ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

รถบรรทุก โลจิสติกส์ คึกรับบิ๊กโปรเจกต์

มั่นใจไตรมาส 4 เศรษฐกิจเริ่มชูคอ ตลาด รถบรรทุก ขนส่ง ระอุพร้อมชิงเดือด

รถบรรทุก โลจิสติกส์ คึกรับบิ๊กโปรเจกต์

พฤศจิกายน
6

ตลาด รถขนส่ง โลจิสติกส์ คึกคัก รองานปี 60 มั่นใจไตรมาส 4 เศรษฐกิจเริ่มชูคอล สาเหตุมาจากโครงการเมกะโปรเจกต์รัฐบาลเริ่มตอกเสาเข็ม อู่ต่อรถยักษ์ใหญ่เตรียมสินค้าโบแดงลงสนามแข่งเพียบ ระบุยอดจำหน่ายรถใหญ่รวมทุกยี่ห้อมีมากกว่า 2.7 หมื่นคัน

กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามมิตร มอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยกระแสเศรษฐกิจที่เริ่มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการที่มีลูกค้าสั่งจอง รถกระบะ ดัมพ์ ในไตรมาส 4 ของปี 2559 มากกว่าไตรมาสอื่นของปีนี้ ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มเติบโตขึ้นแล้ว และในปีหน้าก็จะต้องเติบโตขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน

“ด้วยทางรัฐบาลได้ทำการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้การก่อสร้างเริ่มดำเนินขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ รถใหญ่ที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งหลายก็จะเริ่มเป็นที่ต้องการของผู้รับเหมาก่อสร้าง ทำให้มองโลกในแง่ดีว่าเศรษฐกิจโดยรวมได้เริ่มผงกหัวขึ้นแล้ว และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าอย่างแน่นอน”

ส่วนสาเหตุที่ทราบว่าไตรมาส 4 ของปีนี้จะเติบโตขึ้น ก็เนื่องมาจากทางบริษัทได้ต่อกระบะดัมพ์ให้กับ รถบรรทุก คันใหม่ป้ายแดงที่จะออกจากโชว์รูมรถใหญ่ เพราะค่ายรถใหญ่ที่ทำการคิดเงินดาวน์กับลูกค้า เมื่อรถใหญ่คันนั้นได้ทำการประกอบตัวถังเรียบร้อยแล้วนั่นเอง ซึ่งพอจะคาดเดาได้ว่าในปี 2559 นี้ จะมียอดจำหน่ายรถใหญ่รวมทุกยี่ห้อเท่ากับปีที่ผ่านมาคือ 2.7 หมื่นคัน หรืออาจจะเติบโตขึ้นไม่มากนักเพียงแค่ 2% เท่านั้น

“สินค้าโบแดงของบริษัท คือ รถดัมพ์ แต่ล่าสุดมีลูกค้าสั่งผลิต รถบรรทุก ที่บรรจุเครื่องดื่มให้ จำนวนกว่า 300 คัน และมีการสั่งเพิ่มมาอีกจำนวน 200 คัน”

ด้านผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด (Panus) กล่าวว่า ทางบริษัทได้เตรียมสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด เพื่อรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งที่กำลังจะเติบโตขึ้น หลังจากหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง โดย รถบรรทุก กึ่งพ่วงก้างปลาและพื้นเรียบของ Panus ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ จำนวน 5 รุ่น และพร้อมจำหน่ายแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุด เพื่อให้ตรงตามความต้องการและสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ปรับปรุงระบบไฟเป็นแบบ LED จะช่วยเพิ่มเรื่องความสว่างมากขึ้นและมีความสวยงาม เพลาล้อเป็นแบบ 10 รูน๊อต ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับหัวลากรุ่นใหม่ในท้องตลาด ซึ่งลูกค้าจะได้สะดวกต่อการซ่อมบำรุง โครงสร้างของแซสซีส์ได้มีการพัฒนาเรื่องน้ำหนักที่เบาขึ้น และแข็งแกร่งโดยใช้เหล็กที่มีคุณภาพสูง

“เรื่องเทคโนโลยีทาง Panus ต้องบอกว่าพิถีพิถันในการออกแบบเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลต่อการใช้งาน ตั้งแต่คอยันท้าย โดยการออกแบบเริ่มจากคอโดย Panus จะเรียกไม่เหมือนท้องตลาด มีแบบเฉพาะของตัวเองที่คล้าย “คอหงส์” ซึ่งจะมีผลต่อการรับน้ำหนักและลากจูงเป็นอย่างดี ซึ่งมั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพทุกตัว จึงได้ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 59 ไว้ประมาณ 3,000 คัน”

โดยในปีนี้ ถือว่า รถบรรทุก ดัมพ์เป็นอีกโปรดักต์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง 6 ล้อ และ 10 ล้อ ซึ่งได้ขยายไลน์การผลิตไปเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าให้เทียบกับยอดการผลิตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าโตเกิน 100% ภายในปีนี้ตั้งเป้าไว้ 700 คัน

ด้าน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท RCK รุ่งเจริญ จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ทางบริษัทได้ส่ง รถกึ่งพ่วง และ รถพ่วง รุ่น SIDE CURTAIN หรือ รุ่นผ้าใบติดด้านข้างบุกตลาดขนส่ง นอกจากนี้บริษัทยังมีรถจำหน่ายอีกหลายรุ่น ตั้งแต่ ตัวกระบะพื้นเรียบ ก้างปลา รถบรรทุก น้ำมันชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก สเตนเลส อะลูมิเนียม ตัวถังบรรทุกสินค้า ไม่ว่าจะเป็นแบบพ่วงและไม่พ่วง กระบะดัมพ์ และก็ยังมีรุ่นอื่นๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองต่อความต้องการของกลุ่มขนส่งให้ได้ทุกเซ็กเมนต์

“ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในครึ่งปี 2559 ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดขายที่ได้วางไว้ต้นปีจำนวน 1,200 คัน ในปีนี้ จะต้องถึงอย่างแน่นอน เพราะในครึ่งปีแรก ก็สามารถทำยอดขายได้ครึ่งหนึ่งแล้วด้วย”

ข่าวระดับสูงจาก บริษัท วาฟา วีฮิเคิล จำกัด (WAFA) กล่าวว่า บริษัทได้เตรียม รถขนส่ง 5 รุ่น ออกสู่ตลาด เพื่อรองรับตลาดโลจิสติกส์ ได้แก่ รถกึ่งพ่วงก้างปลาและพื้นเรียบ รถมิกเซอร์ รถแท็งก์ถังน้ำมัน รถแท็งก์กล้วยหอม และรถบรรทุกดัมพ์ และด้วยความชำนาญเรื่องการผลิต รถบรรทุก เพื่อการขนส่ง ทาง วาฟา ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ ด้านวิศวกรรมที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูง และฝ่ายขายที่สามารถให้คำปรึกษา ด้านการใช้งานให้กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการใช้งานได้เหมาะสมกับการขนส่งทุกรูปแบบ ถึงจะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในประเทศไทย แต่ วาฟา มีศักยภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งมอบ เรื่องราคาที่สมเหตุสมผล ดีไซน์ที่มีความทันสมัยสุดท้าย คือเรื่องคุณภาพตรงตามความต้องการด้านขนส่งในประเทศไทย

“ถึงแม้ว่าบริษัทจะเพิ่งเข้ามาเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่เรื่องการบริการหลังการขายก็สำคัญ ภายในปีนี้จะมีศูนย์บริการของ วาฟา ที่จะผนึกกำลังกับดีลเลอร์หัวลากชั้นนำจำนวน 20 แห่ง ที่จะเกิดขึ้นในปี 2559 นี้ เพื่อให้มั่นใจว่า วาฟา จะอยู่คู่ขนส่งไทยทั่วประเทศ และในอนาคตอันใกล้นี้ แผนการพัฒนาแบรนด์ วาฟา ปี 2560 จะเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานทั่วประเทศไทย โดยจะมีศูนย์บริการทั้งสิ้น 40 แห่งทั่วประเทศ และจะมี “ม้าเร็ว” ที่คอยห่วงใยเรื่องการซ่อมบำรุง ประจำอยู่อู่ซ่อม รถบรรทุก ภาคละ 2 แห่ง ตามนโยบายบริษัท “WE ARE FAR AS YOU GO ไปด้วยกันไปได้ไกล” นั่นคือ จุดมุ่งหมายที่ วาฟา ยึดมั่นเสมอมา”

ที่มา : สยามธุรกิจ