"ฟิทช์ เรตติ้ง" ชี้ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน จะส่งผลกระทบต่อตลาดประกันวินาศภัยในระยะใกล้ ความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยอาจจะลดลง ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย ดีเดย์โครงการนำร่องเปิดเสรีอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เชิงพาณิชย์ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการปฏิรูปภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จะทำให้อัตราการเติบโตของบริษัท ประกันวินาศภัย จีนลดลง

เว็บไซต์ เอเซียอินชัวรันส์ รีวิว รายงานบทวิเคราะห์ของฟิทช์ เรตติ้ง หัวข้อ "แนวโน้มปี 2560 : ธุรกิจประกันวินาศภัยจีน" ว่า หลังจากหน่วยงานกำกับเริ่มโครงการนำร่อง เปิดเสรีเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ จะทำให้เบี้ย ประกันภัย ผ่านช่องทาง เทเลมาร์เก็ตติ้ง หรือผ่านพนักงานขายทางโทรศัพท์ค่อยๆ ลดลง เนื่องจากไม่มีความได้เปรียบด้านราคาเบี้ย ประกันภัย ที่อาจจะขายต่ำกว่าช่องทางอื่น ในช่วงที่ยังมีพิกัดอัตรา ประกันภัย อยู่แล้ว เพราะการเปิดเสรี เท่ากับช่องทางอื่นๆ สามารถเสนอเบี้ย ประกันภัย ต่ำได้

อย่างไรก็ดี หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย ไม่ได้คาดหวังว่า โครงการนำร่องเปิดเสรีอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท ประกันภัยรถยนต์ ลดลงในระยะใกล้ เพราะบริษัท ประกันภัย ได้ปรับราคาเบี้ย ประกันภัย ลง เนื่องจากการแข่งขันอยู่แล้ว

ฟิทช์ เผยว่า ปัจจุบันธุรกิจประกันวินาศภัยจีน มีอัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ลดลง เนื่องจากความถี่ในการเรียกร้องสินไหมทดแทนลดลง อาจจะเป็นผลมาจากผลประโยชน์ส่วนลดประวัติดี (No claim discount) ที่ให้กับผู้เอา ประกันภัย เพื่อเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้ขับขี่รถดี ไม่ได้มีการรายงานของเคลมขนาดเล็กที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายในการซื้อกิจการที่สูงขึ้น เนื่องจากการแข่งขันของตลาด และการไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่องของผู้เล่นรายใหม่ จะจำกัดขีดความสามารถของบริษัท ประกันภัย ในการที่จะเพิ่มกำไรจากการรับ ประกันภัย

ทั้งนี้ ฟิทช์ ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือ และแนวโน้มสำหรับภาคธุรกิจประกันวินาศภัยมี "เสถียรภาพ" อยู่ เพราะคาดการณ์ว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยมีแนวโน้มที่จะรักษา อัตรากำไรขั้นต้น ที่มีเสถียรภาพได้ แม้ตลาดโดยรวมจะเติบโตลดลงก็ตาม โดยบริษัท ประกันภัย จะยังคงรักษาอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน เพื่อรองรับความผันผวนจากการรับ ประกันภัย และความเสี่ยงของสินทรัพย์ได้

อย่างไรก็ดี ฟิทช์ คาดว่า ขนาดเงินกองทุนของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยจีน ตามระเบียบใหม่ ว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง หรือว่า ซี-รอสส์ (C-ROSS) ที่หน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจ ประกันภัย บังคับใช้อยู่ น่าจะยังมีระดับที่แข็งแรงอยู่ในปี 2560 นี้ โดยบริษัท ประกันภัย ยังคงมีความยืดหยุ่นของเงินทุน ที่จะรองรับการขยายธุรกิจได้อยู่ แม้ธุรกิจประกันวินาศภัยโดยรวมจะเติบโตลดลงก็ตาม

“บริษัท ประกันภัย ส่วนใหญ่ สามารถจะระดมทุนเพิ่มได้ ด้วยการอัดฉีดเงินทุนใหม่ๆ เข้ามาอีกทั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ มีอัตราเติบโตของเบี้ย ประกันภัย ที่สูงมาตลอดอยู่แล้ว เราเชื่อว่ากฏ ซี-รอสส์ ที่ทางการจีนเพิ่งเริ่มประกาศใช้อยู่ในปี 2559 ที่ผ่านมานั้น จะทำให้บริษัท ประกันภัย หันมาใส่ใจกับความเพียงพอของเงินกองทุน มุ่งพัฒนาเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงมากขึ้น”

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์