ผ่าตลาด ประกันภัย ไซส์เล็ก 2 ชาติในอาเซียน “เวียดนาม-กัมพูชา” ยังคงส่งสัญญาณบวกด้วยตัวเลขเติบโตสูงทั้งคู่ ท่ามกลางโอกาสในการขยายตัวที่ยังคงเปิดกว้าง ทั้งแรงกระตุ้นจากจีดีพี การสนับสนุนของรัฐบาล และการรับรู้ของประชาชน

กรรมการและผู้บริหารสูงสุด หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย ของเวียดนามเผยว่า ในปีนี้อุตสาหกรรม ประกันภัย น่าจะยังเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ไม่ต่ำกว่า 20% จากปัจจัยบวกเศรษฐกิจที่คาดว่าจะยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 6.5% และรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนส่งเสริมภาคการเงินรวมไปถึง ประกันภัย

เวียดนาม นิวส์ สื่อท้องถิ่นรายงานถ้อยแถลงที่ว่า มีโอกาสอีกเยอะมากสำหรับการเจริญเติบโตของตลาด ประกันภัย อาทิ ประกันภัย ภาคเกษตรกรรม เป็นต้น ขณะเดียวกันความต้องการผลิตภัณฑ์ ประกันภัย ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องท่ามกลางการรวมกลุ่มทางการค้า ระหว่างเวียดนามกับตลาดสากลที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการรับรู้ของประชาชนถึงบทบาทของการ ประกันภัย ที่เพิ่มมากขึ้น

สอดคล้องกับมุมมองของ นายกสมาคมประกันภัยเวียดนามที่กล่าวว่า บริษัท ประกันภัย ต่างคาดหวังถึงนโยบายของรัฐบาล จะสร้างกรอบการทำงานสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การ ประกันภัย สำหรับทรัพย์สินสาธารณะและโรคภัยต่างๆ โดยคาดว่ากรอบการทำงานนี้จะถูกประกาศออกมาเร็วๆ นี้

“ในปีนี้ ประกันภัย ตั้งเป้าโตแข็งแรง โดย ประกันชีวิต น่าจะโตไม่ต่ำกว่า 25% ส่วนประกันวินาศภัยราว 14%”

จากสถิติของหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย ระบุว่า ในปี 2559 ธุรกิจ ประกันภัย ของเวียดนามมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมประมาณ 86 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 1.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.74% เทียบกับปี 2558 แบ่งเป็นเบี้ย ประกันชีวิต 49.2 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 7.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4% และเบี้ยประกันวินาศภัย 36.4 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 5.82 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 14.7%

อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้านการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ อาทิ ผู้เชี่ยวชาญทาง คณิตศาสตร์ประกันภัย ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในการพัฒนาตลาด ประกันภัย

ด้าน เอออน ริสค์ โซลูชั่น เผยแพร่รายงาน “รีวิวตลาดประกันภัยเอเซียปี 2017” โดยผู้ถึงตลาดประกันวินาศภัยของเวียดนามว่า สถานการณ์การแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย จะยังคงรุนแรง โดยคาดว่าอัตราเบี้ย ประกันภัย จะปรับตัวลดลงอีก ซึ่งในปีที่ผ่านมาตลาดประกันวินาศภัยมีการแข่งขันกันรุนแรงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยบริษัทประกันวินาศภัยท้องถิ่นบางแห่งลดราคาเบี้ย ประกันภัย ลงถึง 50% เพื่อแข่งขันกับบริษัท ประกันภัย ต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ขณะที่อัตราเบี้ยประกันวินาศภัยโดยรวมยังคงลดลงอยู่ แต่ประกันสุขภาพและประกันสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีสัดส่วนกว่า 40% ของเบี้ย ประกันภัย ทั้งระบบ บริษัท ประกันภัย ได้ปรับเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อ ค่ารักษาพยาบาล เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 20% และมีการเพิ่มจำนวนพนักงานด้วย

สำหรับในปีนี้ เอออน มองว่า อุตสาหกรรม ประกันภัย จะได้อานิสงส์จากการที่รัฐบาลส่งเสริมการลงทุน และปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่าให้ทันสมัยและรวดเร็วมากขึ้น จะส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและการก่อสร้างในปี 2560 และปีต่อไป ส่วนผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาถอนตัวออกจากตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ “ทีพีพี” น่าจะเริ่มส่งผลในอีก 1 ปีข้างหน้า

“กัมพูชา” ท็อปฟอร์ม เบี้ยทุบสถิติใหม่โตสูงสุด 35.6%

สำหรับตลาดกัมพูชา สมาคมประกันภัยกัมพูชาเผยว่า ในปี 2559 ธุรกิจ ประกันภัย สามารถสร้างสถิติใหม่ มีอัตราเติบโตปีต่อปีถึง 35.6% สูงสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนเบี้ย ประกันภัย รับรวมถึง 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.95 พันล้านบาท โดยเฉพาะ ประกันชีวิต มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 95% ด้วยเบี้ย ประกันภัย 43.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.51 พันล้านบาท ขณะที่ประกันวินาศภัยมีเบี้ย ประกันภัย 70.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.46 พันล้านบาท มีสัดส่วนมากที่สุดของทั้งประเทศ

“ตลาด ประกันภัย ในกัมพูชายังคงเติบโตปีต่อปีได้สูงอยู่ และการเติบโตโดยรวมที่แข็งแกร่งนี้ เป็นผลมาจากประชาชนและองค์กรธุรกิจต่างๆ ซื้อความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิต, ประกันภัยทรัพย์สิน และประกันอัคคีภัย, ประกันสุขภาพ, ประกันภัยวิศวกรรม, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ), ประกันภัยทางทะเล (มารีน), ประกันภัยการบินและการขนส่ง”

นายกสมาคมประกันภัยกัมพูชากล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ออกมา เป็นตัวชี้วัดที่ดีว่า ภาค ประกันภัย ของกัมพูชา จะยังคงเติบโตต่อเนื่องทั้ง ประกันชีวิต และประกันวินาศภัย โดยธุรกิจ ประกันชีวิต ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคั่ง ให้กับทุกครอบครัวของชาวกัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ที่มา : สยามอินขัวร์ นิวส์