ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

ประกันชีวิตเดือด ‘พรูเด็นเชียล’ ซื้อ ‘ธนชาต’ ติดอาวุธแบงก์แอสชัวรันส์

เป้าหมายใหม่จะต้องมีกำไรจากธุรกิจใหม่ (New Business Profit) ในเอเชียเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2556

ประกันชีวิตเดือด ‘พรูเด็นเชียล’ ซื้อ ‘ธนชาต’ ติดอาวุธแบงก์แอสชัวรันส์

พฤษภาคม
9

โดย ที่มา : ที่มา : สยามธุรกิจ วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 เวลา 00:00 น.

เมื่อ 2 ปีก่อน “กลุ่มพรูเด็นเชียล” สร้างความฮือฮาไปทั่วเอเชีย ด้วยปฏิบัติการเทกโอเวอร์ บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด หรือ “เอไอเอ” แต่ไม่สำเร็จ เพราะ “เอไอจี กรุ๊ป” ตัดสินใจนำ “เอไอเอ กรุ๊ป” ออกไอพีโอที่ฮ่องกง เพื่อยังคงธุรกิจประกันชีวิตในเอเชียไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ยักษ์ประกันจากแดนผู้ดีล้มเลิกความฝันแต่อย่างใด เพราะยังมีค่ายประกันชีวิตในเอเชียที่เตรียมขายกิจการในเอเชีย อย่าง “ไอเอ็นจี กรุ๊ป” รวมไปถึงบริษัทประกันชีวิตในไทยอย่าง “ธนชาตประกันชีวิต” ที่เริ่มมีข่าวลือสะพัดว่า แบงก์แม่ “ธนชาต” เตรียมขายกิจการทิ้งและมีผู้สนใจอยู่หลายราย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล แถลงนโยบายปี 2553 หลังจากที่บรรลุเป้าหมาย 5 ปีตั้งแต่ปี 2548-2552 ทำกำไรได้ 713 ล้านปอนด์ได้สำเร็จ ด้วยการประกาศเป้าหมายใหม่จะต้องมีกำไรจากธุรกิจใหม่ (New Business Profit) ในเอเชียเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปี 2556 โดยพื้นที่ที่ต้องการสร้างการเติบโตมากที่สุดในเอเชีย คือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเศรษฐกิจ (จีดีพี) เติบโตเร็ว อีกทั้งอัตราการถือครองกรมธรรม์ก็ยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เป็นโอกาสระยะยาวให้กับกลุ่มพรูเด็นเชียล

“โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันชีวิตโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยอัตราการเติบโตของกลุ่มนี้จะเร็วกว่าประเทศพัฒนาถึง 3 เท่า โดยจะมีอัตราการเติบโตปีละ 5-9% ขณะที่ประเทศพัฒนาจะเติบโตปีละ 1-4%”

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากพรูเด็นเชียลจะสนใจซื้อกิจการในเอเชีย ทั้งกิจการประกันชีวิตของไอเอ็นจี กรุ๊ป ในเอเชียที่กำลังเนื้อหอม รวมไปถึงการขยายธุรกิจในไทย ซึ่งผลประกอบการของกลุ่มพรูเด็นเชียลในเอเชียในปี 2554 ถือว่ายอดเยี่ยม เพราะเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาคนี้ สามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานตามมาตรฐาน บัญชี IFRS ให้แก่กลุ่มพรูเด็นเชียลได้สูงสุด โดยเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจาก 257 ล้านปอนด์ในปี 2551 สู่ระดับ 709 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา

“แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจระดับมหภาคยังคงมีความผันผวน แต่ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่มีความชัดเจน ความแข็งแกร่งของเราในด้านผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่าย ผนวกกับความสมดุลของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของพรูเด็นเชียล และสถานะความเป็นผู้นำตลาดของเราในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้กลุ่มพรูเด็นเชียลอยู่ในสถานะที่พร้อมจะสร้างความเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต”

อย่างไรก็ดี พรูเด็นเชียลถือเป็นรายที่ 2 ที่มีข่าวออกมาว่า สนใจซื้อธุรกิจประกันชีวิตของธนาคารธนชาต ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น 100% ในบริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด และบริษัท ประกันชีวิตนครหลวง ไทย จำกัด ที่ได้มาจากการควบรวมกิจการของแบงก์ธนชาต และนครหลวงไทย (SCIB) และกลายเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท สยามซัมซุงประกันชีวิต จำกัด ในสัดส่วน 25% แทนที่แบงก์นครหลวงไทย หลังจากที่ผู้บริหาร “อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกัน และ การเงิน” ออกมาระบุสนใจซื้อ แต่ทางแบงก์กลับปฏิเสธข่าว

ทั้งนี้ข่าวระบุว่า กลุ่มพรูเด็นเชียลสนใจซื้อด้วยเม็ดเงินถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของวงการประกันชีวิตรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันชีวิตไทยกำลังเนื้อหอมมีบริษัทต่างชาติเข้ามาจีบเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะฝั่งแคนาดาที่ไม่ได้มีปัญหาเศรษฐกิจเหมือนสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่ธุรกิจในประเทศอิ่มตัว แต่ยังมีเงินทุนมากพร้อมหาช่องทางลงทุนใหม่ ขณะที่รายของพรูเด็นเชียลเองนั้นถือเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ โดยในเอเชียหลายๆ ประเทศ พรูเด็นเชียลมีธุรกิจเป็นอันดับ 1 แต่ในไทยเองแม้จะเข้ามาดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2538 แต่ดูเหมือนในแง่ของการเติบโตจะยังไม่หวือหวานัก โดยจากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทยยังอยู่ในอันดับ 10-11 ของธุรกิจ

“ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มากที่พรูเด็นเชียล จะสนใจซื้อกิจการประกันชีวิตจากแบงก์ธนชาต เพื่อทำธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ เพราะแม้ทางแบงก์จะขายธุรกิจไป ก็ยังได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันชีวิตให้กับพรูเด็นเชียล อีกทั้งหากมองช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ของพรูเด็นเชียลในขณะนี้เองแม้จะมี 2 แบงก์พันธมิตรอย่าง ธนาคารยูโอบี และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด แต่ยอดขายก็ยังไม่หวือหวาเช่นกัน ดังนั้นหากเพิ่มพันธมิตรได้ก็น่าจะเสริมการขยายตลาดได้มากขึ้น ซึ่งในเรื่องของเงินทุนคงไม่ต้องห่วงเพราะกลุ่มพรูเด็นเชียลพร้อมในเรื่องเงินทุนอยู่แล้ว แต่ไม่ว่าใครเข้ามาลงทุนก็ถือเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจในไทยอยู่แล้ว”

ส่วนจะขายธุรกิจธนชาตประกันชีวิต หรือประกันชีวิตนครหลวงไทยนั้นเป็นประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน โดยหากขายธนชาตประกันชีวิตก็เพราะขนาดบริษัท และจำนวนคนมากกว่าประกันชีวิตนครหลวงไทย อีกทั้งสินค้าเด่นมีเพียง “ธนชาต สมายคาร์” ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อลูกค้าเช่าซื้อรถของกลุ่มธนชาตเท่านั้น ส่วนประกันชีวิตนครหลวงไทยขนาดบริษัทเล็กกว่า จำนวนคนน้อยกว่า และการบริหารจัดการก็ง่ายกว่า และสินค้าที่ขายเป็นสินค้าคุ้มครองระยะยาว ส่วนธนชาตประกันภัยเชื่อว่ายังคงไว้ เพื่อรองรับธุรกิจในเครือโดยเฉพาะลีสซิ่ง

ข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้ความเห็นว่า ประเด็นเรื่องพรูเด็นเชียลจะซื้อธุรกิจประกันของธนาคารธนชาต เป็นเรื่องของธุรกิจ เป็นวิถีของฝรั่ง ซึ่งทางพรูเด็นเชียลไม่ได้สอบถามข้อมูลอะไรมาที่คปภ. อีกทั้งพรูเด็นเชียลเป็นมืออาชีพ และรู้จักตลาดในประเทศอยู่แล้วเพราะมีธุรกิจอยู่ ทางพรูเด็นเชียลเขาต้องการขยายธุรกิจในเอเชียอยู่แล้ว เห็นได้จากตอนที่พยายามจะซื้อกลุ่มเอไอเอแต่ล้มเหลวเลยมองหาบริษัทอื่นแทน

“ถามว่าถ้าเขาซื้อธุรกิจประกันของธนชาตแนวทางจะเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าถ้าซื้อเสร็จยังเปิดดำเนินธุรกิจเป็น 2 บริษัทแยกจากกันและถือใบอนุญาต 2 ใบ หรือควบรวมแล้วคืนใบอนุญาต ในเรื่องการควบรวมอาจจะมีประเด็นในเรื่องภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การควบรวมเกิดประโยชน์ในระยะยาวช่วยลดต้นทุนทีมบริหาร ซึ่งถ้าไม่นับในเรื่องภาษีการซื้อกิจการคุ้มกับพรูเด็นเชียลอยู่แล้ว เพราะสินค้าประกันของธนชาตทำกำไรดีอยู่ อีกอย่างได้ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ แต่ต้องดูข้อตกลงของ 2 ฝ่ายว่าซื้อเสร็จจะสามารถขายผ่านแบงก์ธนชาตได้เหมือนเดิมหรือไม่”

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของพรูเด็นเชียลในการซื้อธุรกิจประกันของธนชาตเป็นบวกกับตลาดไทย เพราะพรูเด็นเชียลจัดเป็นกลุ่มประกันขนาดใหญ่ของโลก กระตุ้นการแข่งขันในตลาด วันนี้พรูเด็นเชียลในประเทศไทยทำธุรกิจขายผ่านโทรศัพท์ ตัวแทนยังไม่มี แบงก์แอสชัวรันส์ต้องดูในอนาคตจะซื้อธนาคารในประเทศหรือไม่ เขามีศักยภาพซื้อได้ หากเป็นอย่างนั้นจะทำให้เขาสามารถออกสินค้าประเภทพ่วง ลงทุนอย่างพวกยูนิตลิงค์, ยูนิเวอร์แซลไลฟ์ได้มากขึ้น อีกทั้งเขามีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ใหญ่มากทำธุรกิจระดับโลกอยู่ที่สิงคโปร์ จะสามารถซัพพอร์ตโนว์ฮาวและสินค้าด้านนี้ให้กับเขาเพื่อทำตลาดเมืองไทยได้

ที่มา : สยามธุรกิจ