ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

หวั่นเจ้าหนี้ 3 บ. ประกันภัย รอเก้อ

เจ้าหนี้ของ 5 บริษัท ประกันภัย ยังไม่สามารถเริ่มทยอยจ่ายเงินเยียวยา ยังไม่สามารถผลักดันการแก้ไขกฎหมาย ล่าช้าเพียงวาระ 1 ต้องผ่านวาระ 2, 3

หวั่นเจ้าหนี้ 3 บ. ประกันภัย รอเก้อ

พฤศจิกายน
11

ผจก.กองทุนประกันวินาศภัยชี้เจ้าหนี้ 3 บริษัท ประกันภัย ล้มยังต้องรอ หลังปมแก้ไขกฎหมายติดเบรกอยู่ที่สภา แค่วาระ 1 คาดกลางปีหน้าเริ่มพิจารณาช่วยเจ้าหนี้ 1.8 พันรายได้ชดเชยคืบ ยอมรับจ่ายได้สูงสุด 1 ล้านบาท ไม่หวั่นแม้เงินกองทุนเกือบหมดหน้าตัก จ่าย 1.2 พันล้านจาก 1.5 พันล้าน เผย 6 เดือนแรกเก็บเงินสมทบได้แล้ว 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%

สืบเนื่องจากกระทรวงการคลัง ใช้อำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย 5 บริษัท นับตั้งแต่ปี 2552 -2556 ประกอบด้วย 1.บริษัทสัมพันธ์ประกันภัย จำกัด 2.บริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวร์รันส์ จำกัด 3.บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด 4.บริษัท วิคตอรีประกันภัย (ประเทศไทย) ฯ และ 5.บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด นั้น เลขาธิการและผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย เปิดเผยถึงสถานการณ์การจ่ายเงินเยียวยาแก่เจ้าหนี้ของ 5 บริษัท ประกันภัย ว่า ขณะนี้กองทุนยังไม่สามารถเริ่มทยอยจ่ายเงินเยียวยาให้แก่รายใดรายหนึ่งได้ เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดกระบวนการ ที่ผ่านมายังไม่สามารถผลักดันการแก้ไขกฎหมายไปพิจารณาในรัฐสภาได้ ทำให้กระบวนการล่าช้า อยู่เพียงวาระ 1 เท่านั้น ซึ่งจะต้องผ่านวาระ 2, 3 จึงจะเริ่มเห็นความชัดเจน และทยอยจ่ายแก่เจ้าหนี้ได้ในกลางปี 2557

ทั้งนี้จาก 5 บริษัทที่ถูกสั่งปิดและยกเลิกกิจการนั้น พบว่ามีเพียง 2 บริษัท ที่กระบวนการค่อนข้างทำได้เร็ว คือ บริษัทส่งเสริมประกันภัยฯ เนื่องจากมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน เห็นได้จากมีบัญชีเงินฝากถึง 700 ล้านบาท ขณะที่มีมูลหนี้เพียง 500 ล้านบาท ส่วนรายที่ 2 คือ บริษัทลิเบอร์ตี้ประกันภัยฯ รายนี้อยู่ระหว่างประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ โดยตกลงที่จะชำระคืนอยู่ที่รายละ 30% หากทำสำเร็จกระบวนการ จ่ายคืนค่าชดเชยจะทำได้เร็วขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมูลหนี้หลัก มีการยื่นจากผู้เอา ประกันภัย แล้วพบว่ามีหนี้ 297 ล้านบาท ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด ขณะนี้บริษัทได้ขายตึกสำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนอีก 3 บริษัท คือ บริษัท สัมพันธ์ประกันภัยฯ, บริษัท เอ.พี.เอฟ. อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ฯ และบริษัท วิคตอรี ประกันภัย (ประเทศไทย)ฯ ยังอยู่ในกระบวนการของศาลล้มละลาย (กรมบังคับคดี) ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทสัมพันธ์ฯ มีมูลหนี้รวม 1.3 พันล้านบาท จำนวนเจ้าหนี้รายย่อย (ผู้เอา ประกันภัย ) 1.97 หมื่นราย บริษัท เอ.พี.เอฟ.ฯ มีมูลหนี้ 303 ล้านบาท จำนวนเจ้าหนี้รายย่อย (ผู้เอา ประกันภัย ) 6.68 พันราย และบริษัทวิคตอรีฯ มีมูลหนี้ 271 ล้านบาท มีจำนวนเจ้าหนี้รายย่อย (ผู้เอา ประกันภัย ) จำนวนเจ้าหนี้ 1.75 พันราย ส่งผลให้ทั้ง 3 บริษัทมีมูลหนี้รวม 1.88 พันล้านบาท และมีเจ้าหนี้รายย่อยกว่า 2.81 หมื่นราย ซึ่งแต่ละรายจะได้รับการจ่ายชดเชยไม่เกิน 1 ล้านบาท ครอบคลุมเจ้าหนี้รายย่อยและรายใหญ่ ในที่นี้หมายถึงอู่และ ร้านขายอุปกรณ์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ โดยมีไม่ถึง 5 ราย ที่มีมูลหนี้ในระดับ 1-100 ล้านบาท ซึ่งระยะต่อไปจะเร่งทำความเข้าใจกับเจ้าหนี้กลุ่มนี้ ว่าการชดเชยสูงสุด 1 ล้านบาท เป็นไปตามข้อกฎหมาย

"ขอให้ประชาชนผู้เอา ประกันภัย มั่นใจว่า หากกระบวนการถึงที่สิ้นสุดแล้ว การจ่ายสินไหมแก่เจ้าหนี้ทั้ง 3 บริษัท คาดว่าจะชดเชยภายใต้กองทุนที่ 1.2 พันล้านบาทก็ยังไม่กระทบ เนื่องจากปัจจุบันกองทุนมีเงินสมทบอยู่มากกว่า 1.5 พันล้านบาท"

ล่าสุด ข้อมูลการส่งเงินสมทบเข้ากองทุน พบว่าปัจจุบันมีเงินกองทุนที่ได้รับการสมทบจากบริษัท ประกันภัย จำนวน 1,500 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 18.42% คิดเป็นวงเงินสมทบ 251.82 ล้านบาท ของ 6 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีเงินสมทบอยู่ที่ 212.89 ล้านบาท อย่างไรก็ดีแนวโน้มการสมทบเงินกองทุนนั้น เชื่อว่าครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 14% ตามการลดลงของการเติบโตของรถยนต์

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ