ตลาด ประกันภัยรถยนต์ ฝุ่นตลบตั้งแต่ต้นปี เมื่อ 2 ค่ายใหญ่ในกลุ่ม “ท็อปไฟว์” คือ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ที่อยู่อันดับ 2 ของตลาด (ยึดสถิติเบี้ย ประกันภัย ในช่วง 9 เดือน ปี 2559 ของ คปภ.) และบมจ.กรุงเทพประกันภัย ที่อยู่อันดับ 5 ชิงเปิดกลยุทธ์ใหม่ ที่จะมีผลในเชิงเบี้ย ประกันภัย ที่ราคาถูกลง

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ย ประกันภัย รับรวม 17,260 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 6% เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของ ประกันภัยรถยนต์ ที่มีสัดส่วนในเบี้ย ประกันภัย อยู่ประมาณ 40% นั้น ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มขึ้น 3.2% หรือมีเบี้ย ประกันภัย 6,850 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมาที่ติดลบ 4% หรือมีเบี้ย ประกันภัย 6,650 ล้านบาท ซึ่งการขยาย ประกันภัยรถยนต์ จะมีกลยุทธ์ใหม่ คือ การกำหนดอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจประเภท1 ตามภูมิภาค ที่เริ่มทำตลาดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

โดยโครงการนี้เป็นการนำฐานข้อมูลอัตราความเสียหาย (Loas Ratio) ในแต่ละภูมิภาคที่จัดเก็บไว้มากพอ มาวิเคราะห์เพื่อดูต้นทุนสินไหมในแต่ละภูมิภาคประกอบการคิดเบี้ย ประกันภัย ให้สอดรับกับความเสียหาย โดยกำหนดค่ากลาง Loss Ratio 60% เท่ากับอุตสาหกรรม ประกันภัยรถยนต์ เป็นฐานในการคำนวณต้นทุนบริหารจัดการสินไหมเฉลี่ย ที่สะท้อนถึงเบี้ย ประกันภัย โดยปัจจัยที่นำมาคำนวณต้นทุน ไม่เพียงแต่ความถี่และความรุนแรงในการเกิดเหตุเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงต้นทุนในการจัดหาอะไหล่ ปัญหาในการบริหารจัดการค่าซ่อมและอู่ซ่อมด้วย โดยข้อมูลที่ได้สามารถสะท้อนความเสียหายของ รถยนต์ ในแต่ละภูมิภาค แม้จะรุ่นเดียวกันแต่มีความเสียหายต่างกัน ซึ่งภูมิภาคที่มีความเสียหายสูง บริษัทจะปรับเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น ส่วนภูมิภาคที่มีความเสียหายต่ำ จะปรับเบี้ย ประกันภัย ลดลง จากปัจจุบันที่ก็บเท่ากันทุกภูมิภาค

อีสาน Loss ดีสุด รถยนต์ หลายรุ่นได้ลดเบี้ยถึง 10%

ซึ่งในระยะแรก รถยนต์ ที่ใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการปรับปรุงเบี้ย ประกันภัย โฟกัสไปที่ 6 ยี่ห้อ 9 รุ่น ได้แก่ โตโยต้า อีซูซุ มิตซูบิชิ ฮอนด้า มาสด้า และเชฟโลเร็ต โดย โตโยต้า อาทิ ฟอร์จูนเนอร์ เป็นต้น ซึ่งผลการวิเคราะห์ปรากฏว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสถิติของความเสียหายดีกว่าภาคอื่นๆ ซึ่งใน รถยนต์ กลุ่มเป้าหมายมีหลายรุ่นที่ได้ปรับลดเบี้ย ประกันภัย ลงสูงสุดถึง 10% รองลงมาคือ ภาคใต้ ยกเว้นภูเก็ต มีหลายรุ่นที่ได้ลดเบี้ย ประกันภัย ถึง 10% เช่นกัน ส่วนภาคกลางมี รถยนต์ บางรุ่นที่ได้ลดเบี้ย ประกันภัย 10%

อย่างไรก็ดี ในภูมิภาคที่มีอัตราความเสียหายสูง บริษัทไม่ได้ปรับราคาเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น ยังคงใช้อัตราเดิมต่อไป เพราะแรงกดดันในเชิงการแข่งขันด้านราคาเบี้ยในตลาด ทำให้ปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นยาก

“ตอนนี้ระบบ ประกันภัยรถยนต์ ในบ้านเรา คนขับดีจ่ายเบี้ยแพงเท่ากับคนขับไม่ดี ถึงเวลาที่จะวิเคราะห์ฐานเบี้ย ประกันภัย เพื่อปรับให้เป็นธรรมกับผู้บริโภคมากขึ้น ประเด็นคือ บริษัทไม่ได้ทำเบี้ย ประกันภัย ที่แยกตามภูมิภาค เพื่อมาแข่งขันกับคู่แข่ง เพราะการแข่งขันเป็นเรื่องยาก เนื่องจากใช้ราคาเป็นตัวตั้ง โดยเชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย ยังคงรุนแรงต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ด้วยหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เมื่อมีการวิเคราะห์ข้อมูลแล้วถึงเวลาที่จะปรับปรุงอัตราเบี้ย ประกันภัย ให้สอดรับกับค่าความเสี่ยงในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ผู้เอา ประกันภัย ได้รับความเป็นธรรมเชิงราคามากขึ้น”

การคิดเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ตามภูมิภาค ซึ่งในภูมิภาคที่ลดเบี้ย ประกันภัย ลงอีก 10% จะส่งเสริมลูกค้าทำ ประกันภัยรถยนต์ ต่อเนื่อง หรือทำ ประกันภัย มากขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จะมีเบี้ย ประกันภัย ใหม่จากโครงการนี้ประมาณ 150 ล้านบาท จากการจัดแคมเปญในทุกช่องทางขาย

ต่อยอด “เทเลเมติคส์” ขับน้อย จ่ายน้อย เริ่มปีนี้ ลูกค้าต่ออายุลดเบี้ยสูงสุด 20%

อีกตัวที่จะใช้บุก ประกันภัยรถยนต์ ในปีนี้คือ เทเลเมติคส์ (Telematics) ซึ่งนอกจากจับพฤติกรรมการขับขี่ รถยนต์ ของลูกค้าเพื่อสะท้อนการคิดเบี้ย ประกันภัย แล้ว ยังใช้จับระยะทางการใช้ รถยนต์ ในแต่ละปีด้วย ยังใช้จับระยะทางการใช้ รถยนต์ ในแต่ละปีด้วย ถ้าใช้รถน้อย มีความเสี่ยงน้อยลง บริษัทจะให้ส่วนลดเบี้ย ประกันภัย ตามระยะทางการใช้รถในปีต่ออายุ สูงสุด 20% จากส่วนลดประวัติดีปกติที่เคยได้ ซึ่งจะเริ่มในปีนี้ ซึ่งเป็นปี่ที่ 2 ของการติดตั้งระบบ เทเลเมติคส์ จะทยอยมีเบี้ย ประกันภัย ต่ออายุเข้ามา โดย คปภ.อนุมัติส่วนลดเบี้ย ประกันภัย ตามระยะทางการใช้รถให้กับบริษัทแล้ว

“ในปีนี้ เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายในเชิงเบี้ย ประกันภัย จาก เทเลเมติคส์ เพราะมี รถยนต์ ที่ติดตั้ง เทเลเมติคส์ แค่ 10,000 กว่าคัน จากลูกค้า ประกันภัยรถยนต์ ที่มีอยู่หลายแสนคัน ยังไม่ใหญ่พอ ต้องเพิ่มให้ได้อย่างน้อยถึง 30,000 คัน จึงจะตั้งเป้าหมายเบี้ย ประกันภัย จากตัวนี้ได้”

กลยุทธ์ของบริษัทจะทำตลาดในเชิงเบี้ย ประกันภัย ใหม่น้อยลง เพราะการแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย สูงขึ้นมาก จึงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มอัตราต่ออายุลูกค้าเก่ามากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราต่ออายุ ประกันภัยรถยนต์ เกือบ 81% น่าจะสูงที่สุดในอุตสาหกรรม จากเดิม 78% ส่วนใหญ่ลูกค้ามีประสบการณ์ด้านการเคลมกับบริษัท จะมั่นใจในคุณภาพการซ่อม การบริการ จะต่ออายุกับบริษัทในปีถัดไป เนื่องจากอัตราเบี้ย ประกันภัย ของบริษัทค่อนข้างสูง อยู่ในกลุ่มท็อปแบรนด์ การแข่งขันด้วยราคาจะลำบาก จึงเน้นในเรื่องคุณภาพบริการ คุณภาพการซ่อม โดยเชื่อว่าอัตราต่ออายุจะเพิ่มขึ้นได้ จากการให้ส่วนลดเบี้ย ประกันภัย ตามระยะทางจาก เทเลเมติคส์ ด้วย

สินมั่นคง บุก “2+” ออกสินค้าใหม่ เบี้ยเหมาราคาเดียว 6,300 บาททุกปี

บมจ.สินมั่นคงประกันภัย มีรายงานข่าวว่า บริษัทยังมุ่งขยาย ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภท 2+ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองแบบครบถ้วน แต่จ่ายเบี้ยต่ำประเภท1 โดยล่าสุดได้ออกสินค้าใหม่ 2+ เบี้ยเหมา แบบ Single Rate ที่ให้ลูกค้าจ่ายเบี้ยในราคาที่ประหยัดกว่าเดิมที่ทุน ประกันภัย เดียวกัน โดยมีทุน ประกันภัย ให้เลือก 3 ทุน และมีเบี้ย ประกันภัย เริ่มต้นเพียง 6,300 บาท โดยลูกค้าจะจ่ายเบี้ยในอัตราเดียวคงที่เท่ากันทุกปี ไม่ต้องเสี่ยงต่อการจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้นในปีถัดไป แต่ได้รับความคุ้มครองครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ สูญหาย ไฟไหม้ ซ่อม รถยนต์ คันเอา ประกันภัย รวมถึงความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินบุคคลภายนอก

นอกจากนี้ยังสามารถซื้อภัย น้ำท่วม เพิ่มได้ ไม่ต้องตรวจสภาพรถ และอนุโลมไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท (กรณีรถเกิดเหตุเป็นฝ่ายผิด และทราบคู่กรณี)

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์