ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัย มารีนเบี้ยพุ่งหลังบาทแข็ง ชี้โตเยอะหลังเออีซี

นำเข้าเชื้อเพลิง สารเคมีจำนวนมาก เงินบาทแข็งค่า 8-9% เบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ตามทุน ประกันภัย ที่จะเพิ่มขึ้นตามมูลค่าสินค้านำเข้า

ประกันภัย มารีนเบี้ยพุ่งหลังบาทแข็ง ชี้โตเยอะหลังเออีซี

มิถุนายน
7

รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทยเศรษฐกิจ ประกันภัย ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการ ประกันภัย ทางทะเลและลอจิสติกส์ (ประกันภัยมารีน) สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งตัว เป็นประโยชน์ต่อ ประกันภัย มารีนอย่างมาก เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่นำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบอื่นๆ จากต่างประเทศ ที่เป็นสินค้าจำเป็น อาทิ สารเคมี เชื้อเพลิงต่างๆ จะเริ่มนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น เพราะต้นทุนสินค้าถูกลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการ ประกันภัย มารีน จะมีการทำ ประกันภัย เพิ่มขึ้น ทำให้ทุน ประกันภัย และเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น

"เงินบาทแข็ง ทำให้เขาจ่ายเงินบาทเพื่อซื้อสินค้าทุนเหล่านี้น้อยลง จะเห็นการนำเข้า สินค้าทุนและวัตถุดิบ อย่างพวกเชื้อเพลิงและสารเคมีจำนวนมาก ในระยะนี้บ้านเรามีแท็งก์ฟาร์มขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่จะใช้เก็บสารเคมีและเชื้อเพลิงอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีพวกกากถั่ว ข้าวมอลต์ ที่ใช้ในการผลิตสินค้าบริโภคต่างๆ เช่น เบียร์ น้ำมันพืช ซึ่งเมื่อผ่านการบริโภคครั้งที่ 1 และ 2 สามารถนำไปทำไบโอดีเซลได้ เงินบาทแข็งยิ่งนำเข้ามาก ทำให้ต้นทุนที่จะผลิตเพื่อส่งออกลดลง"

อย่างไรก็ดี หากประมาณคร่าวๆ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 8-9% เบี้ย ประกันภัย มารีนน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ตามทุน ประกันภัย ที่จะเพิ่มขึ้นตามมูลค่าสินค้าที่นำเข้ามา ส่วนสินไหมทดแทน หากมีความเสียหายเกิดขึ้นในช่วงนี้ไม่มีผล เนื่องจากเวลานำเข้าสินค้าจะมีการระบุวันเวลาที่นำเข้ามา ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้น จะยึดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่นำเข้า มาคำนวณกลับมาเป็นเงินบาทเพื่อจ่ายเคลม

สำหรับภาพรวม ประกันภัย ทางทะเล และลอจิสติกส์ในปีนี้ จะดีมากยิ่งในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จะเติบโตเร็วมากอย่างมีนัยสำคัญ เป็นผลมาจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เนื่องจากไทยเป็นประตูสู่เออีซีมี อาณาเขตติดกับพม่า ลาว กัมพูชา เป็นจุดระบายสินค้าสำคัญของจีน ถือเป็นตลาดลอจิสติกส์ที่สำคัญมาก ทำให้เกิดธุรกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเล และทางบกจำนวนมากในไทย กระตุ้นเบี้ย ประกันภัย มารีนเติบโตอย่างมาก ซึ่งด้วยความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของไทย จึงมีโอกาสที่จะขยายตัวเร็วมากเทียบกับประเทศอื่น

"ตั้งแต่ปีนี้เป็นไปต้นไป จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ ประกันภัย มารีน การที่ไทยเป็นแหล่งลอจิสติกส์สำคัญของเอเชีย การขนส่งสินค้าและพักสินค้าระหว่างทาง จำเป็นต้องทำ ประกันภัย ในประเทศนั้น เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น"

ยกตัวอย่าง ญี่ปุ่นจะสร้างเครือข่ายเพิ่มขึ้น จะให้สินค้าที่ขนส่งมาจากต่างประเทศ สิ้นสุดความคุ้มครองในประเทศไทย ดังนั้นจะทำ ประกันภัย กับบริษัท ประกันภัย ในเครือที่อยู่ในประเทศ เป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างฐานลูกค้า และบริการลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งญี่ปุ่นยังวางไทยเป็นเกตเวย์ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เพราะมั่นใจน้ำไม่ท่วมอีก อีกทั้งไทยยังมีต้นทุนการผลิตที่ดี แรงงานมีทักษะฝีมือดีเทียบกับลาว พม่า กัมพูชา อีกทั้งค่าแรงยังดูกว่ามาเลเซีย และสิงคโปร์ ญี่ปุ่นจะส่งสินค้ามาประกอบในไทย ทำให้เกิดสินค้าใหม่ ซึ่งจะเริ่มความคุ้มครองในไทย ทำให้เบี้ย ประกันภัย ในไทยเพิ่มขึ้น

"จากปัจจัยบวกต่างๆ เชื่อว่า ประกันภัย มารีนจะโตมากเป็นเลข 2 หลัก โดยมีโอกาสทะยานเป็นระยะเทียบกับในอดีต โตก็จริงแต่เป็นไปอย่างช้าๆ แต่นับจากนี้จะโตหวือหวามาก ประกันภัย มารีนเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ ประกันภัย ตัวอื่นๆ โตด้วย เช่น โรงงานขยายกำลังผลิต ต้องซื้อเครื่องจักร ทำให้มีการ ประกันภัย ทรัพย์สินตามมา ทำ ประกันภัย ธุรกิจหยุดชะงัก (BI) ในต่างประเทศก็เป็นแนวทางนี้"

ในปี 2555 อุตสาหกรรมประกันวินาศภัย มีเบี้ย ประกันภัย มารีน 5,189.76 ล้านบาท เติบโต 17.7% ต่ำกว่าการขยายตัวของเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งระบบ ที่เติบโตถึง 27.96% คิดเป็นเบี้ย 179,429 ล้านบาท โดยเบี้ย ประกันภัย มารีน คิดเป็นสัดส่วนแค่ 3% ของเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งระบบ แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัย ตัวเรือต่ำกว่า 422.4 ล้านบาท เติบโต 9.49% และเบี้ย ประกันภัย สินค้า 4,767.37 ล้านบาท เติบโต 18.49% สำหรับในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ประกันภัย มารีนมีเบี้ย ประกันภัย 915.49 ล้านบาท เติบโต 12.1%

ที่มา : สยามธุรกิจ