ลักษณะของร่างกายที่มีความเสี่ยงต่อ โรคมะเร็ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า คนที่มีลักษณะร่างกายเช่นนี้ต้องเป็น มะเร็ง ทุกคน แต่จะกล่าวถึง ร่างกายลักษณะนี้ พฤติกรรมแบบนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อ โรคมะเร็ง อะไรได้บ้าง เพราะปัจจัยของ โรคมะเร็ง มีเยอะมาก ทั้งพันธุกรรม อาหาร อารมณ์ การใช้ชีวิต การพักผ่อน การทำงาน

มะเร็ง เป็นโรคที่ทุกคนหวาดกลัว ตามหลักการแพทย์แผนจีน มีคำอธิบายถึงภาวะต่างๆ ที่มีความเสี่ยงก่อโรคมะเร็ง ดังนี้

1. ร่างกายแบบมีความชื้นสะสมเยอะ

ข้อสังเกตง่ายๆ ของคนที่มีร่างกายลักษณะนี้ คือ คนที่อ้วน ตัวใหญ่ รู้สึกว่าในปากมีน้ำลายเหนียวๆ หวานๆ รู้สึกว่าแขนขาหนักๆ อาจจะมีอาการท้องอืด แน่นท้องเป็นประจำ ชอบกินของมัน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลักษณะเหล่านี้บอกถึงความเสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอก ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็ง แต่สามารถกลายเป็นมะเร็งได้

ดังนั้นคนที่มีร่างกายลักษณะนี้ จะต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดกินเนื้อสัตว์ ของมัน ของหวาน และหันมากินอาหารรสจืดๆ แทน เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นสะสมในร่างกายเยอะ

อาหารขับขึ้น
ลูกเดือย โดยสามารถนำมาต้มกินเพื่อขับความชื้น แก้ปวด ลดความอ้วน นอกจากนี้ยังสามารถกิน ลูกเดือย แทนข้าวทุกมื้อเลยก็ได้ จนกว่าอาการจะดีขึ้น เมื่อกินไปได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็จะรู้สึกแล้วว่าตัวเบาขึ้น ไม่บวม อาการท้องอืด แน่นท้องดีขึ้น มีแรงมากขึ้น

2. ร่างกายแบบชี่พร่อง หรือร่างกายที่ลมปราณอ่อนแอ

ข้อสังเกตคือ คนที่มีร่างกายลักษณะนี้ จะมีดวงตาและสีหน้าไม่มีชีวิตชีวา มีอาการอ่อนเพลีย เหงื่อออกเยอะ รู้สึกขี้เกียจพูด หายใจไม่ทัน หายใจไม่เต็มอิ่ม ซึ่งลักษณะเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคมะเร็งปอดได้ง่าย เพราะปอดเป็นตัวสูบฉีดลมปราณในร่างกาย

ใครมีลักษณะข้างต้นจึงควรพักผ่อนเยอะๆ ไม่หักโหม งดสูบบุหรี่ อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเท ฝึกทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ โดยการหายใจเข้า - ออกลึกๆ ช้าๆ หายใจให้สุด เพื่อปรับออกซิเจนในเลือดให้เพิ่มมากขึ้น และอาจจะต้องกินยาบำรุง ซึ่งต้องให้หมอเป็นคนจ่ายให้

อาหารปรับลมปราณ
ยาฮ่วงฉี ยาชนิดนี้จะช่วยบำรุงชี่ หาซื้อได้จากร้านขายยาจีน นำมาต้มดื่มเป็นชา สามารถกินแทนน้ำเปล่าได้ ยาฮ่วงฉี เป็นยาบำรุงที่ใช้มากในผู้ป่วยพักฟื้นหลังผ่าตัด เพื่อบำรุงเลือดและลมปราณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หรือไข้หวัด ควรหลีกเลี่ยงยาชนิดนี้ เพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มความร้อนให้ร่างกาย

โสมอเมริกา เป็นโสมที่มีราคาไม่แพงมาก หาซื้อได้จากร้านขายยาจีน นำมาต้มแล้วกรองดื่มเช่นเดียวกับยาฮ่วงฉี แต่โสมอเมริกาจะให้ความร้อนน้อยกว่า จึงไม่ทำให้เป็นร้อนใน

3. ร่างกายแบบอินพร่อง

คนที่ อินพร่อง มักจะเป็นคนผอม อิน คือความเย็น ความเย็นน้อยเพราะร่างกายข้างในมีการเผาผลาญเยอะ ทำให้สารน้ำในร่างกายน้อย ตัวเลยผอม และมีความรู้สึกคอแห้ง หิวน้ำ ปากแห้ง ท้องผูก ฉี่เหลือง ตัวร้อน ฝ่ามือ - ฝ่าเท้าร้อน เหงื่อออกเยอะ ซึ่งถ้า สารน้ำ ในร่างกายไม่พอก็จะส่งผลให้เป็นมะเร็งปอดได้ง่าย พบมากในคนที่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำให้ร่างกายร้อน ดังนั้นผู้ที่สูบบุหรี่จึงควรงดสูบ และจิบน้ำบ่อยๆ

อาหารเพิ่มความเย็น
ม่ายตง เป็นรากไม้ที่อยู่ใต้ดิน จิบจนกว่าอาการจะดีขึ้น รู้สึกปากคอหายแห้ง และหิวน้ำน้อยลง

4. ร่างกายแบบหยางพร่อง

หยาง คือความร้อน ผู้ที่หยางพร่องคือ มีความร้อนในร่างกายน้อย ทำให้มีอาการขี้หนาว เหงื่อออกเยอะ อาจจะมีอาการถ่ายเหลว ปัสสาวะบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในผู้สูงอายุ อาจจะเกิดจากการทำงานเหนื่อยมากเกินไปเป็นเวลานานๆ ร่างกายลักษณะนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ เพราะมี หยาง ไม่พอสำหรับการย่อยอาหาร ดังนั้นจึงต้องให้ความอบอุ่นกับร่างกาย และหลีกเลี่ยงการกินของเย็น เช่น น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอศกรีม

อาหารเพิ่มความร้อน
ขิง การกิน ขิง จะช่วยให้หายหนาว และทำให้กระเพาะอาหารอุ่น นอกจากการกินขิงแล้ว การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น ก็ช่วยเพิ่มความร้อนให้ร่างกายได้

5. ร่างกายแบบเลือดติดขัด ไหลเวียนไม่ดี

การที่เลือดติดขัดในร่างกาย มักจะเกิดจากการเจ็บป่วยเรื้อรัง รักษาไม่หายสักที เป็นๆ หายๆ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ผู้ที่มีร่างกายลักษณะนี้อาจจะมีสีหน้าคล้ำๆ ริมฝีปากคล้ำ ใต้ตาดำ ลิ้นสีออกม่วงๆ ซึ่งเป็นลักษณะที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับ

ปัจจุบัน โรคมะเร็งตับ มักเกี่ยวข้องกับการกินอาหาร เช่น อาหารมัน อาหารย่อยยาก เนื้อสัตว์ติดมันทั้งหลาย พอเจอของมัน เลือดก็หนืด พอไขมันสูง จึงทำให้เลือดติดขัด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ก็ต้องผ่อนคลายความเครียด ปรับอารมณ์ ทำจิตใจให้สงบด้วย

อาหารปรับระบบไหลเวียนเลือด
ชากุหลาบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและช่วยให้ผ่อนคลาย
ชาดอกคำฝอย เช่นเดียวกับชากุหลาบ โดยอาจดื่มผสมกับชากุหลาบก็ได้

6. ร่างกายแบบชี่ติดขัด

ร่างกายลักษณะนี้คือ การที่ลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก คนที่มีร่างกายลักษณะนี้มักจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความสุข ลังเล อารมณ์อ่อนไหวง่าย แน่นหน้าอก เจ็บร้าวสีข้าง ส่งผลให้เสียงมะเร็งหลายชนิด เพราะมีสาเหตุจากอารมณ์ นอกจากนี้หากชี่ติดขัดนานๆ ยังส่งผลให้เลือดติดขัดได้อีกด้วย

ดังนั้นวิธีปรับก็คือ ต้องทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ทำสมาธิ ไม่หงุดหงิด ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข นอกจากนี้ก็ให้กินอาหารขับลมชนิดต่างๆ

วิธีปรับลมปราณ หรือขี่ในร่างกาย
นวดกดจุด ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีปรับลมปราณที่ดีที่สุด โดยจะเป็นรูปแบบไหนก็ได้ เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ ทำแอโรบิก ให้ร่างกายได้ขยับ อย่านั่งท่าเดิมนานๆ เพื่อช่วยให้ลมปราณไหลเวียนดี

เครดิต: ชีวจิต

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์