คปภ.จับมือสมาคมประกันวินาศภัยไทย จับเข่าคุยผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าหารือคลอดสิทธิพิเศษ ดึงดูดทำ ประกันภัย ในประเทศ เผยใช้เวลา 2 เดือนได้ข้อสรุป ชี้ พรบ.การ ประกันภัย ทางทะเลเป็นกุญแจสำคัญ ช่วยให้การ ประกันภัย สินค้าทางทะเลในไทยเติบโต จากเบี้ย 5 พันล้าน ขณะที่ยอดส่งออกและนำเข้าสูงถึง 14 ล้านล้านบาท

จากกรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ไปหาแนวทางผลักดันเบี้ย ประกันภัย ขนส่งสินค้าทางทะเลไทย (มารีน) โดยอาจจะเสนอมาตรการจูงใจ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าหันมาทำเบี้ย ประกันภัย ภายในประเทศ แล้วเสนอมายังรัฐบาลให้การสนับสนุนนั้น

นายกสมาคมประกันวินาศภัยเปิดเผยว่า เพื่อหามาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้าหันทำ ประกันภัย ภายในประเทศตามนโยบายรัฐบาล ขณะนี้ทางสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อหารือกับผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก เพื่อเพิ่มเบี้ย ประกันภัย ขนส่งทางทะเลจากเดิมที่มีอยู่ 5 พันล้านบาท

“ขอเวลาทำรายละเอียดอีก 2 เดือน โดยไปหารือกับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกรายใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมารับฟังปัญหาและอุปสรรคในเชิงลึกว่ามีสาเหตุอะไร ผู้ส่งออกนำเข้าถึงไม่ใช้ประกันมารีนกับบริษัทไทย พร้อมกับขอความคิดเห็นว่าภาคเอกชนมีความต้องการสิทธิประโยชน์พิเศษอะไรเพิ่มเติมบ้าง เพื่อเป็นการจูงใจมาใช้บริการ ประกันภัย ในประเทศ”

ด้าน เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงาน คปภ.ได้นำร่าง พ.ร.บ.การประกันภัยทางทะเล พ.ศ. … เสนอให้กระทรวงการคลังแล้ว เพื่อรอเสนอให้ ครม.พิจารณา โดยกฎหมาย ประกันภัย ทางทะเล จะเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้การ ประกันภัย สินค้าทางทะเลในไทยเติบโตได้ เนื่องจากจะมีกฎหมายรองรับธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงช่วยลดความยุ่งยากในการนำสืบหลักกฎหมายได้

“คปภ.จะหารือร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัย ผู้ส่งออก เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ปัญหาอุปสรรค ตลอดจนข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับการ ประกันภัย ขนส่งสินค้าทางทะเล เพื่อเสนอให้กระทรวงการคลัง จัดทำแนวทางช่วยเหลือ หรือสิทธิประโยชน์ให้บริษัทผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไทย เข้ามาทำ ประกันภัย การส่งออกสินค้าทางทะเล กับบริษัท ประกันภัย ของไทยเพิ่มขึ้น เพราะแม้มูลค่าการส่งออกและนำเข้าของไทยมีมูลค่าสูงถึงปีละ 14 ล้านล้านบาท แต่ยังทำ ประกันภัย กับประเทศไทยน้อย”

รายงานข่าวแจ้งว่า การรับ ประกันภัยมารีน มีปัญหามาก ทั้งมูลค่ารับ ประกันภัย ยังไม่มาก ผู้ประกอบการจะทำ ประกันภัย มาจากต่างประเทศอยู่แล้วโดยเฉพาะบริษัท ประกันภัย ญี่ปุ่น ทำให้บริษัท ประกันภัย ไทยขาดอำนาจต่อรองและเบี้ยแพงมาก อีกทั้งยังขาดความชำนาญ จึงไม่ค่อยรับ ประกันมารีน กัน นอกจากนี้ในภาวะการส่งออกหดตัว เบี้ย ประกันมารีน ยิ่งหดตัวตามไปด้วย จากช่วงครึ่งแรกของปี มีเบี้ย ประกันมารีน อยู่ที่ 2,711 ล้านบาท หดตัว 2.02% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.6% ของเบี้ย ประกันภัย รับทั้งสิ้น 103,953 ล้านบาท เติบโต 0.91%

ที่มา : สยามธุรกิจ