน 1.525 ล้านบาท รวมเป็น เงิน 1.7125 ล้านบาท บริษัทยังไม่ชำระค่าปรับเช่นกัน อยู่ระหว่างดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่บริษัทจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายแล้ว

อย่างไรก็ดี กรณีฟีนิกซ์ฯ อยู่ในข่ายบริษัท ประกันภัย กลุ่มฐานะการเงินอ่อนแอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ คปภ.ต้องจับตาใกล้ชิด โดยเมื่อต้นปีก่อนถูกสำนักงาน คปภ.สั่งหยุดรับ ประกันภัย ชั่วคราวไปแล้ว เนื่องจากความผิดหลายกระทง หนึ่งในนั้นคือเงินกองทุนฯ ต่ำกว่ากฎหมาย ก่อนที่จะแก้ไขด้วยการลดทุนจดทะเบียนลง 250 ล้านบาท จากเดิม 600 ล้านบาท เหลือ 350 ล้านบาท พร้อมเพิ่มทุนอีก 2 ครั้งรวม 130 ล้านบาท จนปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 480 ล้านบาท ชำระเต็มจำนวน

ขณะที่เจ้าพระยา ประกันภัย ก่อนหน้านี้ได้เพิ่มทุนอีก 500 ล้านบาท จากเดิม 380 ล้านบาท รวมเป็น 880 ล้านบาท โดยชำระเงินเพิ่มทุนแล้ว 210 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าบริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต จำกัด หลังจากได้ผู้ร่วมทุนใหม่คือกลุ่ม "ฟิลลิป" โบรกเกอร์หุ้นแถวหน้าของสิงคโปร์ ที่เข้ามาซื้อหุ้นกว่า 90% พร้อมกับเพิ่มทุนก้อนใหญ่เข้ามา 1,500 ล้านบาท เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เงินกองทุนยังไม่ถึงเกณฑ์กฎหมายกำหนด ข่าวจากสำนักงาน คปภ. กล่าวว่า กลุ่มฟิลลิปเตรียมจะเพิ่มทุนใหม่อีก 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนน่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ความเพียงพอของเงินกองทุนฯ หรือคาร์ เรโช ตามเกณฑ์ RBC ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 250-260% อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เงินกองทุนฯ เพิ่มขึ้น ยังมาจากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้สินทรัพย์ของบริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อเงินกองทุนฯ

ที่มา : สยามธุรกิจ