ดีทรอยต์ - ผู้บริหารในอุตสาหกรรมยนตกรรมมั่นใจว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ รถยนต์ ไฟฟ้า ทั้งในจีนและยุโรป แต่ไม่ใช่ในอเมริกาเหนือ

บรรดาผู้บริหารในอุตสาหกรรม รถยนต์ เปิดเผยระหว่างร่วมงานออโตโชว์ ที่เมืองดีทรอยต์ ของสหรัฐ ว่า ข้อบังคับเรื่องการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นในจีนและยุโรป ทำให้ผู้ผลิต รถยนต์ ทั่วโลก และผู้บริโภคบางกลุ่มมีตัวเลือกน้อย แต่ต้องใช้ รถยนต์ ปลั๊กอิน กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ในทวีปยุโรป รถยนต์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีข้อได้เปรียบมากมาย ทั้งเงินอุดหนุน การลกภาษี และสิทธิพิเศษอื่นๆ โดย รถยนต์ ใช้น้ำมันต้องเจอกับข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการห้ามขับรถ และห้ามจอด

ขณะที่จีนกำลังผักดันให้ประชาชนหันมาใช้ รถยนต์ ปลั๊กอินกันมากขึ้น โดยแผนงานของรัฐบาล ทำให้มีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้าน ในการลงทุนและวิจัย พร้อมกับเงินอุดหนุน และข้อห้ามที่กำหนดขึ้นมา เพื่อลดการใช้ รถยนต์ พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลตามเมืองใหญ่ๆ

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจ รถยนต์ ไฟฟ้าในสหรัฐ อาจเป็นไปได้ และฝ่ายกำกับดูแลกฎระเบียบในแคลิฟอร์เนีย และรัฐอื่นๆ กำลังใช้คำสั่งของรัฐเพิ่มโควตา รถยนต์ ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ ไร้มลพิษ แต่การลงทะเบียน รถยนต์ ปลั๊กอิน ในสหรัฐกลับลดลงในปี 2558 และส่วนแบ่งทางการตลาดของ รถยนต์ ที่ใช้ไฟฟ้าตั้งคันก็ลดลงอีก 0.37% ในปี 2559 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ถูกลง ช่วยเพิ่มความต้องการใช้ รถยนต์ สปอร์ตอเนกประสงค์ และรถปิกอัพใช้น้ำมัน

ผู้บริหารอุตสาหกรรม รถยนต์ ให้ความเห็นว่า การชะลอแผนพัฒนา รถยนต์ ไฟฟ้าในสหรัฐ จะไม่ช่วยคลายแรงกดดันให้เร่งนำ รถยนต์ ไฟฟ้าสู่ตลาด เพราะ จีน และยุโรป กำลังผลักดันนโยบายเพิ่มยอดขาย รถยนต์ ปลั๊กอิน ทำให้ฟอร์ดเร่งเดินหน้าแผนลงทุน รถยนต์ ไฮบริดมูลค่า 4,500 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2563

บรรดาผู้บริหารชี้ว่า รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนมากกว่านี้ ในการเปลี่ยนแปลงไปสู่ รถยนต์ ไฟฟ้า เพราะผู้ผลิต รถยนต์ ในจีน ยุโรป และสหรัฐ กำลังสนับสนุนเงินพัฒนาโครงสร้างเพื่อทำเครือข่ายชาร์จไฟ รถยนต์ ไฟฟ้า แต่ในสหรัฐ ผู้ผลิตช่วยกันรักษามาตรการเงินคืนภาษี 7,500 ดอลลาร์ สำหรับผู้ซื้อ รถยนต์ ไฟฟ้า ที่นายทรัมป์พยายามจะยกเลิก

ไอเอชเอส ออโตโมทีฟ บริษัทวิเคราะห์อุตสาหกรรมยานยนต์ คาดว่า ยอดส่งมอบ รถยนต์ ปลั๊กอินของจีน จะทะลุ 1 ล้านคัน ในปี 2562 เร็วกว่าสหรัฐ 4 ปี และจีน ยังแซงสหรัฐในปี 2558 ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้น 4 เท่า

ผู้ดูแลฝ่ายพัฒนา รถยนต์ ปลั๊กอิน ต้นทุนต่ำของ เรโนลต์-นิสสัน กล่าวทิ้งท้ายว่า หากจะมองอนาคตของ รถยนต์ ไฟฟ้า ให้มองไปที่จีนแทนสหรัฐ

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ