“ทิพยประกันภัย” เล็งไตรมาสแรกปี 2560 ฉลุย ขาย “ประกันไซเบอร์” ลงทุนจ้าง “3 ยักษ์ใหญ่” บริษัทรีอินชัวเรอร์ต่างประเทศ ศึกษาโมเดลความเสี่ยงภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ก่อนเซ็ทโมเดล ประกันภัย ไซเบอร์ เหมาะสมไทย เตรียมพร้อม “ทิพยฯ” นำเสนอความคุ้มครองภัย “แฮกเกอร์” คุกคามสถาบันการเงินและบริการทั้งระบบ

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณี พอร์ตงานของการบินไทย ภายหลังมีการปรับโครงสร้างที่ผ่านมาว่า ไม่ได้ส่งผลให้งาน ประกันทรัพย์สิน หรือความคุ้มครองตัวอื่นๆ ลดลงไปแต่อย่างใด เนื่องจากพอการบินไทยยุบเส้นทางบินบางตัวที่ขาดทุนออกไป ก็ไปเพิ่มเส้นทางอื่นที่มีกำไรเข้ามา เพราะฉะนั้นจึงทำให้จำนวนรายได้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ

เช่นเดียวกับปริมาณงานรับ ประกันภัย ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ทุกวันนี้มีการแข่งขันกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีการผูกขาดการรับ ประกันภัย แต่อย่างใด แต่เนื่องจาก ทิพยประกันภัย มีศักยภาพในการรับ ประกันภัย งานขนาดใหญ่ได้ ด้วยเหตุนี้เองบริษัท ทิพยประกันภัย เวลาเสนอตัวเข้าไปประมูลแข่งขัน ก็มักจะถูกรับคัดเลือกมาตลอด ส่งผลให้ทุกปัจจุบันกลายเป็นบริษัทที่รับ ประกันภัย งานรัฐวิสาหกิจมากที่สุด

“ขณะนี้เรามีอยู่ 60-70 แห่งด้วยกัน ซึ่งปริมาณงานก็ไม่ได้ลดหายไปแต่อย่างใด เพียงแต่มูลค่ารับ ประกันภัย อาจเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย ซึ่งก็เข้าใจดีว่า หลายต่อหลายโครงการของภาครัฐ จะยึดนโยบายทำให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม และภาครัฐได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งที่ผ่านมางานของรัฐที่บริษัททิพยฯ เราเสนออัตราเข้าไปประมูลแข่งขัน แทบจะไม่มีกำไร หรือเท่าทุนก็ยังมี บริษัทก็ยังทำเลย อย่างนี้เป็นต้น”

โดยล่าสุด ที่ถือเป็นความเสี่ยงแบบใหม่ที่เป็นความเสี่ยงทาง ไซเบอร์อินชัวร์รันส์ เป็นเรื่องใหม่ที่ภาครัฐเริ่มจะมองเห็นแล้ว และองค์กรหลายองค์กรของรัฐเริ่มจะหันมาทำเรื่องนี้กันบ้างแล้ว ซึ่งขณะนี้ บริษัท ทิพยประกันภัย เองก็ได้ทบทวนในเรื่องนโยบายการรับ ประกันภัย ให้เงื่อนไขความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น อย่างกรณีของ ธนาคารออมสิน ที่ทางบริษัทเพิ่งทำเคลมจ่ายสินไหมไปกับตู้เอทีเอ็มที่ถูกแฮกล่าสุด 12.6 ล้านบาท เป็นต้น

จากเหตุการณ์นี้ ล่าสุดบริษัทได้ทบทวนเรื่องของ Cyber Calm ให้กับ ธนาคารออมสิน ทั้งหมด โดยได้ว่าจ้างให้บริษัทรับ ประกันภัย ต่อต่างประเทศ (รีอินชัวเรอร์ต่างประเทศ) เช่น บริษัทสวิสรีฯ, ฮันโนเวอร์รีฯ หรือมิวนิครีฯ เข้ามาช่วยศึกษาแล้ว

“ตอนนี้เราคงไม่ได้ศึกษา หรือทำเฉพาะออมสินอย่างเดียว ตอนนี้ก็มีหลายแห่งที่มีการพูดคุย และเราก็เสนอเขาไปเหมือนกัน ทุกรายสนใจเพียงแต่ว่าไม่รู้ว่า Scope และค่าเบี้ย ประกันภัย จะแพงมากน้อยขนาดไหน รวมทั้งมีภัยคุกคามที่เสี่ยงอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ทิพฯ เองคงไม่กล้าไปรับมาก่อน แล้วเกิดหาบริษัทรับ ประกันภัย ต่อไม่ได้ เราก็เสียหาย จึงจำเป็นต้องหาบริษัทรีฯ มารองรับ”

ขณะนี้ ทิพยประกันภัย ได้ให้บริษัทรีฯ ไปดูความเสี่ยงของแต่ละภูมิภาคมาเป็นตัวตั้ง และดูว่าอันไหนที่เหมาะสมกับประเทศไทย เพื่อจะได้แบ่งเป็นโปรดักส์ต่างๆ เพื่อจะได้นำมาเสนอสถาบันการเงิน และภาคการผลิตต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีดาต้าเบททั้งหมดก่อน นอกจากนี้ยังให้ศึกษาถึงความเสี่ยงปัจเจกบุคคลด้วย อาทิเช่น บางคนที่เขาสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์มีบัตรเครดิต ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแฮกข้อมูลได้ เมื่อใครให้ข้อมูลส่วนตัวไปแล้ว ถูกปลอมแปลง และเกิดความเสียหายเกิดขึ้น อย่างนี้เป็นต้น

“เราก็จะให้ความคุ้มครองตรงนี้ด้วย ซึ่งตรงนี้ได้ให้บริษัทรีฯ ที่เราว่าจ้างไปทำการศึกษาอยู่ว่าจะทำได้หรือไม่ โดยเราตั้งใจว่าไตรมาสแรกปีหน้า น่าจะได้ข้อสรุป”

ที่มา : เส้นทางนักขาย