Qoros Automotive บริษัทที่มีนักลงทุนชาวจีนกับนักลงทุนชาวอิสราเอล ร่วมกันก่อตั้งขึ้นในปี 2007 เพื่อพัฒนา รถยนต์ คุณภาพที่มีความแตกต่างในเอกลักษณ์ของตนเอง สำหรับตลาดในยุโรปและในจีน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ และมีศูนย์พัฒนาอยู่ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนีอีกแห่ง มีโรงงานผลิตรถอยู่ที่เมืองเจียงซู มีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน และจะขยายเพิ่มเป็น 300,000 คันในอนาคต

รุ่นแรกของการผลิตเปิดตัวเมื่อปลายปี 2013 แต่แบรนด์น้องใหม่ยี่ห้อนี้ ยังไม่สามารถสร้างกระแสความนิยมได้อย่างฮือฮาเหมือนค่ายอื่น แต่ก็มีพัฒนาการที่ก้าวหน้ามาตลอด ไม่ตกยุค ตกเทรนด์ โดยมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิดของสิ่งแวดล้อม "รถพลังงานไฟฟ้า" แต่มาในแนวของรถที่มีความพร้อมในความหรูหรา มีชื่อรุ่นสั้นๆ ว่า K-EV รถต้นแบบขนาดกลางใหญ่ ระดับพรีเมียม ประสิทธิภาพสูง แนวซูเปอร์คาร์ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย บรรจุมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ให้กำลังรวมกันสูงถึง 870 แรงม้า หรือ 648 กิโลวัตต์ เป้าหมายการตลาดมาเพื่อแข่งกับรถ Tesla Model S และรถอีกหลายรุ่น เช่น Porsche Panamera E-Hybrid, Audi e-tron และ Volkswagen I.D. รวมทั้ง รถพลังงานไฟฟ้า ยี่ห้อใหม่ๆ อาทิ Faraday FF91 หรือ NIO EP9 รถพลังงานไฟฟ้า จากกลุ่มทุนของจีน

ดังนั้น ประสิทธิภาพของรถรุ่นนี้ จึงต้องระดับความสามารถไล่ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราเร่ง จาก 0-100 กม./ชม. ก็ใช้เวลาน้อยกว่า 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 162 ไมล์/ชม. หรือ 260 กม./ชม. ในขณะที่ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ไกลกว่า 482 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถชาร์จทั้งไฟบ้านและผ่านระบบรีโมต ซึ่งไม่ได้ระบุว่าใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการชาร์จ

สำหรับโครงสร้างตัวรถเป็นแบบ โมโนค็อก ห้องโดยสารใช้เทคโนโลยี CCC (Clever Carbon Cabin) ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในมวลหมู่ซูเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ ให้คุณภาพด้านความแข็งแรงของโครงสร้างแล้ว ยังลดน้ำหนักตัวรถ การออกแบบรูปลักษณ์นั้นไม่เป็นปัญหา เพราะได้ Koenigsegg ที่ชำนาญการในด้านนี้มาช่วยออกแบบ หน้าตารวมๆ ก็โอเค ล้ำยุคหลังสมัย ไฟหน้า ไฟท้าย ออกแบบแนวตั้งแบบ LED บานประตูใช้วัสดุโปร่งใสราวกับซีทรู เห็นภายใน แม้ว่าเบาะนั่งถ้าผลิตจริงคงไม่ใช่รูปทรงแบบนี้ ภายในเน้นความทันสมัย อุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ล้วนมาในแบบอิเล็กทรอนิกส์แบบสัมผัสเหมือนมือถือ แต่ที่สะดุดตาคือความแปลกใหม่ในการดีไซน์ออกแบบ ประตูที่ไม่จำเป็นต้องสมมาตรหรือเหมือนกัน นั่นคือ ฝั่งคนขับมีเพียงประตูเดี่ยวบานใหญ่ เปิด-ปิด ในแบบ Gullwing ปีกนกสวิงขึ้นด้านบน แถมหลังคาส่วนประตูก็ยังติดตั้งโซล่าร์เซลล์ ส่วนอีกฝั่งด้านผู้โดยสารหน้าเป็นแบบประตูเปิดแบบกางออกธรรมดาทั่วๆ ไป แต่ประตูหลังกลับเป็นแบบสไลด์ไปด้านหลัง เรียกว่าประตู 3 บาน เปิด 3 แบบ ส่วนฝากระโปรงหลังเป็นแบบฟาสต์แบ็ก

เครดิต : GRAND PRIX

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์