โดย สยามธุรกิจ วันที่ 14 มีนาคม 2555 เวลา 00:00 น.

ความน่าสนใจของธุรกิจประกันภัยไทยยังคงไม่ลดความแรง โดยเฉพาะฝั่งธุรกิจประกันชีวิต ที่ยามนี้มีนักลงทุนหลายแห่งทั้งบริษัทประกันภัยเอง และธุรกิจอื่นออกปาก กำลังหาซื้อบริษัทประกันชีวิตในยามนี้กันให้ควั่ก นับแต่ “กลุ่มอาคเนย์” ประกาศสนใจซื้อ 2 ค่ายประกันชีวิตเครือแบงก์ธนชาต จนกลายเป็นข่าวฮือฮา และฝั่งแบงก์สวนกลับทันควันยังไม่เคยเจรจา มาถึงวินาศภัยอย่าง “ซิกน่าประกันภัย” ที่ยอมรับซุ่มเจรจากับบริษัทประกันชีวิตรายหนึ่งอยู่

แม้กระทั่งข่าวของบริษัทแม่ ที่สะเทือนมาถึงบริษัทลูกในไทยอย่างกรณี “ไอเอ็นจี กรุ๊ป” ที่เปลี่ยนแผนจากการนำธุรกิจประกันภัยในเอเชีย ออกไอพีโอมาเป็นขายให้กับนักลงทุน ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ยักษ์ประกันชีวิตเบอร์ 3 ของเอเชียอย่าง “เอไอเอ กรุ๊ป” เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สนใจจะซื้อ ซึ่งไม่แน่ว่าจะส่งผลมาถึง “ไอเอ็นจี ประกันชีวิต” ในไทยหรือไม่ รวมถึงจะเสริมบัลลังก์แชมป์ของ “เอไอเอ ประเทศไทย” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพียงใด

“ซิกน่า” หาซื้อประกันชีวิต แบงก์อิสลามหวังทำครบวงจร ความสนใจลงทุนในธุรกิจประกันชีวิตนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บมจ.ซิกน่า ประกันภัย (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า เหตุที่ต้องการซื้อบริษัทประกันชีวิตในไทย เนื่องจากต้องการขยายธุรกิจในไทยระยะยาว ประกอบกับซิกน่าทั่วโลกต่างก็ทำธุรกิจประกันชีวิตอยู่

“ขณะนี้เรากำลังเจรจากับบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งอยู่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และคงปิดดีลไม่ทันปีนี้ ยังต้องใช้เวลาในการหาข้อสรุปร่วมกัน”

ขณะที่ผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) กล่าวยอมรับว่า ธนาคารเตรียมเข้าซื้อบริษัทประกันภัยและประกันชีวิตในประเทศ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน เพื่อให้บริการธุรกิจธนาคารแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาและตรวจสอบทรัพย์สิน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อบริษัทได้ ยังระบุชัดเจนไม่ได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด

“ที่เราต้องการซื้อบริษัทประกันภัย เนื่องจากต้องการให้บริการแบบครบวงจร ด้วยสภาพคล่องที่เรามีอยู่ในระดับที่สูงถึง 10,000 ล้านบาท สามารถที่จะเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้ไม่มีปัญหาแน่นอน”

“ซัมซุงไลฟ์” รอโอกาสซื้อเพิ่มอีกด้าน มุ่งขยับแชร์ในสยามซัมซุงฯ อีกตัวอย่างของทุนต่างชาติที่สนใจซื้อบริษัทประกันชีวิตเพิ่ม คือ บ. ซัมซุง ไลฟ์ จก. บริษัทแม่ของ บ. สยามซัมซุงประกันชีวิต จก. โดยประธานและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ซัมซุงไลฟ์มองโอกาสลงทุนเพิ่มในธุรกิจประกันชีวิตไทย เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีบริษัทใดเปิดให้ร่วมทุน และขณะเดียวกันก็พร้อมเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในสยามซัมซุงประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นอยู่ 3 กลุ่ม คือ ซัมซุงไลฟ์ถืออยู่ 37.5%, กลุ่มสหพัฒน์ถืออยู่ 37.5% และธนาคารธนชาตถืออยู่ 25% ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเจรจาขอซื้อในส่วนที่ธนาคารธนชาตถืออยู่ หลังจากที่ควบกิจการกับธนาคารนครหลวงไทยแต่ก็ไม่เป็นผล

“ปัจจุบันซัมซุงไลฟ์มีธุรกิจประกันชีวิตในต่างประเทศอยู่ 2 ประเทศ คือ จีน และไทย โดยจะมุ่งให้ธุรกิจใน 2 ประเทศนี้ติดท็อปเทน หรือ 1 ใน 10 บริษัทในแต่ละประเทศให้ได้ ซึ่งนอกจาก 2 ประเทศนี้แล้ว บริษัทกำลังมองจะไปลงทุนในอินเดีย และอินโดนีเซีย รวมไปถึงตลาดสหรัฐฯ และยุโรปด้วย ซึ่งปัจจุบันธุรกิจต่างประเทศของซัมซุงไลฟ์ มีสัดส่วนเบี้ยไม่ถึง 1% ของเบี้ยรวมทั้งหมดของซัมซุงไลฟ์ โดยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเบี้ยจากธุรกิจต่างประเทศ เป็น 20% ในปี 2020 (ปี 2563)”

อย่างไรก็ดี แต่ละกลุ่มทุนที่สนใจซื้อบริษัทประกันชีวิตไทยในข้างต้น ต่างก็ยืนยันว่าไม่สนใจที่จะซื้อ บ. ฟินันซ่าประกันชีวิต จก. ซึ่งสถานการณ์ทางการเงินในบริษัทขณะนี้แย่ลงกว่าเดิม เงินกองทุนติดลบมากขึ้นเป็นผลมาจากกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เริ่มใช้ อาทิ เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง (Risk Based Capital : RBC) ที่กำหนดต้องมีเงินกองทุนขั้นต่ำ 125% การคำนวณเงินสำรองตามหลัก RBC รวมไปถึงเกณฑ์ประเมินราคาทรัพย์สินและหนี้สินทำให้ต้องมีเงินกองทุนเพิ่มขึ้น

แต่กระนั้น เลขาธิการคปภ. ก็บอกว่ามีนักลงทุนต่างชาติรายใหม่สนใจเข้ามาดูตลอด ซึ่งทางคปภ.ไม่นิ่งนอนใจพยายามจะเร่งให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว หากบริษัทหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ได้ก็ดีไป แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าจะไหวหรือไม่ไหว จะให้มีคำตอบภายในครึ่งปีแรกนี้ แต่กระนั้นก็มีทุนไทยอย่าง “กลุ่มอาคเนย์” ที่สนใจซื้อฟินันซ่าประกันชีวิต โดยประธานกรรมการบริหาร อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน ให้เหตุผลว่าต้องการฐานลูกค้า ซึ่งยังชำระเบี้ยต่ออายุอยู่ ซึ่งหากเข้าไปดูแลก็เป็นอีกกลุ่มที่จะขยายงานได้ ซึ่งจะช่วยให้ขนาดธุรกิจใหญ่ขึ้น และทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ที่มา : สยามธุรกิจ