วิกฤติน้ำท่วมปี 2554 ยังส่งผลกระทบต่อบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือไทยรี ไม่จบสิ้นนอกจากจะขาดทุนเป็นครั้งแรกในปี 2554-2555 ประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าสินไหมทดแทน ประกันภัย จากน้ำท่วมสูงถึง 20,000 ล้านบาท แล้วยังทำให้งบการเงินที่ผ่านมามีปัญหา ผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นต่องบการเงิน เท่ากับตัวเลขผลประกอบการ และฐานะการเงิน ไม่น่าเชื่อถือในสายตาของตลาดและนักลงทุน

กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยรีกล่าวว่า บริษัทได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ประกอบด้วยผู้สอบบัญชี และผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจภัย มาประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมใหม่อีกครั้ง ตามคำแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) ที่ต้องการให้หาคนกลางมาประเมินความเสียหายให้ เพื่อให้ตัวเลขความเสียหาย และการตั้งสำรองสินไหมจากน้ำท่วมของบริษัทใกล้เคียงความจริงมากขึ้น ประกอบการพิจารณาของผู้สอบบัญชีในการให้ความเห็นงบการเงินของบริษัท

ยันไม่ต้องเพิ่มทุน / แม้ประเมินเคลมน้ำท่วมใหม่

"เราคาดการณ์ค่าเสียหายจากน้ำท่วม และตั้งสำรองสินไหมสุทธิ 9,200 ล้านบาท บวกลบอีก 2,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปลายปี 2554 แล้วก็ไม่ได้ตั้งอีก โดยคิดหยาบๆ จากสถานการณ์ในตอนนั้น และจากประสบการณ์ของเรา ขณะที่ผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นต่องบการเงินของเราเป็นครั้งแรกนับแต่ทำธุรกิจมา ทาง คปภ.บอกให้หาคนกลางมาประเมินจะได้ข้อยุติ ตอนนี้น้ำท่วมผ่านมาเกือบ 2 ปี บริษัท ประกันภัย ทุกแห่ง ส่งรายงานความเสียหายมาที่เรา จะเอามาปรับตัวเลขให้ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น เลยจ้างผู้เชี่ยวชาญมาประเมินใหม่ เขากำลังทำอยู่ น่าจะเสร็จประมาณไตรมาสสาม หรือสี่นี้ หลังจากนั้นจะรายงาน คปภ. ถ้าผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นงบการเงินของเรา 3 ปี เราอาจจะถูกถอนออกจากตลาด"

อย่างไรก็ดีเชื่อว่า แม้ค่าสินไหมที่ประเมินใหม่อาจจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยน้ำท่วมขังนานถึง 2 เดือน และสินไหมบางเคสเรียกร้องมากกว่าปกติ แต่น่าจะอยู่ในเกณฑ์ข้างต้น และบริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนอีก จากค่าสินไหมน้ำท่วมทั้ง 2 หมื่นล้านบาท ณ ต้นเดือนกันยายน ไทยรีจ่ายแล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนที่จ่ายเองประมาณ 7 พันกว่าล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 40% หรือ 8 พันล้านบาทน่าจะจบปีหน้า

โตมากไม่ได้ กองทุนจำกัด / "รี" ชักดาบไม่กระทบต่อสัญญา

ปีนี้บริษัทไม่สนใจเรื่องเบี้ย ประกันภัย มากนัก เพราะให้น้ำหนักไปที่การบริหารจัดการ ชื่อเสียง, อัตราส่วนต่างๆ ตลอดจนเงินกองทุนให้นิ่งมากกว่า เพราะผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้บริษัทถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง ทำให้งาน ประกันภัย ต่อที่เคยได้จากบริษัท ประกันภัย ต่างชาติหายไปหมด รวมกับงาน ประกันภัย ต่อ 5% ที่ได้จากบริษัท ประกันภัย ทุกแห่งที่หายไปด้วย รวมกัน 2 ส่วน เบี้ย ประกันภัย ยังหายไปอีกหลายร้อยล้านบาทในปีนี้ จากปีก่อนที่หายไป 1,000 ล้านบาท แม้จะสร้างงานใหม่ๆ ทดแทน แต่ยังไม่เพียงพอ โดยสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ เมื่อจ่ายน้ำท่วมจบ

"เกณฑ์ RBC ทำให้การเติบโตของเบี้ย ประกันภัย ไม่ง่ายเหมือนก่อน ถ้าเบี้ย ประกันภัย จะโต เงินกองทุนต้องโตด้วย เราเจอปัญหาจากน้ำท่วมทำให้เงินกองทุนเรา ต้องกระเบียดกระเสียร ตอนนี้คาร์เรโชอยู่ที่ 190-200% กว่าถือว่าใช้ได้"

ต่อข้อถามกรณีผู้รับ ประกันภัย ต่อบางรายมีปัญหา ขอจ่ายสินไหมน้ำท่วมไทยแค่ครึ่งเดียว ไม่กระทบตลาด ประกันภัย ต่อไทย เพราะรีอินชัวเรอส์ดังกล่าวเป็นรายเล็ก สามารถหาผู้รับ ประกันภัย ต่อรายอื่นมาทดแทนได้

ที่มา : สยามธุรกิจ