ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็ได้เกิดสิ่งท้าทายบางประการในเรื่องของ ประกันภัยรถยนต์ ราคาแพง แม้ว่ารถ EV จะให้ประโยชน์มากมาย แต่เป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ สำหรับ บริษัทประกันภัย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องจัดการเรื่องราคาเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสม

เจ้าของรถยนต์ EV โอดประกันภัยรถยนต์แพง ส่วนฟากฝั่งบริษัทประกันภัยครวญ เมื่อเกิดอุบัติเหตุค่าซ่อมสูงมาก เนื่องจากรถ EV เน้นเปลี่ยน ไม่เน้นซ่อม อะไหล่ต้องนำเข้า ใช้เทคโนโลยีสูง ด้าน คปภ.และสมาคมประกันวินาศภัย เตรียมหาทางลดเบี้ยชั่วคราวไปก่อน ส่วนเบี้ยประกันภัยจริงต้องศึกษาและเก็บข้อมูลเพิ่มเติม

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV (Electric Vehicle) ณ ปัจจุบัน กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน แต่ปัญหาสำหรับเจ้าของรถ ก็คือ ค่าเบี้ยประกันภัยที่แพงกว่ารถยนต์ปกติทั่วไป (รถยนต์สันดาป) ตั้งแต่ 15-25% ซึ่งได้มีการชี้แจงจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า เนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ รถ EV จะใช้วิธีการเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชุด จะไม่มีการซ่อม และอะไหล่ต่าง ๆ ใช้งานร่วมกันไม่ได้

สำหรับรถ EV เป็นรถยนต์ที่มีอัตราเร่ง และความสามารถในการใช้ความเร็วสูง ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายจะค่อนข้างมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากตัวรถพยายามลดน้ำหนักลง เพื่อให้ระบบไฟฟ้าของแบตเตอรี่เพิ่มความเร็วได้ดี จึงมีผลทำให้ระบบโมเมนตั้มของรถมีความเปราะบาง

ตัวรถ EV มีส่วนประกอบที่มีความซับซ้อน เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ระบบเซ็นเซอร์รอบคัน มีความอ่อนไหว (sensitive) ค่อนข้างสูง ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วกระเทือนต่อระบบเหล่านี้ ต้องไล่เช็คไล่ซ่อมทุกจุด และมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่หรืออุปกรณ์ แม้ความความเสียหายเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ในส่วนของ แบตเตอรี่ มีมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั้งคัน โดยเฉพาะเวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วกระทบกับส่วนของ แบตเตอรี่ จะไม่สามารถจัดซ่อมได้ บริษัทประกันภัยต้องคืนทุนประกัน

ในส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาระยะสั้น เนื่องจากราคาเบี้ยประกันภัยที่สูง และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน โดยจะการเพิ่มทางเลือกให้กับเจ้าของรถ เฉพาะกรณีแบตเตอรี่มีความเสียหาย และต้องการเปลี่ยนยกชุด เช่น

   • การจำกัดจำนวนเงินความคุ้มครอง แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ต่ำไปกว่า 50% ของมูลค่าแบตเตอรี่
   • ความรับผิดส่วนแรก (deductible) ไม่เกิน 15% ของมูลค่าแบตเตอรี่
   • Copayment ต้องรับผิดชอบความเสียหายร่วมไม่เกิน 15%

ส่วนการแก้ปัญหาเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ EV ต้องดำเนินการเก็บรวบรวมสถิติในการรับประกันภัย ความเสี่ยง ต้นทุน ซึ่งบ้านเรายังมีการรับประกันภัยค่อนข้างน้อย จึงต้องมีการศึกษารูปแบบการรับประกันภัยรถยนต์ EV จากต่างประเทศ เช่น การคุ้มครองเป็นส่วน ๆ ของรถยนต์ อาทิ ทุนประกันภัยแบตเตอรี่ รวมถึงการประสานค่ายรถยนต์ ทำราคากลางค่าซ่อม เพื่อใช้จัดทำพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย รถ EV โดยเฉพาะ

ข้อมูลกรมการขนส่งทางบก ณ 31 กรกฎาคม 2565 ประเทศไทยมีจำนวนรถ EV จำนวนทั้งสิ้น 20,087 คัน เป็นรถยนต์ EV จำนวน 7,747 คัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 11,637 คัน รถสามล้อไฟฟ้า 398 คัน รถบัสและรถบรรทุกไฟฟ้า 305 คัน

เครดิต: thaiarticle.com

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์