"ไมโครอินชัวรันส์" คลอดแล้ว เบี้ย ประกันภัย 200 หรือวันละ 54 สตางค์ ตาย-พิการจากอุบัติเหตุจ่าย 150,000 หากเป็นอุบัติเหตุจาก จยย.ให้แค่ 5 หมื่น พร้อมค่าปลงศพอีกหมื่นบาท พะยี่ห้อ " ประกันภัย 200" คปภ.ทาบเซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้ โลตัส วางขายทั้งแผ่นดิน เล็งรูปแบบใหม่ เปิดตู้ขายอัตโนมัติทุกจุด ให้อิสระทุกบริษัท ประกันภัย ใครอยากขายยื่นขออนุมัติ เล็งฤกษ์ขาย ช้าสุดสัปดาห์ ประกันภัย ต้นเดือนกันยายน ด้านเอกชนชง 2 ข้อเสนอ คัดเลือกลูกค้าได้ ใครเสี่ยงสูงไม่รับ หวั่นเอาหมดขาดทุนเหมือนเอื้ออาทร และไม่ต้องตั้งพูล ต่างคนต่างขาย วงในผวาเจ๊งยับเหตุเบี้ย ประกันภัย ถูก ชี้ราคาที่คุ้มทุน 280 บาท

รองเลขาธิการด้านกำกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปแบบ ประกันภัย เพื่อรายย่อย หรือไมโครอินชัวรันส์แล้ว ซึ่งจะชื่อว่า " ประกันภัย 200" มาจากเบี้ย ประกันภัย 200 บาท หรือวันละ 54 สตางค์ เป็น ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) คุ้มครองเสียชีวิต และทุพพลภาพภาวร สูญเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุวงเงิน (ทุน ประกันภัย ) 150,000 บาท หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์จ่าย 50,000 บาท ทุพพลภาพจ่าย 30,000 บาท และค่าปลงศพการเสียชีวิตทุกกรณีให้อีก 10,000 บาท โดยมีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ก่อนกรมธรรม์เริ่มคุ้มครอง 120 วัน

ทั้งนี้ คปภ.เปิดให้ขาย ประกันภัย แบบสมัครใจ บริษัท ประกันภัย แห่งใดสนใจขาย สามารถยื่นขออนุมัติเข้ามาที่ คปภ.ได้ ส่วนช่องทางจำหน่ายขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท จะขายผ่านช่องทางใด เบื้องต้นทาง คปภ.ได้หารือกับทางเทสโก้โบรกเกอร์ เพื่อวางจำหน่ายในห้างเทสโก้โลตัส และเคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ให้บริการในเซเว่นอีเลฟเว่น รวมถึงกำลังพิจารณาที่จะเปิดเป็นตู้ขายอัตโนมัติ สำหรับการนำไปตั้งวางขายในสถานที่ต่างๆ ด้วย

คปภ.กำลังแก้ไขกฎระเบียบในเรื่องของช่องทางขาย เพื่อเปิดทางให้แบบ ประกันภัย 200 บาท สามารถขายผ่านช่องทางต่างๆ ได้อย่างสะดวก แต่จะอนุญาตให้เฉพาะแบบ ประกันภัย ตัวนี้เท่านั้น ไม่รวมแบบ ประกันภัย ไมโครอินชัวรันส์ตัวอื่นๆ โดยขอดูยอดขายของ ประกันภัย 200 นี้ก่อน หากไปได้ดีก็จะอนุญาตไปยังแบบ ประกันภัย อื่นๆ ต่อข้อถามเบี้ย ประกันภัย แค่ 200 บาท คุ้มครอง 150,000 บาท ในระยะยาวจะขาดทุนเหมือน ประกันภัย เอื้ออาทรหรือไม่

ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเสี่ยง แต่ก็ต้องทดลองออกมาขายก่อน และจะดูที่อัตราความเสียหาย (Loss Ratio) อีกครั้ง ถ้าสูงก็อาจจะปรับเบี้ย ประกันภัย ซึ่งในท้องตลาดมีบริษัทขายในอัตราเบี้ย ประกันภัย ไม่ถึง 200 บาทอยู่ คปภ.ไม่อยากให้ขายแพงกว่านี้ อยากให้คนซื้อง่าย จำนวนคนซื้อจะได้เยอะ หากเทียบเบี้ย ประกันภัย 200 บาท ทุน 150,000 บาท มีคนเสียชีวิตรายเดียวก็จ่ายไม่มาก แต่ถ้าเบี้ยแพงกว่านี้ แล้วคุ้มครอง 1 ล้านบาท เจอเสียชีวิตแค่รายเดียวขาดทุนทันที อย่างไรก็ดี คปภ.ยังไม่ได้กำหนดวันเปิดขายจริง อาจจะเปิดขายพร้อมกับงานสัปดาห์ ประกันภัย ต้นเดือนกันยายน หรืออาจจะเปิดตัวก่อน

นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ อยากให้สินค้า ประกันภัย รากหญ้ามีความหลากหลาย มีเบี้ยและทุน ประกันภัย หลายแบบอาจจะ 3-4 ชนิด ให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ แทนที่จะมีให้เลือกได้แค่แบบเดียว เพราะรากหญ้ามีหลายกลุ่ม เหมือน ประกันภัย เอื้ออาทร ที่ยังมีให้เลือกหลายแบบ บริษัท ประกันภัย เอง เวลาพบลูกค้าสามารถที่จะนำเสนอแบบ ประกันภัย ที่เหมาะสมกับลูกค้าได้ อีกทั้งฐานลูกค้าไม่ได้มีแค่รากหญ้าอย่างเดียว ยังมีกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้นมา และยังไม่เข้าสู่ระบบ ประกันภัย สามารถต่อยอดได้

"เราอยากให้มีสินค้าทุกกลุ่ม หากคนไม่สนใจตัวนี้ ยังมีตัวอื่นให้เลือก เหมือนบริษัทเวลาออกสินค้า จะออกหลายตัวให้ลูกค้าเลือก เรามองว่าไมโครอินชัวรันส์ น่าจะมีซัก 2-3 แบบให้ประชาชนเลือก ตัวไมโครอินชัวรันส์ที่จะออกมา คปภ.ให้ลูกค้าซื้อได้คนละ 2 กรมธรรม์"

นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ให้ความเห็นว่า เท่าที่ดูรายละเอียดความคุ้มครอง ช่องทางขายที่ตัวแทนนายหน้า รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อ ซึ่งทาง คปภ.จะช่วยประชาสัมพันธ์ในแง่ของจุดขายใดบ้าง ที่จะสามารถเดินไปซื้อได้ รวมทั้งการเป็นภาคสมัครใจ ใครจะขายไม่ขายก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ยังต้องไปดูรายละเอียด ในเรื่องของกระบวนการต่างๆ ที่จะมารองรับการขายก่อน ว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง

ขณะที่ข่าวจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งกล่าวว่า การมีระยะเวลารอคอย 120 วันน่าพอใจ ที่ยังพอมีช่วงเวลาที่ไม่น่าจะทำให้เกิดการทุจริต นำคนป่วยหนักมาทำ ประกันภัย ซึ่งจะส่งผลถึงยอดเคลม แต่ในแง่ของการขายจริงนั้น ยังไม่แน่ใจว่าจะได้รับความสนใจจากบริษัทประกันชีวิตมากนัก เพราะเบี้ย ประกันภัย ถูกอาจจะไม่คุ้มกับการขาย

ข่าวจากสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะทำงาน 2 สมาคมฯ ขอให้ คปภ.ทบทวน 2 เรื่องคือ 1. ในแง่การรับ ประกันภัย ขอให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ มีกระบวนการคัดเลือกลูกค้าได้เหมือนปกติ ถ้ารายไหนเสี่ยงสูง สามารถปฏิเสธไม่รับ ประกันภัย ได้ เพราะประสบการณ์จาก ประกันภัย เอื้ออาทรที่ต้องรับทุกราย ทำให้ขาดทุนสูงมาก ซึ่งลูกค้ามีหลายกลุ่ม บางกลุ่มไม่เสี่ยงมาก เบี้ย ประกันภัย 200 บาทอยู่ได้ และ 2. ให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ ขายเป็นอิสระ ต่างคนต่างรับ ประกันภัย ไม่ต้องตั้งเป็นกองกลาง หรือพูลเหมือน ประกันภัย เอื้ออาทร เพราะกลัวจะซ้ำรอยเดิม ขาดทุน

"การขายผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น และเทสโก้ โลตัส ก็ดี มีเครือข่ายเยอะ น่าจะกระจายสินค้าไปถึงชุมชนได้เยอะ แต่ต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย ประกันภัย ไม่ใช่สินค้าขายง่ายแบบขนมจีบ ซาลาเปา คนขายต้องมีความรู้ เวลาคิดเบี้ย ประกันภัย เราเอาฐานคนเยอะๆ มาคิด อย่างคนไทยมี 60 กว่าล้านคน พอเอาเข้าจริง มาซื้อไม่เท่าไหร่ อย่าง ประกันภัย เอื้ออาทร รัฐตั้งเป้าลูกค้า 10 ล้านคน พอทำจริงมีแค่ 3-4 แสนคน อีกทั้งมีแต่คนเสี่ยงสูง เข้ามาทำโครงการแบบนี้ ถ้าจะให้อยู่ได้ต้องมีลูกค้า 10 ล้านคนขึ้นไป"

ด้านบริษัท ประกันภัย แห่งหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า เบี้ย ประกันภัย 200 บาทต่ำมาก โอกาสขาดทุนสูง เพราะถ้าคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์ ประกันภัย ยึดจากอัตราความเสียหายของ ประกันภัย เอื้ออาทร ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น เบี้ยที่คุ้มทุนอยู่ที่ 280 บาท แล้วบนความคุ้มครองข้างต้น

ที่มา : สยามธุรกิจ