"อิออน" เล็งซื้อค่าย ประกันภัย ไทย โอกาสโตเยอะ บ.แม่เริ่มซื้อในญี่ปุ่น

กรรมการบริหาร อิออน เปิดเผยว่า ในเรื่องการซื้อบริษัท ประกันภัย ในประเทศไทย ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่บริษัทแม่ในญี่ปุ่น คือ บริษัท อิออน ไฟแนนเชียล เซอร์วิส จะซื้อบริษัท ประกันภัย ในไทย เพราะบริษัทแม่มีศักยภาพที่จะซื้อได้ หลังจากได้ปรับโครงสร้างใหม่เป็นโฮลดิ้ง คัมปะนี พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอิออน ไฟแนนเชียล เซอร์วิส มีนโยบายที่จะซื้อบริษัท ประกันภัย เข้ามาในกรุ๊ป ซึ่งที่ผ่านมาได้ซื้อบริษัท ประกันภัย ในญี่ปุ่นไปแล้ว

อย่างไรก็ดี การซื้อบริษัท ประกันภัย ไทย คงจะไม่เห็นภายใน 1-2 ปีนี้ เพราะต้องการพัฒนา บริษัทนายหน้า ประกันภัย ที่มีอยู่ในมือ ให้เติบโตและแข็งแกร่งก่อน

"ตลาด ประกันภัย ไทยยังโตได้อีกเยอะ กลุ่มประชาชนที่มีรายได้ระดับกลางถึงระดับล่าง ยังทำ ประกันภัย น้อย ซึ่งก็เหมือนกับญี่ปุ่นสมัยก่อน ที่ประชาชนกลุ่มนี้ทำ ประกันภัย น้อยอยู่ พอเศรษฐกิจขยายตัว ก็ทำ ประกันภัย เพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่าในอนาคตจะมีประชาชนทำ ประกันภัย เพิ่มขึ้น ถ้าบริษัทโบรกเกอร์ของเราขยายตัวเพิ่มขึ้น ในอนาคตเราพร้อมที่จะเพิ่มเงินลงทุนให้กับบริษัทลูกของเรา"

โบรกเกอร์ ประกันภัย รุกหนัก ดันขึ้นท็อปไฟว์ ขายผ่านมือถือ-สาขา

สำหรับธุรกิจโบรกเกอร์ ประกันภัย กรรมการผู้จัดการ อิออน กล่าวว่า หลังการควบรวม ทำให้ยอดขายบริษัทมากขึ้น มีความพร้อมเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยมีแผนจะขยายธุรกิจไปในอาเซียนตามบริษัทแม่ ซึ่งกำลังเตรียมขยายการลงทุนไปกัมพูชา

ส่วนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เชื่อว่าจะเติบโตตามการเติบโตของธุรกิจ ประกันภัย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) คาดการณ์ว่าจะเติบโต 16% โดยในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2556) ถือว่าบริษัทมีผลงานเกินเป้า และคาดว่าอาจจะต้องปรับเป้าใหม่ แต่ตอนนี้ยังยึดเป้าเดิม คือ มีเบี้ย ประกันภัย 2,150 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิต 860 ล้านบาท และเบี้ยประกันวินาศภัย 1,290 ล้านบาท รวมถึงเป้าหมายอีก 3 ปีข้างหน้า ปี 2559 จะต้องมีเบี้ย ประกันภัย ถึง 3,000 ล้านบาท เป็นเบี้ยประกันชีวิต 1,200 ล้านบาท และเบี้ยประกันวินาศภัย 1,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปีหน้ายังตั้งเป้าขึ้นติด 1 ใน 5 หรือท็อปไฟว์ ในกลุ่มโบรกเกอร์ชั้นนำต่างชาติ จากปัจจุบันอยู่อันดับ 8 โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 600,000 ราย ในจำนวนนี้ 60% มาจากฐานลูกค้าอิออนในไทย ซึ่งมีฐานลูกค้ารวมถึง 6 ล้านราย อีก 40% มาจากลูกค้าองค์กร ต้องการที่จะขยับสัดส่วนเป็น 50% เท่ากันในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันช่องทางจำหน่ายมาจากขายผ่านโทรศัพท์ หรือเทเลมาร์เก็ตติ้ง 45% ช่องทางพบปะลูกค้าโดยตรง 47% และลูกค้าองค์กร 8%

ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนเบี้ย ประกันภัย ของบริษัท มาจากประกันวินาศภัย 70% โดยในจำนวนนี้ 50% เป็นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ อีก 40% เป็น ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ซึ่งมีพันธมิตรเป็นบริษัทประกันวินาศภัย ระดับท็อปเทนของธุรกิจ ส่วนที่เหลือ 30% เป็นเบี้ยประกันชีวิต มีพันธมิตรหลักเป็น 4 บริษัท ขายผ่านเทเลมาร์เก็ตติ้ง และภายหลังการควบรวมบริษัท การเติบโตจะดีขึ้น เพราะมีแผนจะขยายงานด้าน ประกันภัย กลุ่ม ไปยังลูกค้าองค์กรของอิออนด้วย

ที่มา : สยามธุรกิจ