ประกันภัยรถยนต์ จุกอกวิ่งโร่อ้อน คปภ.ขอขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ บรรทุก รถหัวลาก รถพ่วง หลังขาดทุนบักโกรก สินไหมเกิน 80% สูงกว่า รถยนต์ ทั่วไปอยู่ที่ 60% เหตุเสี่ยงสูง เพราะต่อพ่วงหลายคัน อุบัติเหตุเกิดเยอะ แม้ใช้อัตราเบี้ยขั้นสูงสุดยังไม่พอ ย้ำอัตราเบี้ยในปัจจุบันใช้มานานกว่า 7 ปีไม่เคยปรับ วงในเผยบางค่ายเจ็บตัวหนัก หยุดรับประกันภัย เหลือบริษัท ประกันภัย ขายอยู่แค่ 3 ค่าย ถ้าไม่ปรับอัตรา ผู้ประกอบการรถบรรทุกเดือดร้อนแน่ หาบริษัทรับ ประกันภัยรถยนต์ ไม่ได้ แย้มอาจขอขึ้นราคาเบี้ย 30-40%

สถานการณ์การรับ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ กลุ่ม รถยนต์ ขนาดใหญ่ ประเภทรถบรรทุก รถพ่วง รถลาก เลวร้ายลงทุกขณะ เมื่อบริษัท ประกันภัย ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากอัตราเบี้ย ประกันภัย ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ไม่เพียงพอกับค่าสินไหมทดแทน พร้อมกับส่งสัญญาณไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่ง เสริมการ ประกันภัย (คปภ.) ขอปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น หลังจากที่ผ่านมา บริษัทจะมุ่งขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ขนาดเล็ก หรือซิตี้คาร์

นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า พิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย พื้นฐาน รถยนต์ ภาคสมัครใจ ที่คปภ.กำหนดไว้เป็นขั้นต่ำ-สูงในปัจจุบัน เพียงพอกับ รถยนต์ เกือบทุกกลุ่ม ยกเว้น รถยนต์ ขนาดใหญ่ ประเภท รถบรรทุก รถพ่วง รถลาก ซึ่งแม้จะใช้อัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ขั้นสูงสุดแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จากอัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ที่สูงมากเกิน 80% ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และค่าคอมมิสชั่น หากรวมเกิน 100% ทำให้บริษัท ประกันภัย ไม่อยากรับ ประกันภัยรถยนต์

"อัตรานี้กำหนดไว้มาหลายปีแล้ว ตอนนี้ประเภท และรูปแบบของ รถยนต์ เปลี่ยนไปเยอะมาก อย่างรถหัวลาก แต่เดิมไม่มีกระบะของตัวเองและลากแค่คันเดียว แต่ตอนนี้มีกระบะของตัวเองและลากหลายคัน บางทีเอา รถยนต์ สิบล้อมาลาก ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะช่วงของรถยาวขึ้น โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมากขึ้น เมื่อบริษัทไม่อยากรับ กระทบกับผู้ประกอบการ รถยนต์ กลุ่มนี้ หาซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ยาก"

เท่าที่ได้หารือกับ คปภ.เห็นปัญหาเดียวกับสมาคมฯ โดยสมาคมฯ จะเสนอคปภ.ปรับปรุงพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย พื้นฐาน รถยนต์ กลุ่มนี้ ขยายเพดานขั้นสูงให้สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการปรับปรุงเบี้ย ประกันภัย รถกลุ่มนี้ อาจจะทำก่อน รถยนต์ กลุ่มอื่น ที่ต้องรอให้บริษัททัทชาม จากอังกฤษ ที่สมาคมฯ ว่าจ้างมาจัดกลุ่ม รถยนต์ จัดกลุ่มเสร็จก่อน

กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า คงต้องรอให้ทาง คปภ. ตั้งคณะทำงานขึ้นมาก่อน เพื่อหารือร่วมกันถึงการปรับปรุงพิกัดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ซึ่งปัจจุบัน รถยนต์ รับจ้างสาธารณะ เช่น รถตู้ รถทัวร์ เกิดอุบัติเหตุบ่อย ควรจะต้องปรับ ขณะที่รถบรรทุก รถลากจูง ประสบปัญหาขาดทุนอยู่เช่นกัน เพราะลอส เรโชสูง ต้องมาปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ พื้นฐานกันใหม่ หรือจะแยกรหัสออกมาให้ชัดเจนหรือไม่ เช่น รถยนต์ บรรทุกที่เอามาลากจูงมีระบบห้ามล้อบังคับ ควรจะมีรหัสต่างหากหรือไม่ เพราะ รถยนต์ ประเภทนี้ลอส เรโชสูง 80-90% หรืออาจถึง 100% จึงไม่ค่อยมีบริษัทประกันวินาศภัย รับ ประกันภัย โดยบริษัทที่กล้ารับ ประกันภัย ใช้วิธีให้ลูกค้ารับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ถึง 10,000 บาท ทำให้ลำบากต่อเจ้าของ รถยนต์ เช่นกัน

"สิ่งที่เราจะทำ คือ ขอปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ พื้นฐานในขั้นสูง เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของ รถยนต์ แต่ละประเภท ซึ่งการปรับอาจจะสูงถึง 30-40% ก็ได้ แต่ทั้งหมดขึ้นกับข้อมูล เช่น ลอส เรโชปกติไม่ควรเกิน 60% แต่รถบรรทุกสูงถึง 80-90% ดังนั้นก็ต้องปรับเบี้ยขึ้นไป 30% ถามว่าการปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ พื้นฐานในขั้นสูงของรถบรรทุก จะทำให้ รถยนต์ ประเภทอื่นเดือดร้อนหรือไม่ คงไม่ แต่หากว่ายังปล่อยไว้อาจจะกระทบในระยะยาว เพราะบริษัทต่างๆ คงต้องหาทางปรับเบี้ยส่วนอื่น เพื่อเอามาช่วยซึ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรต้องปรับใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในภาพรวม"

ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาของการรับ ประกันรถยนต์ กลุ่มนี้คือ เบี้ยไม่เพียงพอ แม้จะใช้อัตราขั้นสูงสุดแล้วก็ตาม เพราะสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นทุกปี ลอส เรโช 90-100% ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น โดยบริษัทที่ใช้เพดานขั้นสูงแล้ว ไม่สามารถปรับราคาเบี้ยขึ้นได้อีก เพราะชนเพดานที่ คปภ.กำหนด ต้องขอให้ คปภ.ปรับปรุงขยายเพดานให้สูงขึ้น ซึ่งทางสมาคมฯ น่าจะกำลังดำเนินการอยู่

"ถัวเฉลี่ย รถยนต์ บรรทุก รถหัวลาก ขาดทุน เพราะสินไหมสูงมากมาจากหลายปัจจัย ทั้งจำนวน รถยนต์ กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจขยายตัว การขนส่งสินค้าต่างๆ มีมากขึ้น คนขับทำงานหนัก พักผ่อนน้อยลง ระบบจราจรคับคั่ง โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีมากขึ้น การรักษาพยาบาล การเสียชีวิตมีมากขึ้น มูลค่าทรัพย์สินสูงขึ้น ขณะที่เบี้ยใช้มา 7 ปีแล้วไม่เคยปรับ ทั้งที่สภาพ รถยนต์ เปลี่ยนไปมาก ภาวะขาดทุนที่เจอกันอยู่ ทำให้ไม่มีใครอยากรับ ประกันภัย เมื่อ 7 ปีก่อนมี 5 บริษัท ตอนนี้เหลือ 3 บริษัทรวมเราด้วย และถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่อาจจะเหลือ 2 บริษัท เราใช้วิธีคัดเลือกกลุ่มลูกค้า จะดูขนส่งอะไร เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน"

สำหรับวิริยะ ประกันภัย มี รถยนต์ กลุ่มนี้ไม่มาก ประมาณ 5-6% ของลูกค้า รถยนต์ ที่มีอยู่ประมาณ 3 ล้านคัน แต่ถ้าคิดเป็นเบี้ย ประกันภัย ถือว่ามาก เพราะรถกลุ่มนี้ทุน ประกันภัย สูง ประมาณ 3 ล้านบาท เบี้ย ประกันภัย 30,000-40,000 บาท บางกลุ่มขึ้นเบี้ย ประกันภัย 70,000 บาทยังไม่พอ ซึ่งในความเป็นจริงทำไม่ได้ เพราะชนเพดาน และลูกค้าคงรับไม่ได้

แนวโน้มสินไหมทดแทน รถยนต์ กลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นอีก ยิ่งเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ธุรกิจขนส่งจะขยายตัวมากขึ้น ตามการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศ หากไม่ปรับปรุงอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ บริษัทคงต้องคัดเลือกกลุ่ม รถยนต์ มากขึ้น คนเดือดร้อนคือผู้ประกอบการขนส่ง ซึ่งเบี้ย ประกันภัย ยังมีช่องให้ปรับขึ้นได้ โดย รถยนต์ กลุ่มนี้มีแนวโน้มขยายตัวมาก เป็นผลมาจากเออีซี

ข่าวจากบริษัท ประกันภัย แห่งหนึ่งกล่าวว่า ตอนทำพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัย กลุ่มรถใหญ่ เช่น รถบรรทุก ในอดีตเป็น รถยนต์ คันเดียวเพียวๆ แต่ตอนนี้ใช้เป็น รถลากจูง รถพ่วง ยังใช้อัตราเบี้ยเดียวกันอยู่ ซึ่งทาง คปภ.รับรู้ไม่เป็นธรรมกับบริษัท ประกันภัย เพราะความเสี่ยงมากขึ้น ต้องปรับปรุงใหม่ให้สอดรับกัน โดยสมาคมฯ ขอแก้เงื่อนไขการรับ ประกันภัย รถลากจูง ขอใช้อัตราเบี้ย ประกันภัย คนละอัตรากับรถบรรทุก กล่าวคือรถบรรทุกที่มีการลากจูง กับรถที่ไม่ลากจูง หรือต่อพ่วง ไม่ควรใช้อัตราเดียวกัน ก่อนหน้านี้ บมจ.สินมั่นคง ประกันภัย เพิ่งปรับเบี้ยรถบรรทุกชนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เฉลี่ย 20% เนื่องจากสินไหมสูง 70-77%

ที่มา : สยามธุรกิจ