เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.)เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย ประจำเดือนมีนาคม 2556 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศ คปภ.เรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจอื่น ของบริษัทประกันชีวิต/บริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ....เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารเงินลงทุนในการประกอบธุรกิจอื่นที่สอดคล้องกับลักษณะการรับ ประกันภัยซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ประกันภัย โดยมีการแก้ไขประเด็นหลัก 3 ส่วน ดังนี้
1. ทบทวนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการลงทุนโดยคำนึงถึงความมั่นคง สอดคล้องกับลักษณะการประกอบธุรกิจ และภาระหนี้สินของบริษัท ประกันภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากล อาทิหลักการพิจารณาสัดส่วนการลงทุนในลักษณะ Counterparty limit, Product limit และ Issuer limit
2. ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการลงทุนประกอบธุรกิจอื่น ให้มีความชัดเจนเข้าใจง่ายขึ้นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดเงิน ตลาดทุน เช่นการลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs)
3.เพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนและการประกอบธุรกิจอื่น หลักธรรมาภิบาลและข้อกำหนดเกี่ยวกับความสามารถและความเหมาะสมของบุคคลากร เช่น บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทการแต่งตั้งคณะกรรมการลงทุน คุณสมบัติของผู้รับผิดชอบดูแลการลงทุนของบริษัทและให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ให้สอดคล้องเพียงพอกับสำรอง ประกันภัยและภาระผูกพันที่มีต่อผู้เอา ประกันภัย บริษัทที่ประสงค์หรือมีการลงทุนเกินสัดส่วนที่กำหนด ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน แสดงความพร้อมและขอความเห็นชอบจากสำนักงาน โดยสำนักงานจะพิจารณาการลงทุนเกินสัดส่วนที่กำหนดในลักษณะการลงทุนในพอร์ตการลงทุนเพื่อตนเอง (Proprietary Investment Portfolio) โดยใช้กระแสเงินลงทุนของตนเอง
เลขาธิการคปภ. กล่าวเสริมว่าการปรับปรุงประกาศ คปภ. ฉบับนี้เป็นการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์เงื่อนไขการลงทุนใหม่ทั้งฉบับเพื่อให้เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับพัฒนาการในตลาดเงิน และตลาดทุนในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามยังคงยึดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการรักษาระดับความเสี่ยงไว้เหมือนเดิมเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับความพร้อมของระบบงานและบุคลากร โดยก่อนหน้านี้สำนักงาน คปภ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางกำกับการลงทุนและการประกอบธุรกิจอื่นของบริษัท ประกันภัย อันประกอบด้วยผู้แทนจาก ก.ล.ต. ธปท. และผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาเพื่อให้แนวทางกำกับการลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและแนวทางการกำกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องในภาคการเงิน นอกจากนี้ยังได้นำความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพื่อให้บริษัทมีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้จริง
ที่มา : อาร์วายทีไนน์