ปมปัญหา “วันเริ่มต้นของความคุ้มครองกรมธรรม์ ประกันชีวิต “ เป็นอีกประเด็นที่มีข้อถกเถียงกันมานานว่าจะหยุดวันไหน จะยึดตามวันที่กรอกใบคำขอเอา ประกันภัย หรือจะยึดตามวันที่ออกกรมธรรม์ และเป็นปมโต้แย้งที่ถูกนำมาหารือกันระหว่างภาคธุรกิจ และผู้กำกับดูแลอย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จนได้ข้อยุติในที่สุด
แหล่งข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ประเด็นวันเริ่มคุ้มครองของกรมธรรม์ ประกันชีวิต ที่เคยมีปัญหามาตลอดก่อนหน้านี้ ที่ว่าจะเริ่มคุ้มครองวันไหน ล่าสุดทาง คปภ.ได้หารือกับทางสมาคมประกันชีวิตไทยและบริษัทประกันชีวิต มีข้อสรุปร่วมกันว่า ในกรณีของการทำ ประกันภัย โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และเป็นภัยมาตรฐาน (NonMedical-Standard) ให้กรมธรรม์เริ่มมีผลคุ้มครองทันทีในวันเดียวกับวันที่เขียนใบคำขอพร้อมลงลายมือชื่อ และชำระค่าเบี้ย ประกันภัย หรือวันที่ตามใบเสร็จรับเงินชั่วคราว เพราะหมายถึงบริษัทประกันชีวิตตกลงที่จะรับ ประกันภัย แล้ว เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้เอา ประกันภัย
ส่วนกรณีการทำ ประกันภัย โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่บริษัทต้องขอข้อมูล หรือต้องตรวจสุขภาพเพิ่มเติม (NonMedical-Memo) วันเริ่มคุ้มครองของกรมธรรม์จะเป็นวันที่ผู้เอา ประกันภัย ไปตรวจสุขภาพ หรือวันที่บริษัท หรือตัวแทน ได้รับเอกสารข้อมูลสุขภาพแล้ว
ซึ่งการแก้ไขครั้งนี้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับผู้เอา ประกันภัย ให้ได้รับความคุ้มครองทันที โดยวิธีการปฏิบัติหลังจากนี้ ให้ภาคธุรกิจไปแก้ไขเงื่อนไขในกรมธรรม์ ประกันชีวิต ทั้งหมดทั้งของเก่าและใหม่ที่จะออกมา ซึ่งภาคธุรกิจบอกว่า การแก้ไขกรมธรรม์เป็นภาระและต้องใช้เวลา ดังนั้น คปภ.ให้เวลา 120 วันนับจากวันออกประกาศ เพื่อให้ภาคธุรกิจได้ปรับปรุงแก้ไขเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่เมื่อพ้น 120 วันแล้ว ไม่ว่าบริษัทประกันชีวิตจะแก้ไขเงื่อนไขในกรมธรรม์ ประกันชีวิต หรือไม่ก็ตาม ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใหม่นี้
“ถ้าหลัง 120 วันไปแล้ว กรมธรรม์ที่ออกใหม่ต้องแก้ไขข้อความ (เวิร์ดดิ้ง) ให้เป็นแบบนี้ ขณะที่กรมธรรม์เก่า ถ้าไม่แก้ไขต้องยึดหลักปฏิบัติตามนี้เช่นกัน เรื่องนี้นำเสนอท่านเลขา คปภ.มาก่อนหน้านี้แล้ว ท่านให้รีบมีข้อสรุป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เอา ประกันภัย และประชาชน”
ด้านแหล่งข่าวจากสมาคมประกันชีวิตไทยกล่าวว่า การกำหนดวันที่เริ่มต้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ ประกันชีวิต ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ไม่ต้องถกเถียงกันอีกว่า ควรจะเริ่มนับวันคุ้มครองตั้งแต่วันไหนแน่ จากนี้ไปทุกบริษัทจะยึดแนวปฏิบัติเดียวกันหมด และมีการระบุชัดเจนในกรมธรรม์ ก็จะทำให้ลูกค้าเข้าใจด้วยในกรณีที่ผู้ทำ ประกันภัย หลายฉบับ
“นอกจากนี้การระบุวันเริ่มคุ้มครองที่ชัดเจน เป็นผลดีในเรื่องของการนับระยะเวลาใน 3 กรณีคือ 1.การใช้สิทธิ์โต้แย้ง 2.การนับระยะเวลากรณีลูกค้าเสียชีวิต เนื่องจากฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี ซึ่งกรมธรรม์จะไม่คุ้มครอง และ 3.การนับระยะเวลารอคอยกรมธรรม์ หรือ Waiting Period ต่อไปนี้ให้ยึดหลักปฏิบัติเดียวกัน คือ เริ่มนับตั้งแต่วันเริ่มต้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย”
ส่วนระยะเวลาที่ให้บริษัทประกันชีวิต ต้องแก้ไขข้อความในกรมธรรม์ให้ชัดเจนภายใน 120 วัน มีการเตรียมตัวกันมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะเรื่องนี้หารือกันมานานพอสมควร ขณะนี้รอแต่เพียงประกาศนายทะเบียน โดยกรรมธรรม์ใหม่ที่จะออกมาขายหลังประกาศนายทะเบียน จะมีการระบุข้อความในเรื่องของการนับวันเริ่มคุ้มครองนี้ด้วยให้ชัดเจน ส่วนกรมธรรม์เดิมที่ขายมาก่อนหน้าประกาศอาจจะไม่ได้แก้ไขข้อความ เพราะกรมธรรม์ที่ขายอยู่ในตลาดปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 300-400 แบบ เพียงแต่เข้าใจตรงกันว่าจะต้องยึดแนวปฏิบัติเดียวกันนี้เท่านั้น
ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์