ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

เบนซ์ชูธง"ปลั๊กอินไฮบริด"ผุดสถานีชาร์จทั่วไทย

เดินหน้าลงทุน ขานรับนโยบายรัฐบาล หนุน รถยนต์ พลังงานทางเลือก ชูธงปีนี้ ขยายตลาดรถปลั๊กอินไฮบริด 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด

เบนซ์ชูธง"ปลั๊กอินไฮบริด"ผุดสถานีชาร์จทั่วไทย

กุมภาพันธ์
18

"เบนซ์" เดินหน้าลงทุน ขานรับนโยบายรัฐบาล หนุน รถยนต์ พลังงานทางเลือก ชูธงปีนี้ ขยายตลาดรถปลั๊กอินไฮบริด 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด แจงเป็น รถยนต์ ผลิตในประเทศกว่าครึ่ง จีบ "โรงแรม-ศูนย์การค้า" ผุดสถานีชาร์จไฟทั่วกรุง 14 แห่ง สั่งดีลเลอร์ลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จทุกโชว์รูมทั่วประเทศ

ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดปีนี้ของเบนซ์ยังเน้นกลยุทธ์ "เดอะ เบสท์" เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ "สิ่งที่ดีที่สุด" ให้กับลูกค้า โดยปีนี้จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งของบริษัทเอง และผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทธนบุรีประกอบรถยนต์ เพื่อให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นผู้นำตลาดรถหรูอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า เป้าหมายปีนี้ เบนซ์จะเดินตามนโยบายรัฐบาล ที่จะสนับสนุน รถยนต์ ประเภทพลังงานทางเลือก โดยวางเป้าทำตลาดกลุ่ม รถปลั๊กอินไฮบริด ให้ได้มากกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งปี และกำหนดว่า มากกว่าครึ่งที่จำหน่าย ต้องเป็นรถที่ผลิตในประเทศไทยด้วย

"เราคงบอกเป็นจำนวนคันชัดเจนไม่ได้ แต่ตลาดรถหรูปีนี้ดีขึ้นแน่นอน ประเมินว่าดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งทำได้ 21,000 คัน โดยปีที่ผ่านมาเราก็ทำผลงานได้ดี ยิ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ประสบความสำเร็จเกินคาด ขณะที่เดือนมกราคมปี 2560 สามารถทำยอดขายได้ถึง 708 คัน ทุบสถิติในรอบหลายๆ ปี โตกว่า 26%"

กล่าวอีกว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด เป็นเพราะเบนซ์มีการนำเสนอโปรดักต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเสนอ รถยนต์ กลุ่มใหม่ๆ อาทิ ดรีมคาร์, กลุ่มคนรุ่นใหม่ ฯลฯ ไม่ใช่แค่ ซี-คลาส, อี-คลาสและเอส-คลาส เหมือนแต่ก่อน ซึ่ง รถยนต์ ในกลุ่มใหม่ๆ นี้ ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 23% ของยอดขายทั้งหมด และเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตขึ้นอีกอย่างแน่นอน

"เรายังเป็นผู้นำในตลาด รถหรู ซึ่งถ้าเทียบกันแค่ 2 ยี่ห้อ ระหว่างเบนซ์กับบีเอ็มดับเบิลยู เรามีมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 60% แต่ถ้ารวมแบรนด์มินิ, วอลโว่, เลกซัส ก็มากกว่า 55%"

เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของตลาด รถปลั๊กอินไฮบริด ได้อย่างรวดเร็ว บริษัทได้เตรียมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะ สถานีชาร์จไฟ โดยล่าสุดบริษัทได้เจรจากับศูนย์การค้าหลายแห่ง เพื่อติตตั้งจุดชาร์จไฟ ซึ่งจะครอบคลุมถึง 14 แห่ง ทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่, เซ็นทรัล เวิลด์ และพาราไดฟ์ ปาร์ค นอกจากนี้ยังกำหนดเป็นนโยบาย ให้ดีลเลอร์ทุกราย จะต้องลงทุนติดตั้งมีจุดชาร์จไฟมากกว่าโชว์รูมละ 1 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีดีลเลอร์ทั่วประเทศกว่า 31 แห่ง

"ดีลที่ทำกับโรงแรม หรือศูนย์การขนาดใหญ่ บริษัทไม่ได้ต้องการแค่เช่าพื้นที่เพื่อติดตั้งจุดชาร์จไฟเท่านั้น แต่เรากำลังมองให้เป็นโมเดลธุรกิจ สิทธิพิเศษให้กับลูกค้าด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดงานจัดเลี้ยง ห้องประชุม หรืออื่นๆ ซึ่งเร็วๆ นี้คงมีรูปแบบที่ชัดเจนออกมาให้เห็น"

ก่อนหน้านี้เบนซ์ได้ต่อสัญญาจ้างประกอบกับทาง ธนบุรีประกอบรถยนต์ อีก 12 ปี พร้อมทั้งเปิดสายการผลิตใหม่ๆ ซึ่งกลุ่มธนบุรีฯ กำลังเพิ่มไลน์ผลิตอีก 1 โรงงาน เพื่อให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มนิวเจเนอเรชั่นคอนเซ็ปต์คาร์, กลุ่มดรีมคาร์ และคอมเทมโพรารี่ ลักเซอรี่คาร์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ให้กับกลุ่มธนบุรีฯ ด้วย จากปัจจุบันนำเสนอไปแล้ว 3 รุ่น ได้แก่ เอส 500 อี, ซี 350 อี และจีแอลอี 500 e 4MATIC

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ