โดย สยามธุรกิจ วันที่ 15 ตุลาคม 2554 เวลา 00:00 น.

คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) มีมติเลือกนายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะ กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคปภ.แทนนางจันทรา บูรณฤกษ์ ที่จะหมดวาระการทำงานในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ แม้ตามกระบวนการจะต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ตาม แต่ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ว่าที่เลขาธิการสำนักงานคปภ.กล่าวว่า โดยหลักๆ แล้วตนมีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจตลาดเงิน ในวงการธนาคารมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นธนาคารในต่างประเทศ หรือในประเทศไทย ก่อนจะขยับไปยังแวดวงตลาดทุนคือ ที่ ก.ล.ต. มาถึงตอนนี้กำลังจะก้าวไปยังธุรกิจประกันภัย ซึ่งตอนที่ย้ายไปตลาดทุน อยากเรียนรู้เชิงลึก อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาตลาดทุน ซึ่งก็สามารถทำได้

พอมาถึงธุรกิจประกันภัยก็เหมือนกัน อยากมาดูตลาดประกันภัยในเชิงลึก ในตลาดเงินประชาชนมาฝากเงิน เพราะอยากได้ดอกเบี้ย ซึ่งถ้าดูเชิงลึกด้านเศรษฐศาสตร์ แล้วเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ส่วนตลาดทุน คนมาลงทุน เพราะอยากได้ผลตอบแทนเพิ่ม ขณะที่ตลาดประกันภัย ประชาชนมาซื้อกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตลาดเงิน ตลาดทุนหรือตลาดประกันภัย มีความเหมือนกันตรงที่เป็นธุรกิจป้องกันความเสี่ยง

“จริงๆ แล้วประกันภัย เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าตลาดเงิน ตลาดทุน บทบาทของธุรกิจประกันภัยใกล้เคียงกับจีดีพี การเติบโตของประเทศใกล้เคียงกับประชาชนมากกว่าตลาดเงิน ตลาดทุน ธุรกิจประกันภัยมีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน ต้องช่วยกันกระตุ้นเตือน ช่วยกันพัฒนา ธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจหลักของความมั่นคง ต้องทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในธุรกิจประกันภัย ต้องพยายามทำให้ประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจเห็นถึงความสำคัญของประกันภัย”

ประกันภัยเป็น 1 ใน 3 เสาหลัก ประกอบด้วย ตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดประกันภัย ที่จะช่วยพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ทำอย่างไรจะสร้างความมั่นใจของสาธารณชน ให้มาใช้ประโยชน์จากประกันภัย อย่างน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ หากประชาชนทำประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินไว้ หรือผู้ประกอบธุรกิจทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักไว้ จะได้รับเงินชดเชยตามกรมธรรม์ บรรเทาความเสียหายได้ แต่ตรงนี้อยู่ที่ความมั่นใจของประชาชน

สำหรับความคิดเห็นของคนในวงการประกันภัย ผู้บริหารรายหนึ่งให้ความเห็นว่า ผู้ที่รับเลือกเป็นเลขาธิการ คปภ.จะเป็นใครก็ได้ เพราะเชื่อมั่นในวิจารณญาณของบอร์ดคปภ. ต้องคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด ขณะที่ผู้บริหารอีกรายหนึ่งมองว่า ถือว่าเหมาะสมเพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งประวัติการทำงานก็ถือว่าดีก็น่าจะเหมาะสม

นอกจากจะมีความรู้ความสามารถทางด้านตลาดทุน และตลาดเงิน ผ่านการทำงานในสถาบันการเงิน ที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่งแล้ว ยังมีความรู้และคุ้นเคยกับธุรกิจประกันภัย รวมถึงคปภ.อยู่มาก เพราะตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ของคปภ. อาทิ คณะกรรมการบริหารกองทุน ประกันชีวิต/กองทุนประกันวินาศภัย, คณะอนุกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน คปภ.

ที่มา : สยามธุรกิจ