เปิดยุทธศาสตร์ปี 62 เบอร์ 1 และเบอร์ 2 “วิริยะ-ทิพย” บุกหนัก ประกันภัยรถยนต์ เร่งเครื่องตั้งแต่ท้ายปี วิริยะ ลุยพัฒนาสินไหม ขยายเคลมออนไลน์ค่ายรถทุกแบรนด์ ดูดลูกค้าเก่าต่ออายุ 80% ควบคู่ดึงลูกค้ารายใหม่ซบ ตั้งเป้าปีหน้าโต 5% เบี้ยจ่อ 4 หมื่นล้าน จับตาตัวแปรใหม่ EV ฟาก ทิพย พร้อมเต็มที่ บุก รถยนต์ ปรับกลยุทธ์ ทิ้งทวนปลายปีส่ง “ชั้น 1 ตัวใหม่” กระตุกยอด

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เบอร์ 1 ธุรกิจประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย เติบโต 4% หรือมีเบี้ย ประกันภัย รับรวม ประมาณ 37,608 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ประมาณ 90% และ ประกันภัย ไม่ใช่รถยนต์ (Non Motor) ประมาณ 10% โดยผลประกอบการล่าสุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย 4% มีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 27,000 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตมาจาก 2 ส่วน คือ อัตราการต่ออายุกรมธรรม์ของลูกค้าเดิม เพิ่มขึ้นจาก 70% เป็นเกือบ 75% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด อยู่ที่ประมาณ 60% เป็นผลมาจากกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเฉพาะด้านสินไหมทดแทนให้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งมาจากได้ลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น อาทิลูกค้าของ บริษัทประกันภัย ที่ถูกปิดกิจการไปที่ไหลเข้ามา เป็นต้น

สำหรับในช่วงโค้งสุดท้าย บริษัทยังคงมุ่งเน้นพัฒนาบริการด้านสินไหมทดแทน ประกันภัยรถยนต์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็วมากที่สุด โดยเฉพาะด้านงานซ่อม โดยจะขยายระบบสินไหม ประกันภัยรถยนต์ ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Motor Claim Solutions : EMCS) ให้ครอบคลุมอู่ห้างของผู้ผลิต รถยนต์ ทุกยี่ห้อ เป็นการส่งเคลมราคาค่าซ่อมและรูปถ่ายรถที่เคลมจากอู่ซ่อม ให้กับบริษัทฯ เพื่อประเมินค่าซ่อมผ่านทางออนไลน์ โดยบริษัทฯ สามารถให้ราคาซ่อมจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องส่งพนักงานเดินทางไปประเมินราคาที่อู่ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลารอนาน

ด้าน ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เบอร์ 2 ในธุรกิจประกันวินาศภัย กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยาย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มสัดส่วนให้ได้ 30% ของเบี้ย ประกันภัย รับรวมของบริษัทฯ ภายในปี 2564 นี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 14-15% หรือมีเบี้ย ประกันภัย ไม่ถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับเบี้ย ประกันภัย รวมกว่า 20,000 ล้านบาท ในขณะที่ในอุตสาหกรรมมีเบี้ย ประกันรถยนต์ สัดส่วนถึง 65% โดยขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะขยาย ประกันภัยรถยนต์ อีกครั้งแล้ว หลังจากหยุด ไป 3 ปีเพราะเจ็บตัวและไม่มีความพร้อม

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ จะออกกรมธรรม์ใหม่ เพื่อกระตุ้นตลาดและสร้างยอดขายทั้งในปีนี้และปีหน้าด้วย โดยในช่วงโค้งสุดท้ายนี้จะมีกรมธรรม์ ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 แบบใหม่ ออกมาเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มคล้ายกับ “ทิพยเลดี้” (TIP Lady) และผลการดำเนินงานในปีนี้ว่าจนถึงปัจจุบันทำได้ตามเป้าหมาย ทั้งเบี้ย ประกันภัย รับและผลประกอบการที่เป็นกำไร โดยเชื่อว่าจนถึงสิ้นปีน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา

เครดิต: สยามอินชัวร์ นิวส์

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์