เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) ในฐานะกรรมการกองทุนส่งเสริมการ ประกันภัย พิบัติ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ยอดขาย ประกันภัย พิบัติปรับตัวสูงขึ้นมาก ล่าสุดมียอดจำหน่ายกรมธรรม์ ประกันภัย พิบัติประมาณ 1.32 ล้านกรมธรรม์ จากต้นปีที่มีประมาณ 1 ล้านกรมธรรม์ ซึ่งเป็นผลมาจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาลบางแห่ง มีเงื่อนไขของการกู้เงินว่า ลูกค้าต้องทำ ประกันภัย พิบัติด้วยจึงจะกู้เงินได้

หากแบ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อ ประกันภัย พบว่า บ้านที่อยู่อาศัยซื้อกรมธรรม์ ประกันภัย พิบัติมากสุดประมาณ 1.25 ล้านกรมธรรม์ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี 71,714 กรมธรรม์ ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม 5,001 กรมธรรม์ ขณะที่ทุน ประกันภัย วงเงิน 92,159 ล้านบาท โดยบ้านที่อยู่อาศัยมากสุด 68,410 ล้านบาท เอสเอ็มอี 9,965 ล้านบาท และธุรกิจอุตสาหกรรม 14,224 ล้านบาท สำหรับทุน ประกันภัย ล่าสุดอยู่ที่ 56,930 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านที่อยู่อาศัย 35,101 ล้านบาท ภาคธุรกิจ 13,017 ล้านบาท และเอสเอ็มอี 8,812 ล้านบาท ขณะที่เบี้ย ประกันภัย อยู่ที่ 510 ล้านบาท

“ยอดขาย ประกันภัย พิบัติ เพิ่มขึ้นมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เนื่องจากมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบาลบางแห่ง ตั้งเงื่อนไขของขอสินเชื่อบ้านว่า ลูกค้าต้องทำ ประกันภัย พิบัติด้วย จึงจะกู้เงินได้ พบว่าทำให้ยอดขาย ประกันภัย พิบัติเพิ่มขึ้นเดือนละกว่าแสนรายต่อเดือน”

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่าธนาคารเฉพาะกิจของรัฐได้ส่งหนังสือถึงลูกค้า เรื่องจ่ายเบี้ย ประกันภัย โดยขอให้ชำระค่า ประกันภัย ใน 2 ส่วน คือ ประกันอัคคีภัย และมีส่วนที่เพิ่มคือ ประกันภัย พิบัติอีก 100 บาทรวมภาษี เป็นเงินค่าเบี้ย ประกันภัย 108.07 บาท โดยจะได้ทุน ประกันภัย 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ลูกค้าไม่สามารถเลือกบริษัทที่รับ ประกันภัย ได้ เพราะธนาคารมีกลุ่มพันธมิตรอยู่แล้ว ได้แก่ บริษัทอาคเนย์ ประกันภัย บริษัททิพย ประกันภัย และบริษัทนวกิจ ประกันภัย ในรูปแบบ ประกันภัย ร่วม

ที่มา : อาร์วายทีไนน์