ประเทศสิงคโปร์เตรียมนำ รถเมล์ ไร้คนขับทดลองวิ่งในประเทศ เผยเส้นทางแรก รับผู้โดยสารระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางและคลีนเทค ปาร์ก ในปี 2561 เผยวิ่งได้ตลอด เพราะชาร์จไฟตอนจอดป้ายรับผู้โดยสาร หากได้ผลดีจะวิ่งทั่วประเทศ

สถานีโทรทัศน์แชลเนลนิวส์เอเซีย (ซีเอ็นเอ) รายงานว่า การนำ รถเมล์ ไร้คนขับมาทดลองวิ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศสิงคโปร์ เป็นโครงการร่วมของกรมการขนส่งทางบก และสถาบันวิจัยพลังงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง โดยมีการทำสัญญากันในงานแสดงสินค้าสิงค์โปร์อินเตอร์เนชั่นแนล ทรานสปอร์ตคองเกรสแอนด์เอ็กซิบิชัน

แผนการนำ รถเมล์ ไร้คนขับมาทดลองวิ่งบนถนนเป็นไปตามแผนรัฐบาล ที่จะทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในเทคโนโลยี ยานยนต์ไร้คนขับมากที่สุดประเทศหนึ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการนำ รถแท็กซี่ ไร้คนขับมาทดลองวิ่งเป็นชาติแรกของโลกแล้ว

ซีเอ็นเอ ระบุว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางเริ่มทดลองนำ รถไร้คนขับ มาวิ่งรับผู้โดยสารภายในมหาวิทยาลัย และพื้นที่ภายในสวนคลีนเทคปาร์ก ตั้งแต่ปี 2556 โดยข้อมูลที่ได้จากทดลองนี้นั้น ทางมหาวิทยาลัยได้นำมาปรับปรุง รถโดยสาร ที่ใช้พลังงานลูกผสมจำนวน 2 คัน แต่ละคันยาว 12 เมตร รับผู้โดยสารได้ 80 คนต่อคัน วิ่งได้ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งด้วยระบบเซ็นเซอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ก่อนนำไปทดลองวิ่งเป็น รถเมล์ ไร้คนขับ

เส้นทางแรกที่จะมีการนำ รถเมล์ ไร้คนขับมาวิ่งทดลอง คือเส้นทางระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางและคลีนเทคปาร์ก ในเขตจูล่งอินโนเวชั่น โดยจะมีการยืดเส้นทางไปถึงสถานีรถไฟฟ้าเอ็นอาร์ที ไพโอเนียร์ ในปีต่อไป

หัวหน้าพนักงานและรองประธานฝ่ายวิจัย ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง กล่าวว่า “ขณะนี้ทั่วโลก เน้นทดลอง รถยนต์ ส่วนบุคคลไร้คนขับ ส่วนเราทดลอง รถเมล์ ไร้คนขับ เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน แก้ปัญหารถติด ลดมลพิษและแก้ปัญหาความขาดแคลนพนักงานขับรถสาธารณะ”

ซีเอ็นเอ ระบุว่า รถโดยสาร ที่นำมาทดลองวิ่ง จะติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจจับความผิดปกติในการทำงานของระบบจ่ายไฟ โดยเป็นอุปกรณ์ที่ส่งรายงานเข้าสู่ศูนย์ควบคุมในระบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ตรวจสอบระบบการทำงานได้ตลอดเวลา โดยไม่มีผลกระทบต่อการเดินรถตามปกติ

หนังสือพิมพ์ออนไลน์ทูเดย์ในขณะเดียวกันรายงานว่า รถเมล์ ที่นำมาทดลองวิ่ง จะใช้เวลาชาร์จไฟที่ป้ายจอดรถครั้งละ 30 วินาที ระหว่างวิ่งรับส่งผู้โดยสาร และจะมีการทดลอง 1 ปีก่อนนำมาวิ่งจริง

ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงานที่ มหาวิทยาลัยนันยาง (ERI@N) กล่าวว่า ทีมงานปรับปรุงเทคโนโลยีของ รถเมล์ ไร้คนขับจะต้องใช้เวลามากขึ้น ในเรื่องของความปลอดภัย หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ รถแท็กซี่ ไร้คนขับของ บริษัท นูโตโนมีฯ ชนกับ รถบรรทุก ในการทดลองวิ่งบนท้องถนนจริงก่อนหน้านี้

ส่วนที่ยากของ รถเมล์ ไร้คนขับขี่ คือช่วงหลังจากขึ้น รถเมล์ จอดที่ป้ายแล้วและออกวิ่งครั้งอีก ซึ่งเป็นจังหวะที่เกิดขึ้นบ่อย เนื่องจาก รถเมล์ ต้องจอดป้ายตลอดเส้นทาง “เราต้องใส่เซ็นเซอร์หลายตัว เพื่อให้ รถเมล์ สามารถเคลื่อนกลับสู่ช่องทางที่มีรถวิ่งไปมาได้อย่างไม่มีปัญหา”

โดยระบุว่า หน่วยงานรัฐในท้องที่ ที่มีการทดสอบ รถเมล์ ไร้คนขับของสิงคโปร์ เข้าร่วมสนับสนุนการทดลองนำ รถไร้คนขับ มาวิ่งบนท้องถนนด้วยการติดตั้ง กล้องวงจรปิดในทุกเส้นทาง และจุดสำคัญที่มีการทดสอบวิ่ง รถไร้คนขับ เพื่อนำภาพมาตรวจสอบและติดตามประมวลผลการทดลอง

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ