ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันภัยพิบัติวุ่นไม่เลิกงุบงิบ ‘บังคับซื้อ’

ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ ไม่มีข้อสรุปทั้งการกำหนดทุนประกันภัยขั้นต่ำ การจำกัดความรับผิด (sub limit) ที่จะขยายเพดานให้สูงขึ้น

ประกันภัยพิบัติวุ่นไม่เลิกงุบงิบ ‘บังคับซื้อ’

พฤษภาคม
25

กว่าที่รัฐบาลจะจัดตั้ง “กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ” ขึ้นมาได้รวมถึงทำคลอด “กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ” ออกมาขายให้กับประชาชนก็วุ่นวายและใช้ เวลาหลายเดือน พอเริ่มขายยังวุ่นไม่เลิก เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์อีก ซึ่งยังไม่มีข้อสรุป ทั้งการกำหนดวงเงินเอาประกันภัย (ทุนประกันภัย) ขั้นต่ำ อย่างบ้านอยู่อาศัยที่จะซื้อประกันภัยพิบัติ ควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ การจำกัดความรับผิด (sub limit) ที่จะขยายเพดานให้สูงขึ้น รวมไปถึงหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการขายซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจน

โดยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ (บอร์ดกองทุน) ให้เหตุผลในการแก้ไข เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เบี้ยประกันภัยในตลาดโลกปรับตัวลดลง ล่าสุดก็ส่อเค้าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอีก เมื่อคปภ.จะยกเลิกกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยบ้านอยู่อาศัยรูปแบบเดิม ที่คุ้มครอง 6 ภัยพื้นฐาน ได้แก่ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากยานพาหนะ ภัยจากอากาศยาน และภัยเนื่องจากน้ำ ให้เหลือแค่กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย ที่เพิ่มความคุ้มครองภัยพิบัติอยู่ในฉบับเดียวกัน ซึ่งเป็นกรมธรรม์ใหม่ที่เพิ่งอนุมัติออกมาให้บริษัทขายเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เท่ากับประชาชนที่จะทำประกันอัคคีภัยบ้านจะต้องถูกบังคับให้ซื้อประกันภัยพิบัติโดยอัตโนมัติ

“จริงๆ กรมธรรม์ใหม่ทางคปภ. อนุมัติให้บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ขายมาตั้งแต่ 28 มีนาคมนี้แล้ว แต่ต้องให้เวลาบริษัทประกันภัยเตรียมความพร้อมปรับระบบงาน เขียนโปรแกรมทำหน้าตารางกรมธรรม์ใหม่เลย ให้ใช้กรมธรรม์เดิมคู่กับของใหม่ชั่วคราวก่อน ตอนแรกจะยกเลิกวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ แต่เราเสนอกับคณะอนุกรรมการด้านประกันภัยพิบัติ ที่มีท่านเลขาธิการคปภ. เป็นประธานที่ประชุมกันไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าบางบริษัทประกันภัยอาจจะทำไม่ทัน เลยมีระยะผ่อนผันให้จนถึงเดือนมิถุนายน ระหว่างนี้ลูกค้าสามารถซื้อทั้ง 2 แบบได้ แต่เมื่อถึงมิถุนายนจะไม่มีกรมธรรม์อัคคีภัยรูปแบบเดิมอีกแล้ว จะมีแต่แบบใหม่ที่บวกภัยพิบัติอยู่ในกรมธรรม์”

นายกสมาคมประกันวินาศภัย หนึ่งในคณะอนุกรรมการชุดนี้กล่าวเสริมว่า ระยะผ่อนผันดังกล่าวยังรวมถึงกรมธรรม์ใหม่ คือประกันภัยทรัพย์สินสำหรับภัยธรรมชาติทั่วไป และภัยพิบัติส่วนที่เกินจากกองทุนฯ ซึ่งคปภ. เพิ่งอนุมัติกรมธรรม์เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย ซึ่งในเรื่องบังคับซื้อมีการคุยกันในคณะอนุกรรมการฯมีสิทธิ์ทำได้หรือไม่ ตามหลักหากลูกค้าไม่ต้องการประกันภัยพิบัติก็ทำได้ ในช่องความคุ้มครองภัยพิบัติใส่ทุนประกันเป็นศูนย์

อย่างไรก็ดีในการซื้อประกันภัยพิบัติ หากเป็นบ้านอยู่อาศัย กำหนดให้ซื้อความคุ้มครองวงเงินเอาประกันภัย (ทุนประกันภัย) ขั้นต่ำ 20,000 บาท เบี้ยค่าประกันภัย 100 บาท เพื่อให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากเงื่อนไขเดิมไม่กำหนดทุนประกันภัยขั้นต่ำ กำหนดแค่ทุนประกันสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีกำหนดทุนประกันภัยขั้นต่ำ 30,000 บาท เบี้ยประกันภัย 300 บาท ส่วนอุตสาหกรรมยึดเกณฑ์เดียวกับเอสเอ็มอี ขยาย “ซับ ลิมิต” รายใหญ่เป็น 50%

นายกสมาคมประกันวินาศภัยกล่าวอีกว่า สมาคมยืนยันข้อเสนอที่จะให้ขยายความคุ้มครอง วงเงินการจำกัดความรับผิดสูงขึ้นเป็น 50% จากเดิมกำหนดไว้ 30% สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมรายใหญ่ เฉพาะที่มีเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป และต้องมีมาตรการบริหารความเสี่ยงที่ดี โดยจะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป รวมถึงกำหนดสัดส่วนการรับความเสี่ยงภัยไว้เองของบริษัทประกันภัย สำหรับบ้านอยู่อาศัยได้สูงสุดถึง 95% จากเดิมกำหนดขั้นต่ำ 1% แต่ไม่ได้บอกสูงสุดไม่เกินเท่าไหร่ ส่วนธุรกิจเอสเอ็มอีและอุตสาหกรรมได้สูงสุดถึง 25% ซึ่งคณะอนุกรรมการฯจะนำข้อเสนอทั้งหมด เสนอต่อบอร์ดกองทุนพิจารณาอย่างไรก็ดี ในประเด็นบังคับบ้านอยู่อาศัย ที่จะซื้อประกันอัคคีภัยต้องซื้อประกันภัยพิบัติด้วยนั้น

ประธานคณะกรรมการประกันภัยทรัพย์สิน สมาคมประกันวินาศภัย กล่าวว่า กรมธรรม์ที่มีอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ได้แก่ 1.กรมธรรม์อัคคีภัยที่อยู่อาศัยแบบเดิม 2.ประกันอัคคีภัยและภัยพิบัติสำหรับบ้านอยู่อาศัย 3.กรมธรรม์ประกันภัยพิบัติและ 4.กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินสำหรับภัยธรรมชาติทั่วไปและภัยพิบัติส่วนเกิน รองรับบริษัทประกันภัยที่จะขายความคุ้มครองทั้ง 2 ภัย ซึ่งในเดือนมิถุนายนกรมธรรม์ประกันภัยแบบแรกจะถูกยกเลิกไป

“ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปบ้าน ทุกหลังที่จะทำประกันอัคคีภัย ต้องซื้อภัยพิบัติด้วยทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท การทำตลาดในช่วงเดือนที่ผ่านมา อย่างของมิตซุย สุมิโตโม ลูกค้าในพื้นที่เสี่ยงตอบรับเยอะเขา อยากได้ความคุ้มครองสูงกว่าซับ ลิมิต ส่วนพื้นที่ไม่เสี่ยงไม่ค่อยตอบรับ หรือตอบรับเอาซับ ลิมิตแค่ 10-20% ลูกค้าบางคนไม่รู้ว่ามีความคุ้มครองแผ่นดินไหวและลูกเห็บด้วย คิดว่ามีแต่น้ำท่วมอย่างเดียว ต้องทำความเข้าใจกับเขา ที่พูดกันว่าประกันภัยพิบัติเคลมยาก เงื่อนไขเยอะก็สอดคล้องกับค่าเบี้ยประกันภัยถูก”

ข่าวจากบริษัทประกันภัยให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เงื่อนไขบางข้อที่ยังไม่นิ่ง มีการปรับเปลี่ยนตลอด ทำให้เกิดความปั่นป่วนในการทำตลาดพอสมควร ขณะที่การขยายซับ ลิมิต เป็น 50% เฉพาะลูกค้ารายใหญ่ที่มีทุนประกันภัย 5,000 ล้านบาทขึ้นไป เป็นการจำกัดเฉพาะกลุ่มควรจะเปิดกว้างให้กับเอส เอ็มอีด้วย พวกเขามีความต้องการ เพราะปีที่ผ่านมาเคยได้รับความคุ้มครองเต็ม 100% แต่ปีนี้ลดลงมาเหลือ 30% ควรจะจำกัดเงื่อนไข แค่มีมาตรการบริหารความเสี่ยงที่ดี ทุนประกันภัยเท่าไหร่ก็ได้ สามารถซื้อความคุ้มครองได้ถึง 50%

อย่างไรก็ดี ในประเด็นให้บริษัทประกันภัยรับความเสี่ยงภัยไว้เองได้ถึง 25% สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีและรายใหญ่นั้น มีบริษัทประกันภัยขนาดใหญ่อยากจะขอเพิ่มเกิน 25% เนื่องจากเขาซื้อประกันภัยความเสียหายส่วนเกิน (Excess of loss) รองรับความต้องการของลูกค้าที่อยากจะซื้อประกันภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติตั้งแต่ก่อนกองทุนฯ จะเกิด โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยไปแพงมาก แต่เมื่อเกิดกองทุนฯ รับประกันภัย ในอัตราเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า ลูกค้าหันไปซื้อเบี้ยประกันภัยของกองทุนแทน เท่ากับที่บริษัทสูญเงินค่าเบี้ยประกันภัยไป จึงอยากจะเก็บความเสี่ยงเอสเอ็มอีและอุตสาหกรรมไว้เองให้มากกว่าเดิม เพื่อให้คุ้มกับค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปก่อนหน้า มองอีกแง่ความเสี่ยงของกองทุนลดลงด้วย

“ข้อมูลที่ได้ตัวแทนที่เริ่มขายกรมธรรม์ภัยพิบัติในช่วงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ายังไม่ค่อยซื้อ เพราะพอรวมๆ กันแล้วเบี้ยประกันภัยแพง ส่วนใหญ่ซื้อประกันภัยธรรมชาติมากกว่า โอกาสได้เงินเคลมมีมากกว่าประกันภัยพิบัติ ซึ่งมีเงื่อนไขเยอะ เคลมยาก “

ด้านบมจ.ไทยพาณิชสามัคคีประกันภัย กล่าวว่า การขยายเพดานให้บริษัทประกันภัยเก็บความเสี่ยงภัยไว้เองมากขึ้นไม่มีผลต่อบริษัท เพราะปกติบริษัทรับความเสี่ยงประกันภัยพิบัติไว้เองมากกว่า 1% อยู่แล้ว เนื่องจากซื้อประกันภัยต่อความเสียหายส่วนเกินภัยธรรมชาติรวมภัยพิบัติไว้ตั้งแต่กองทุนยังไม่เกิด เหมือนกับอีกหลายบริษัท ถ้าไม่เก็บความเสี่ยงไว้เองให้สูงกว่าขั้นต่ำเท่ากับซื้อไว้ฟรี “

เลขาธิการคปภ.กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทประกันภัยพร้อมที่จะขายกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว 20 บริษัทจาก 54 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ

ที่มา : สยามธุรกิจ