ภายใต้นโยบายบ้านหลังแรกรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ส่งผลให้เศรษฐกิจในเรื่องของธุรกิจการค้ารถยนต์กระเตื้องขึ้นทันตาเห็น ยอดการจองรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกันผลต่อเนื่องมาถึงการ ประกันภัยรถยนต์ ของธุรกิจประกันภัยก็โตขึ้นกว่า 20%

ไม่ว่าบทสรุปของนโยบาย "รถยนต์คันแรก" จะเป็นอย่างไร สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยก็คือ ความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ บนถนนในกรุงเทพมหานครกำลังทยอยลดลงอย่างน่าใจหาย ปริมาณรถยนต์ที่ถูกนำมาใช้บนท้องถนน ทั้งมือใหม่มือเก่ามีจำนวนมากมายมหาศาล ส่งผลให้การจราจรติดขัด ซึ่งจะก่อปัญหาที่ตามมาอีกมากมาย

มีหลายๆ คนคิดถึงนโยบายแก้รถยนต์ติดในรูปแบบต่างๆ ในส่วนของธุรกิจ ประกันภัย โดยเฉพาะการ ประกันภัยรถยนต์ จะมีใครริเริ่มเพื่อบรรเทาปัญหารถยนต์ติด ที่กำลังจะกลายเป็นปัญหาแห่งชาติบ้าง หลักการที่เคยคิดกันว่าเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่จำเป็นต้องรอเจ้าหน้าที่ของบริษัท ประกันภัยถยนต์ น่าจะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา คู่กรณีรถยนต์ที่ได้ทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจไว้ น่าจะมีวิธีการที่สามารถแยกจากกัน โดยให้บริษัท ประกันภัยรถยนต์ ดำเนินการในภายหลัง เพื่อไม่ทำให้ท้องถนนกลายเป็นที่จอดรถยนต์ของคู่พิพาท และรอเวลาให้เจ้าหน้าที่ของบริษัท ประกันภัยรถยนต์ มาดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ช่วงเวลาและพื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นลานจอดรถยนต์ เพราะปัญหาการจราจร

วันนี้ภายใต้นโยบายของการแข่งขันด้านบริการของธุรกิจ ประกันภัยรถยนต์ พนักงานเคลมที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็พยายามเร่งบริการจนน่าจะเกิดเหตุเสียเองแล้ว เพื่อจะได้ไปถึงที่เกิดเหตุให้ทันเวลาที่สัญญาไว้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับกันว่า คงไม่ได้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย ในเรื่องความรวดเร็วของการให้บริการสักเท่าใด

มีหลายๆ คนถามว่าในเมื่อเงื่อนไข และความคุ้มครองของกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ระบุไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว การนำรถยนต์คันที่เกิดเหตุ ไปแจ้งกับบริษัทในภายหลังจะมีปัญหาอย่างไร ก็คงต้องตอบว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของความเชื่อถือกันในธุรกิจเพียงใดว่า รถยนต์คันที่เกิดเหตุนั้นเกิดเหตุจริงตามที่แจ้งหรือไม่เพียงใด และมีปัญหาหรือเท็จจริงอื่นๆ ที่ซ่อนเร้นไว้หรือไม่ต่างหาก

เรื่องราวเหล่านี้เคยมีการพูดคุย ในธุรกิจแวดวงของธุรกิจ ประกันภัยรถยนต์ กันบ้าง ถึงกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ที่ไม่มีข้อยกเว้นความรับผิดชอบของบริษัท ประกันภัยรถยนต์ เลย ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่หรือผู้เอา ประกันภัย สามารถเรียกร้อง ให้บริษัท ประกันภัย ชดใช้ค่าเสียหายได้ในทุกกรณี จึงไม่จำเป็นต้องเกิดปัญหาการรอพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุของบริษัท ประกันภัยรถยนต์ เมื่อรถยนต์คันที่ทำ ประกันภัย ไว้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพียงแต่กรมธรรม์เช่นว่านี้ยังไม่มีในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ประเด็นของการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเสรีการ ประกันภัยรถยนต์ ก็น่าจะทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นจริงขึ้นได้ เห็นว่าพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจในวันนี้ ได้คิดอัตราของความเสี่ยงภัยสำหรับการคำนวณเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจไว้แล้ว ถ้าจะปรับปรุงพิกัดอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจก่อนถึงยุคของการ ประกันภัย เสรี เพื่อปรับปรุงความเสี่ยงของตัวรถยนต์คันเอา ประกันภัยรถยนต์ ให้ครอบคลุมถึงความกังวลว่าการคุ้มครองตัวรถยนต์คันที่เอา ประกันภัย ภายใต้การแจ้งเหตุภายหลังจากการเกิดเหตุ โดยมีเบี้ย ประกันภัย ที่เพียงพอน่าจะทำให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

ผลที่เกิดขึ้นในอนาคตเมื่อรถยนต์คันที่ได้ทำ ประกันภัยรถยนต์ ไว้เกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถยนต์เพียงแต่ขอรายละเอียดคู่กรณีไว้แล้ว นำไปแจ้งบริษัทที่รับ ประกันภัยรถยนต์ ในภายหลัง ปัญหาเรื่องเสียเวลารอพนักงาน และการจราจรติดขัด ในที่เกิดเหตุก็น่าจะลดลง เพียงแต่คู่กรณีหรือผู้ขับขี่รถยนต์ที่จะสามารถดำเนินการเช่นว่านี้ได้ ต้องทำ ประกันภัยรถยนต์ ของตนเองเสียก่อนเท่านั้น

เรื่องอย่างนี้จะทำอย่างไร ที่จะทำให้ประชาชนที่เจ้าของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ คันแรก หรือคันที่เท่าไหร่ก็ตามได้ทราบ คงต้องฝากทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ที่มีคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย

ที่มา : สยามธุรกิจ