ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

กำหนดราคาเบี้ย ประกันภัย ข้าว 'รีอินชัวร์ฯ'

รีอินชัวร์เรอร์จ่อขึ้นเบี้ย ประกันภัย ข้าว ค่าสินไหมสูงกว่าเบี้ยเกือบ 6 เท่า เสนอจัด 5 โซนกระจายความเสี่ยง ลดการใช้พื้นที่ท่วมปลูกข้าว ก่อนเข้า ครม.

กำหนดราคาเบี้ย ประกันภัย ข้าว 'รีอินชัวร์ฯ'

กรกฎาคม
7

กรรมการสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานไปยังบริษัทผู้รับ ประกันภัย ต่อ หรือรีอินชัวร์เรอร์ เพื่อให้เสนออัตราเบี้ย ประกันภัย สำหรับคุ้มครองพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2556/57 โดยคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งเบื้องต้นจากข้อมูลที่รีอินชัวเรอร์ตอบกลับมานั้น จะมีการกำหนดพื้นที่รับ ประกันภัย ออกเป็น 5 เขต (โซน) โดยใช้สีเป็นตัวกำหนดความเสี่ยง และคิดอัตราเบี้ย ประกันภัย ตามความเสี่ยงนั้นๆ ตั้งแต่ไร่ละ 500-600 บาท จนถึง 100-200 บาท หรือขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล

"พื้นที่ที่เสียหายสูง หรือท่วมซ้ำซาก เป็นพื้นที่เสี่ยงระดับ 5 กำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดง ไล่ไปจนถึงพื้นที่สีเขียวอ่อน ถือเป็นความเสี่ยงระดับ 1 หรือเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก นอกจากนี้ยังใช้สถิติความเสียหายภาคการเกษตร ย้อนหลัง 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2555-2551) ว่าแต่ละพื้นที่มีอัตราความเสียหายจากน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือศัตรูพืชอย่างไร ซึ่งบางเขตมีอัตราความเสียหายต่อไร่สูงถึง 50-60% "

อย่างไรก็ดี หลังจากรีอินชัวร์เรอร์เสนออัตราเบี้ย ประกันภัย กลับมายังสมาคมแล้ว จากนั้นสมาคมจะเสนอเรื่องไปยังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อขอมติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ สำหรับช่วยเหลือเกษตรกร เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือในระดับที่ต่ำกว่า หากเกษตรกรซื้อ ประกันภัย น้อยหรือใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่มีพื้นที่รวมกันทั่วประเทศไม่ถึง 1 ล้านไร่ เนื่องจากไม่ต้องใช้งบประมาณ ในการอุดหนุนแก่เกษตรกรมาก

"อัตราเบี้ย ประกันภัย ที่ทางรีอินชัวเรอร์จะเสนอกลับมานั้น จะคิดเบี้ยตามความเสี่ยง เรียกว่าขายตามความเสี่ยง พื้นที่ไหนเสี่ยงมากเบี้ยก็ต้องแพง ส่วนพื้นที่ไหนเสี่ยงต่ำ หรือนานๆ จะท่วมสักครั้ง เบี้ยก็จะลดลง อาจอยู่ที่หลักร้อยบาทต้นๆ เพื่อลดการนำพื้นที่เสียหายสูงมาปลูกข้าว ขณะที่ค่าสินไหมที่เกิดจากความเสียหาย ก็ยังจ่ายในอัตราเท่ากับปีก่อนๆ ทั้งนี้แต่ละโซนจะไม่กำหนดจำนวนการซื้อขั้นต่ำ เรียกว่าจะซื้อคุ้มครองกี่ไร่ก็ได้ ตามที่ได้เคยขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ ตามหนังสือสัญญาขึ้นทะเบียนเกษตรกร"

ขณะที่กรณีที่รีอินชัวเรอร์เตรียมปรับขึ้นเบี้ย ประกันภัย นั้น เชื่อว่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 2 ปีที่ผ่านมา (2554-2555) โครงการ ประกันภัย มีอัตราความเสียหายสูง โดยบริษัท ประกันภัย ต้องจ่ายค่าสินไหมแก่เกษตรกร รวมกันสูงกว่าทุน ประกันภัย 5-6 เท่า หรือมีเกษตกรซื้อ ประกันภัย คิดเป็นเบี้ย ประกันภัย 120 ล้านบาท ขณะที่ต้องจ่ายสินไหมสูงถึง 760 ล้านบาท ส่วนในปี 2555 เกิดภัยแล้งมีพื้นที่ได้รับความเสียหาย คิดเป็นค่าสินไหมสูง 200 ล้านบาท ขณะที่มีเบี้ย ประกันภัย อยู่ที่ระดับเพียง 100 ล้านบาท

ด้านผู้อำนวยการสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า คาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถหาข้อสรุปเรื่องอัตราเบี้ย ประกันภัย สำหรับคุ้มครองพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปี ฤดูกาลผลิต 2556/57 ได้ จากนั้นน่าจะสามารถเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยไม่มีเรื่องติดขัด และคาดว่าจะสามารถเสนอขายแก่เกษตรกรผู้สนใจ ได้ภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2556

อนึ่ง สำหรับอัตราเบี้ย ประกันภัย เบื้องต้น ทางรีอินชัวร์เรอร์ ส่งสัญญาณขอปรับขึ้นเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น จากเดิมที่คิดอัตราเบี้ย ประกันภัย ไร่ละ 120 บาท เนื่องจากอัตราความเสียหายในช่วงที่ผ่านมา อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ทำให้รีอินชัวร์เรอร์ต้องจ่ายค่าสินไหมในระดับที่สูงตามมา ทั้งนี้ความคุ้มครองเดิม จะคำนวนจาก 7 ภัย แยกเป็นภัยธรรมชาติ 6 ภัย ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย ซึ่งเกษตรกรจะได้รับความคุ้มครอง 1.11 พันบาทต่อไร่ และอีก 1 ภัย จากภัยที่เกิดจากศัตรูพืช โรคระบาด ซึ่งหากเกิดความเสียหาย เกษตรกรจะได้รับคุ้มครองที่ไร่ละ 555 บาท

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ