ธุรกิจ ประกันภัยรถยนต์ มูลค่ากว่าแสนล้านบาทของไทย กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อีกครั้ง ผลพวงจากการประชุมร่วมระหว่าง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และผู้บริหารบริษัท ประกันภัยรถยนต์ ทุกแห่ง ซึ่งทางเลขาธิการคปภ. ให้นโยบายเกี่ยวกับการพัฒนา ประกันภัยรถยนต์ มาหลายเรื่องเพื่อสร้างมาตรฐานด้านการบริการ ดูแลสิทธิประโยชน์ของประชาชน ตลอดไปถึงเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคธุรกิจ รับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558

กรกฎาคมเริ่มกฎใหม่ ประกันรถยนต์ พ.ร.บ. ขาย-ออกกรมธรรม์ผ่านออนไลน์

ข่าวจากสำนักงานคปภ. กล่าวว่า ประเด็นหลักๆ ที่พูดคุยกัน ซึ่งทางเลขาธิการมอบเป็นนโยบายให้ภาคธุรกิจนำไปปฏิบัติมีอยู่ด้วยกัน 4 เรื่อง คือ
1. การส่งเสริมระบบการเบิกค่ารักษาพยาบาล ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถยนต์ จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ (อี-เคลม)
2. การเสนอขาย ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.ผ่านระบบออนไลน์ และการรายงานข้อมูลผ่านเรียลไทม์
3. การทบทวนความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. และ
4. การเปิดเสรี ประกันภัยรถยนต์ ทั้งเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ และค่าคอมมิสชั่น

ทั้งนี้ เลขาธิการคปภ. มีนโยบายตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ให้บริษัท ประกันภัยรถยนต์ ขายและออกกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ผ่านระบบออนไลน์ และให้รายงานข้อมูลการทำ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. แบบเรียลไทม์ หรือทันทีที่ขาย เพื่อประโยชน์ด้านความคุ้มครองผู้ประสบภัย โดยโรงพยาบาลสามารถตรวจสอบกับฐานข้อมูลกลางของคปภ.ได้ทันที ว่ารถยนต์มี ประกันรถยนต์ หรือไม่ อย่างไร รวมถึงให้ระบบอี-เคลม ได้ผลมากขึ้น และให้เป็นมาตรฐานสากล เพราะ ประกันรถยนต์ พ.ร.บ. ไม่ได้คุ้มครองทุกคน ไม่ใช่แค่คนไทย

“ตอนยกเลิกสติกเกอร์ พ.ร.บ.ไปเมื่อหลายปี ก่อน ก็ให้บริษัท ประกันรถยนต์ รายงานข้อมูลการทำ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. มาที่คปภ.เร็วที่สุด กฎหมายกำหนดอย่างช้าไม่เกิน 7 วัน เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ประสบภัย และเช็กยอดรถยนต์ที่ทำ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. แต่ที่ผ่านมาทำได้เพียง 70-80% เจอปัญหา การลงทุนด้านเทคโนโลยีมีต้นทุนสูง ขณะที่การขาย ประกันรถยนต์ พ.ร.บ. คนซื้ออยากได้กรมธรรม์ทันที แม้ความคุ้มครองเริ่มตั้งแต่จ่ายเบี้ยก็ตาม เราคิดว่าระบบที่จะทำให้บรรลุเป้า คือ ออนไลน์ ซึ่งข้อมูลจะเข้าระบบทันที วันนี้การลงทุนเรื่องเทคโนโลยี หรือช่องทางขายผ่านออนไลน์ ทำได้ง่ายและต้นทุนถูก”

ข่าวกล่าวว่า การขายผ่านออนไลน์มีหลายวิธี อาทิ ผ่านเว็บไซต์ หรือขายแบบกล่องที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น หรือโลตัส ซึ่งผู้เอา ประกันภัยรถยนต์ จะโทร.เข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งทางเลขาธิการคปภ. ให้ตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อให้ความช่วยเหลือบริษัท ประกันภัยรถยนต์ โดยเฉพาะไซส์เล็ก ที่อาจจะมีปัญหาด้านเงินลงทุน

จ้าง “ทีดีอาร์ไอ” ศึกษาเพิ่มคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ ต้นทุนพุ่ง/ไซส์เล็กอ่วม

ส่วนประเด็นการทบทวนความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ซึ่งทางเลขาธิการคปภ. มีนโยบายให้เพิ่มความคุ้มครองนั้น ให้คณะทำงานชุดเดิมที่ตั้งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาศึกษาต่อทันที จะเพิ่มตรงไหน อย่างไร ต้องให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด ขณะที่การเปิดเสรี ประกันภัยรถยนต์ ให้ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ศึกษาก่อนนำมาหารือกันอีกครั้ง การที่เริ่มจาก ประกันรถยนต์ ก่อน เนื่องจากธุรกิจ ประกันรถยนต์ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน มีความสามารถที่จะแข่งขันกับต่างประเทศได้ อีกทั้งมีเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ถึง 65% ของธุรกิจประกันวินาศภัยทั้งระบบ ขณะที่สินไหมไม่สูงมาก การปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน

ประธานชมรมสินไหมยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า คปภ. กำลังจะออกประกาศตัวใหม่ ให้ขาย ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ผ่านออนไลน์ และรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบสิทธิ์ของผู้ประสบภัย และรถยนต์ที่เข้าระบบ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. มีกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะแม้ทางกรมการขนส่งทางบกจะบังคับใช้กฎหมาย รถยนต์ต้องมี ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ. ก่อนรับต่อทะเบียน แต่ยังมีรถจำนวนมาก โดยเฉพาะจักรยานยนต์นับล้านคัน ที่ไม่ได้ทำ ประกันภัยรถยนต์ พ.ร.บ.ทั้งที่เป็นกลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด

โดยคปภ.ต้องการให้รถยนต์ เข้ามาสู่ระบบ ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับ เพราะในอนาคตจะมีการเพิ่มความคุ้มครอง ไปถึงทรัพย์สินบุคคลภายนอกด้วย โดยคปภ. จ้างสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาเรื่องนี้อยู่ ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายเบื้องต้น ค่าปลงศพ

ชงกรอบเสรีเบี้ย-คอมม์ไตรมาสสอง

“ภาคธุรกิจต้องปรับตัว รองรับกฎใหม่ของคปภ. ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่มาก ซึ่งหลายบริษัทก็ใช้ระบบนี้อยู่แล้ว บริษัทเล็กอาจจะหนัก แต่สามารถเลี่ยงไปใช้เอาต์ซอร์สได้ ไม่ต้องลงทุนเอง ข้อดีของการขายผ่านออนไลน์ คือข้อมูลเข้าระบบทันที ต่อไปเมื่อเปิดเออีซี มีเรื่องการขนส่งระบบลอจิสติกส์เข้ามาเกี่ยวข้องมาก จะรองรับได้”

ส่วนเรื่องอี-เคลม กล่าวว่า ทางเลขาฯ ขอความร่วมมือให้ทุกบริษัทใช้ เพราะในอนาคตจะมีการกำหนดคุณภาพบริษัท และโรงพยาบาล โดยคปภ. จะออกตราสัญลักษณ์อี-เคลม เพื่อรับรองมาตรฐานการให้บริการ ขณะที่การเปิดเสรี ประกันภัยรถยนต์ ทางสมาคมฯ มีคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้อยู่แล้ว คงจะได้ข้อสรุปและนำเสนอคปภ.ประมาณไตรมาสสองนี้

ที่มา : สยามธุรกิจ