23
น.ส.ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่อยู่ระหว่างพิจารณาและผลักดัน แนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการดูแลความปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในภาคบังคับคนละ 30-40 บาท เพื่อซื้อ ประกันภัย คุ้มครองความปลอดภัย แต่ยอมรับว่ากรณีนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ทั้งนี้ ข้อดีที่เกิดขึ้นจะช่วยส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น ซึ่งปัจจุบันการเดินทางของนักท่องเที่ยวเริ่มเป็นการท่องเที่ยวแบบอิสระ หรือกลุ่มเอฟไอที เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มที่ซื้อ ประกันภัย และไม่ซื้อ ประกันเดินทาง ปะปนกันมา ต่างจากการเดินทางแบบกลุ่มทัวร์ จะมีการซื้อ ประกันภัย ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งหากมีการเก็บค่า ประกันภัย ทุกกลุ่ม ก็จะเป็นการช่วยลดปัญหาการสูญเสียงบประมาณ ในการชดเชยและช่วยเหลือกว่าปีละ 200 ล้านบาท
ขณะเดียวกันอาจมีข้อเสียด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมครอบครัว หรือ นักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในไทยเป็นประจำ จะยินยอมพร้อมที่จะจ่าย หรือมีความรู้สึกอย่างไร และอาจทำให้เกิดการเบี่ยงเบนการตัดสินใจ ย้ายการท่องเที่ยวไปในประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และ สปป.ลาว
"แม้ว่าค่าใช้จ่ายจำนวน 30-40 บาท/คน ไม่ใช่เงินจำนวนมากนัก แต่อาจกระทบต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยวที่เดินทาง หากมีการนำไปเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งหากภาครัฐนำค่าธรรมเนียมดังกล่าวไปแฝง และไม่เจาะจง รวมถึงมีการชี้แจงค่าใช้จ่ายให้กับนักท่องเที่ยวรับทราบ ก็เชื่อว่าอาจได้รับการตอบรับที่ดีได้"
อย่างไรก็ตาม แนวทางการจัดเก็บ จะทำเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมผจญภัย หรือทุกรายที่เดินทางเข้ามา ในประเทศ ภาครัฐจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงจุดประสงค์ของเงินที่นำไปใช้จ่าย ซึ่งอาจนำไปตั้งกองทุนช่วยเหลือดูแลรักษาในยามเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่มีมาตรการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวผ่านกองทุนต่างๆ
เครดิต: HealthToday
ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์