ประกันภัย เกรงว่าพายุ “เตี๋ยนหมู่” จะทำให้เกิด น้ำท่วม ซ้ำรอยปี 54 ที่ต้องจ่ายเคลมกว่า 4 แสนล้าน ซ้ำเติมเคลม ประกันโควิด ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งนิคมฯ โรงงาน บ้านเรือน จะกระทบเช่นกัน ต้องรับความเสี่ยงเองเยอะ เพราะหลัง น้ำท่วมใหญ่ ประกันภัย ของไทย ปรับเงื่อนไขลดทุน IAR จาก 15-20 ล้านล้านบาท เหลือแค่ 50 ล้านถึง 1 ล้านล้านบาท

เนื่องจาก ก่อนน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ประเทศไทย ไม่ได้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงด้านมรสุมที่จะเกิด มหาอุทกภัย ธุรกิจประกันภัยจึงคุ้มครองเต็มมูลค่าทรัพย์สิน บางสัญญาแถมความคุ้มครองภัยพิบัติให้ฟรี ซึ่งเหตุการณ์ น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 ธุรกิจประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนไปถึง 400,000 ล้านบาท

คาดการณ์ว่า ทุนประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ทั้งประเทศไทยจะลดลงจำนวนมาก หมายความว่า ความคุ้มครองจากระบบประกันภัยที่มีอยู่ไม่เพียงพอ และขณะเดียวกัน ผู้เอาประกันภัย อาจไม่ได้ทำประกันภัยคุ้มครองภัยธรรมชาติไว้เต็มมูลค่าทรัพย์สิน ส่งผลทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรับความเสี่ยงไว้เองสูงกว่าเดิม

และถ้าเกิดเหตุการณ์ น้ำท่วม เหมือนปี 2554 ธุรกิจประกันภัยไม่ได้รับความเสียหายไว้เต็มจำนวน อีกทั้งภัยธรรมชาติถูกแยกออกไปจากสัญญาปกติ และคนส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อความคุ้มครองไว้มาก เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเสียหายจะตกอยู่ที่ระบบอุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไป

หลังจากเหตุการณ์นั้น กรมธรรม์ประกันภัย ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม มีการจำกัดความคุ้มครองภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว เช่น ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย คุ้มครองคุ้มภัยธรรมชาติอีก 4 ภัยรวม 20,000 บาทต่อปี และ ไมโครอินชัวรันส์ 10,000 บาทต่อปี

“กรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองถึงภัยน้ำท่วม เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 และ ประเภทที่ขยายความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัยที่ซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม”

ดังนั้น การป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัย น้ำท่วม จึงเป็นสิ่งที่ผู้เอาประกันภัย รวมถึงผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ควรต้องมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ

เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์