บริษัท ประกันภัย ในเกาหลีใต้ มีแนวโน้มอาจจะต้องเผชิญกับภาวะที่ยากลำบากอย่างมาก ในการปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ และ ประกันสุขภาพ เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี “มุน แจ อิน” มีแผนที่จะควบคุมราคา ประกันภัย กลุ่มนี้ เพื่อลดภาระทางการเงินของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเชื่อว่าประธานคณะกรรมการกำกับดูแลบริการภาคการเงิน หรือ เอฟเอสซี (Financial Services Commission) คนใหม่ ที่ประธานาธิบดีแต่งตั้งเข้ามาควบคุมดูแลหน่วยงานกำกับแห่งนี้ คงจะสานต่อนโยบายดังกล่าวทันที

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟเอสซีกล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ให้ความสำคัญอย่างมากกับการควบคุมราคา ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยสุขภาพ หรือการ ประกันภัย ค่ารักษาพยาบาลเอกชน เพราะเป็น ประกันภัย “ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชาชนใกล้ชิด”

ปัจจุบัน บริษัทประกันภัย ในเกาหลีใต้หลายแห่ง กำลังถูกทางการตรวจสอบจากการที่มีการปรับอัตราเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น ซึ่งตามรายงานการตรวจสอบของรัฐสภาที่เผยแพร่ออกมาพบว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัท Heungkuk Life Insurance ได้ปรับเบี้ย ประกันภัยสุขภาพ สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ที่เป็น ผู้หญิง เพิ่มขึ้นถึง 47.9% ส่วน ผู้ชาย ก็ถูกปรับเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น 35% ทำให้ผู้เอา ประกันภัย ต้องจ่ายเบี้ย ประกันภัย แพงขึ้นมากทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ฮุนได มารีน แอนด์ ไฟร์ อินชัวรันส์ และบริษัท อลิอันซ์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โคเรีย ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้ปรับเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้นอีก 28.9% และ 24.6% ตามลำดับ

นอกจากความเคลื่อนไหวที่ควบคุมราคาเบี้ย ประกันภัย แล้ว ในด้านการส่งเสริมความมั่นคงทางการเงินของ บริษัทประกันภัย ทางหน่วยงานกำกับยังอยู่ระหว่างเตรียมการที่จะประกาศบังคับใช้ระเบียบใหม่ ที่จะกำหนดให้ บริษัทประกันภัย ต้องเพิ่มกองทุนตามเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยง (Risk-Based Captial : RBC) ที่จะปรับใหม่ให้เข้มข้นมากขึ้น โดยจะแบ่งการดำเนินการออกเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นมาตรการในการเตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 17 ที่จะนำมาใช้ในปี 2564

หน่วยงานกำกับเผยว่า การปรับ RBC เพื่อส่งเสริม บริษัทประกันภัย เพิ่มทุน เพื่อให้เงินกองทุนสูงขึ้น หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของตนล่วงหน้า ให้สอดรับกับมาตรฐานบัญชีสากลใหม่ๆ ที่จะเริ่มใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยคาดการณ์ว่าเมื่อใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ จะทำให้หนี้สินของ บริษัทประกันภัย ทั้งระบบเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 20 ล้านล้านวอน (18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 604,000 ล้านบาท

ตามเกณฑ์ RBC ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน กำหนดให้ บริษัทประกันภัย แต่ละแห่ง จะต้องมีเงินทุนส่วนเกิน และเงินสำรองตามกฎหมายตลอดเวลาที่ประกอบธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองหากเกิดความเสียหายที่ไม่ได้คาดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อฐานะของ บริษัทประกันภัย โดยหน่วยงานกำกับมองว่าเกณฑ์ RBC ในปัจจุบันหย่อนยานเกินไป เมื่อเทียบกับตลาด ประกันภัย สากล ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ประกันภัย สะท้อนไม่ต่างกันว่า ที่ผ่านมา บริษัทประกันภัย ท้องถิ่นแทบจะไม่ได้ปรับปรุงฐานะการเงินเท่าไหร่นัก

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์