โดย สยามธุรกิจ วันที่ 28 พฤษภาคม 2554 เวลา 00:00 น.
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เป็นประธานในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัย และแพทยสภา ในการกำหนดนิยาม “โรคร้ายแรง” ที่บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัยนำมาจัดทำสินค้า แผนคุ้มครองโรคร้ายแรงออกขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีมากถึง 30-40 โรค และแต่ละบริษัทต่างก็มีเงื่อนไขความคุ้มครองแตกต่างกัน ทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน ขณะเดียวกันบางโรคก็ไม่เป็นที่รู้จัก
ขณะนี้คณะทำงานใกล้จัดทำนิยามโรคร้ายแรงเสร็จแล้ว โดยจำนวนโรคร้ายแรงที่นำมากำหนดนิยามนั้น อิงจากโรคร้ายแรงที่นิยมขายความคุ้มครองกันอยู่ในตลาดประกันภัยสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดประกันสุขภาพขนาดใหญ่มาเป็นหลัก ซึ่งคัดเลือกมาได้ 42 โรคด้วยกัน “แม้ว่าจำนวนโรคร้ายแรงที่ขายอยู่ในตลาดประกันไทยในปัจจุบันจะมากกว่า 42 โรคดังกล่าว แต่ก็เชื่อว่าไม่ได้ขายครบทั้งหมด เราเลือกมาแต่ที่นิยมขายกันอยู่ในตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของการประกันสุขภาพเอามาเป็นฐาน ซึ่งนอกจากการกำหนดนิยามโรคร้ายแรงทั้ง 42 โรคแล้ว ยังมีการหารือกันกำหนดความคุ้มครองที่บริษัทประกันชีวิต และประกันวินาศภัยควรให้ความคุ้มครองอีกด้วย เพื่อไม่ให้ลูกค้าเกิดความสับสนในกรณีที่ซื้อแผนคุ้มครองโรคร้ายแรงต่างบริษัทกัน”
ทั้งนี้ คาดว่าการกำหนดนิยามโรคร้ายแรงทั้งหมดนี้จะแล้วเสร็จและนำเสนอ คปภ.ได้ในต้นเดือนมิถุนายน 2554 นี้ ซึ่งหลังจากที่ คปภ. ได้พิจารณาแล้ว ก็เป็นขั้นตอนของการอนุมัติใช้ โดยเลขาธิการคปภ. อย่างไรก็ดี เมื่อคปภ.ประกาศใช้นิยามโรคร้ายแรงตามที่ได้จัดทำนี้ จะส่งผลให้แผนประกันโรคร้ายแรงที่ขายอยู่ในตลาดปัจจุบันต้องปรับเปลี่ยนใหม่หมด โดยบริษัทประกันชีวิต และประกันวินาศภัยต้องจัดทำแผนคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ต้องระบุนิยามตามที่คปภ.กำหนดนี้
สำหรับโรคร้ายแรงทั้ง 42 โรคที่นำ มากำหนดนิยาม ได้แก่ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ ตายครั้งแรกจากการขาดเลือด, ความบกพร่องทางระบบประสาทอันเนื่องมาจากความผิดปกติทางหลอดเลือด, การผ่า ตัดเส้นเลือดกล้ามเนื้อหัวใจ, ความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง, ไตวาย, โรคระบบประสาทมัลติเพิลสะคลีโรสิส, อัมพาต, โปลิโอ, โรคกล้ามเนื้อเสื่อม, มะเร็ง, การปลูกถ่ายอวัยวะ, ไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรง, โรคโลหิตจางจากไข กระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต, โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย, ตาบอด, เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง, แผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก, โรคกล้ามเนื้อหัวใจ, การผ่าตัดสมองอันเนื่องมาจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง, การสลบหรือหมดความรู้สึก, โรคเท้าช้าง, สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส, โรคปอดระยะ สุดท้าย, การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ, ตับวาย การสูญเสียความสามารถในการ พูด, การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง, โรค เซลล์ประสาทยนต์, การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ Aorta, โรคภูมิแพ้ตัวเองชนิดซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส, ภาวะสมอง ใหญ่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของร่างกายตามปกติอย่างถาวร, การฉีกขาด หลายรากของข่ายประสาท Brachial, ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง, โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย, ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับเป็นซ้ำและเรื้อรัง, โรคลำไส้อักเสบเป็นแผล, โรคสมองเสื่อม, โรคระบบประสาทพาร์กินสัน, การสูญเสียการดำรงชีวิตอย่างอิสระ, การทุพพลภาพทั้งหมดอย่างถาวร และ Apallic Syndrome /Brain Death
ที่มา : สยามธุรกิจ