ปลายเดือนก่อน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) และอีก 3 หน่วยงาน คือ กรมบังคับคดี กองทุนประกันวินาศภัย และกองทุนประกันชีวิต ลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการยื่นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ประกันภัย เพื่อลดขั้นตอนในการยื่นขอรับชำระหนี้ กรณีที่บริษัท ประกันภัย ถูกปิดกิจการและล้มละลาย เหลือขั้นตอนเดียว คือ ยื่นกับกองทุนฯ หรือ คปภ.เพียงจุดเดียว จากเดิมต้องยื่นทั้งผู้ชำระบัญชี, กองทุนฯ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี หากบริษัทถูกศาลสั่งล้มละลาย โดยเริ่มกับลูกค้าบริษัท ส่งเสริม ประกันภัย จำกัด ที่เพิ่งถูดปิดกิจการไป

ล่าสุด คปภ.คลี่คลายปัญหาสินไหมให้กับลูกค้าส่งเสริม ประกันภัย โดยผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า เนื่องจากลูกค้าส่งเสริม ประกันภัย 95% เป็น ประกันภัย พ.ร.บ. ทางกองทุนฯ ได้เชิญบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ผู้ชำระบัญชี และผู้แทนผู้ถือหุ้น บริษัทส่งเสริม ประกันภัย มาหารือ ถึงการให้ความคุ้มครองลูกค้ากรมธรรม์ พ.ร.บ.ที่ยังมีผลบังคับอยู่ และบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยจากรถ

ลูกค้า "ส่งเสริม ประกันภัย " ยื่นบริษัทฯ กลาง 7 วันได้เงินทันที

โดยมีข้อตกลงร่วมกัน หากใครประสบภัยจาก รถยนต์ แล้วกรมธรรม์ ประกันภัย พ.ร.บ.ยังมีความคุ้มครองอยู่ ให้ยื่นขอรับชำระหนี้กับบริษัทกลางฯ ซึ่งจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประสบภัยไม่เกิน 7 วันตามกฎหมาย หากเป็นค่ารักษาพยาบาลสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท กรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพถาวรไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย และกรณีรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่เกินวันละ 200 บาท สูงสุด 20 วัน โดยให้ยื่นเรื่องกับบริษัทกลางฯ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

"ผู้ประสบภัยจะได้เงินเร็วกว่าการยื่นเรื่องกับกองทุนประกันวินาศภัย ที่จะต้องรอให้กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ก่อนถึงจะจ่ายได้ หรือกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ซึ่งจะใช้เวลา 14 วันนับจากวันยื่นเรื่อง แม้จะไม่รู้จำนวนกรมธรรม์ส่งเสริม ประกันภัย ที่ยังมีผลบังคับ แต่คงเหลือไม่เยอะ คาดว่าสิงหาคมนี้กรมธรรม์ที่เหลืออยู่ทั้งหมดน่าจะครบอายุ แล้วเพราะมีระยะเวลาคุ้มครองแค่ 1 ปี นับจากเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งเสริม ประกันภัย ถูกสั่งหยุดรับ ประกันภัย ชั่วคราว"

ชี้ "ส่งเสริม ประกันภัย " สภาพคล่องเยอะ ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 200 ล้าน

สาเหตุที่ให้บริษัทกลางฯ จ่ายสินไหม ให้กับลูกค้าส่งเสริม ประกันภัย ก่อนได้ เพราะหลังจากผู้ชำระบัญชี ตรวจสอบทรัพย์สิน และหนี้สิน ส่งเสริม ประกันภัย เบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินกว่า 200 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินสภาพคล่องกว่า 600 ล้านบาท เป็นเงินฝากธนาคาร พันธบัตร และหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เทียบกับหนี้สินทั้งหมดราว 400 กว่าล้านบาท ขณะที่เจ้าหนี้ผู้เอา ประกันภัย ที่มายื่นขอรับชำระหนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นับแต่เปิดให้ยื่นเรื่องเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวนเพียง 21 ราย มูลหนี้ประมาณ 2 ล้านบาทเท่านั้น โดยกำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้ถึงวันที่ 2 สิงหาคมนี้

หากเทียบภาระหนี้สินระหว่าง ส่งเสริม ประกันภัย กับ 4 บริษัท ที่ถูกปิดกิจการไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ บริษัทสัมพันธ์ ประกันภัย, บริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์, บริษัท ลิเบอร์ตี้ ประกันภัย และบริษัทวิคเตอรี ประกันภัย คาดว่าน่าจะชำระบัญชีเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ โดยเงินที่เหลือจากการชำระหนี้ จะคืนให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน ซึ่งเป็นบริษัทแรกใน 5 บริษัท ที่ไม่ต้องขอรับเงินจากกองทุนประกันวินาศภัย มาจ่ายให้กับเจ้าหนี้ผู้เอา ประกันภัย

"มูลหนี้ส่งเสริม ประกันภัย ไม่น่าจะมากไปกว่านี้ เพราะเขารับ ประกันภัย พ.ร.บ.เป็นหลัก และเป็น ประกันภัยรถยนต์ ด้วย โอกาสเกิดความไม่สุจริตใจ หรือ moral hazard ยาก เพราะต้องมีทั้งโรงพยาบาล ผู้บาดเจ็บ แล้วก็ตำรวจ ร่วมมือกันถึงจะทำได้ ถ้าเป็น ประกันภัย รถจักรยานยนต์ อาจจะมีโอกาสมากกว่า"

"เอ.พี.เอฟ.-วิคเตอรี" จ่อล้มละลาย ก.ม.ใหม่ฉลุยกองทุนฯจ่ายหนี้กว่าพันล้าน

ส่วนความคืบหน้าการชำระบัญชี เอ.พี.เอฟ. และวิคเตอรี ประกันภัย กล่าวว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ผู้ชำระบัญชีจะยื่นฟ้องศาลล้มละลาย เพื่อให้บริษัทล้มละลาย เนื่องจากมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน หลังจากนั้นจะถึงคิวของวิคเตอรี ประกันภัย

กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย และร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิตฉบับใหม่ ที่มีการแก้ไขอยู่ว่า ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รอเข้าสู่วาระ 2 และ 3 ซึ่งคาดว่าร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ จะถูกบรรจุเข้าวาระการประชุมหลังจากเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะออกบังคับใช้ภายในปลายปีนี้ นั่นความหมายว่ากองทุนประกันวินาศภัย จะต้องเริ่มจ่ายเงินชดเชยให้กับเจ้าหนี้บริษัท ประกันภัย ที่ถูกปิดกิจการ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้จ่ายภายใน 60 วัน นับจากวันที่ผู้ชำระบัญชี และกรมบังคับคดีแจ้งเรื่องมา

ปัจจุบันกองทุนฯ มีเงินอยู่ประมาณ 1,280 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคมนี้จะได้เงินเพิ่มอีก 250 ล้านบาท และมกราคมปี 2557 อีก 250 ล้านบาท จากเงินสมทบที่บริษัท ประกันภัย ต้องนำส่งตามกฎหมาย ถึงตอนนั้นกองทุนฯ จะมีเงินประมาณ 1,780 ล้านบาท เทียบกับยอดหนี้ทั้ง 4 บริษัท ประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่จ่ายจริงแค่ 1,200 ล้านบาท เพราะกฎหมายกำหนดให้กองทุนฯ จ่ายชดเชยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย

"ส่งเสริม ประกันภัย " ไม่ยอมแพ้ ฟ้องศาลปกครองรัฐปิดบริษัทมิชอบ

อย่างไรก็ดี แม้ส่งเสริม ประกันภัย จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกปิดกิจการไปแล้ว แต่ทางเจ้าของบริษัทยังไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าว พร้อมกับดิ้นรนต่อสู้ทุกทาง โดยข่าวจากสำนักงาน คปภ. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมส่งเสริม ประกันภัย ได้ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อเอาผิดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (บอร์ด คปภ.) และสำนักงาน คปภ. กรณีคำสั่งเพิกถอนมิชอบโดยกฎหมาย ซึ่งการกระทำของส่งเสริม ประกันภัย มาแนวทางเดียวกับอีก 3 บริษัท คือสัมพันธ์, เอ.พี.เอฟ และวิคเตอรี ที่ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้เอาผิดกับหน่วยงานดังกล่าวเช่นกัน ก่อนที่ศาลปกครองจะมีคำสั่งยกฟ้อง

ที่มา : สยามธุรกิจ