ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

ข่าวประกันภัยทั่วไป

วิริยะ ปั้นแผนชิงเค้ก ประกันภัย เมกะโปรเจกต์

เตรียมแผนธุรกิจขยายตลาด ประกันภัย โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ประสานกับทางผู้รับ ประกันภัย ต่อ คาดแล้วเสร็จ มกราคม 2560

วิริยะ ปั้นแผนชิงเค้ก ประกันภัย เมกะโปรเจกต์

ตุลาคม
20

“วิริยะ” เตรียมชิงเค้กเมกะโปรเจกต์ ซุ่มปั้นแผน-ดิวผู้รับ ประกันภัย ต่อ ตปท. คาด ม.ค.ปีหน้าลุยแน่ ยอมรับปีนี้โตไม่เกิน 2% ต่ำกว่าเป้า เหตุเศรษฐกิจยังไม่ดี อุตสาหกรรมวินาศภัยโตต่ำ แถมยอดขาย รถยนต์ ใหม่หด แข่งตัดราคาเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ หนักหน่วง มุ่งหารายได้จากเบี้ย ประกันภัย ต่ออายุ ดึงลูกค้าเก่า 70% ทำ ประกันภัย ต่อ ชูจุดแข็งบริการ-จ่ายสินไหมเร็วมัดใจ

รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างทำแผนธุรกิจที่จะขยายตลาด ประกันภัย โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) โดยอยู่ระหว่างประสานกับทางผู้รับ ประกันภัย ต่อ (รีอินชัวเรอส์) ในต่างประเทศรองรับ ซึ่งคาดว่าแผนน่าจะแล้วเสร็จ และเริ่มขยับได้ในเดือนมกราคม ปี 2560

“เราจะเริ่มรุกตลาดกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ในโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ หลังจากที่ผ่านมาไม่ได้เล่นตลาดนี้ เพราะมุ่งที่จะทำให้ธุรกิจหลัก คือ การ ประกันภัยรถยนต์ ให้แข็งแรงมากที่สุด ดูแลการให้บริการกับลูกค้าให้ดีที่สุดก่อน ตอนนี้เรามั่นใจว่า ประกันภัยรถยนต์ เราดีที่สุดแล้ว ถึงเวลาที่จะขยับเข้าไปในโครงการขนาดใหญ่แล้ว”

สำหรับในปีนี้ บริษัทคาดว่าน่าจะเติบโตไม่เกิน 2% หรือมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมมากกว่าปี 2558 ที่ทำได้ 32,418.58 ล้านบาทเพียงเล็กน้อย และต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้เมื่อตอนต้นปีจะเติบโต 5% หรือมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมประมาณ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากสภาพการแข่งขันด้านราคาเบี้ย ประกันภัย ในธุรกิจ โดยเฉพาะ ประกันภัยรถยนต์ ยังคงรุนแรง และยอดขาย รถยนต์ ป้ายแดงเพิ่งเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ จีดีพี ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 3.4% ก็เป็นผลมาจากภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นหลัก

“การเติบโต 2% ก็เป็นตัวเลขที่พอใจแล้ว ถ้าดูจากสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ที่ยังทรงๆ อยู่ ยอดขาย รถยนต์ ป้ายแดงก็ลดลง 0.4% คาดว่าภาพรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยปีนี้ ก็คงเติบโตไม่เกิน 2% เช่นกัน”

อย่างไรก็ดี แม้การแข่งขันในตลาด ประกันภัยรถยนต์ ยังคงรุนแรงอยู่ แต่ในส่วนของบริษัทยังยึดนโยบายไม่แข่งขันด้านราคา หรือตัดราคาเพื่อให้ได้งานมา โดยจะมุ่งหารายได้จากเบี้ย ประกันภัย ต่ออายุเป็นหลัก เพื่อมาชดเชยกับเบี้ย รถยนต์ ป้ายแดงที่ลดลง ผ่านบริการที่มีคุณภาพและการจ่ายสินไหมที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทมากกว่า อีกทั้งต้นทุนของเบี้ย ประกันภัย ต่ออายุยังต่ำกว่าเบี้ย ประกันภัย จาก รถยนต์ ป้ายแดง 10-20% โดยคาดว่าปีนี้เบี้ยต่ออายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 65-67% จากเดิมอยู่ที่ 60% และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 70% ในปี 2560

“เรามั่นใจว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท จะมองในเรื่องของการบริการและการจ่ายค่าสินไหมที่รวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทมากกว่ามองเรื่องของราคา เราเน้นดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งทางด้านสินไหมและการรับ ประกันภัย อาทิ การนำเทคโนโลยี Smart Phone และ Google Map มาพัฒนาเป็นระบบงานสินไหมอัจฉริยะหรือ Viriyah Smart Claim (VSC) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานตรวจสอบอุบัติเหตุ ให้พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุ (เซอร์เวเยอร์) สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก รวดเร็ว โดยกำลังขยายระบบงานสินไหมอัจฉริยะไปสู่ผู้เอา ประกันภัย ในภูมิภาคและรองรับ เออีซี ด้วย โดยบริษัทมีพนักงานเซอร์เวย์เยอร์เกือบ 2,000 คนทั่วประเทศ”

ในส่วนของอัตราความเสียหาย หรืออัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) นั้น แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ 62% เนื่องจากอัตราสินไหมทดแทน ประกันภัย พ.ร.บ. ขยับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% หลังจากมีการปรับเพิ่มความคุ้มครอง แต่บริษัทก็ยังคุมต้นทุนได้อยู่ โดยอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรที่เป็นอู่ซ่อม รถยนต์ หรือดีลเลอร์ขาย รถยนต์ ในการให้ส่วนลดพิเศษเมื่อเข้าไปซ่อมรถ รวมไปถึงความแม่นยำในการประเมินค่าเสียหายต่างๆ โดยต้องพยายามลดค่าสินไหมทดแทน ประกันภัยรถยนต์ ลงมาอยู่ที่ 60% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมให้ได้ อย่างไรก็ดี จุดที่น่ากังวลคือ สินไหมทดแทน ประกันภัย พ.ร.บ. เพราะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด

สำหรับในช่วง 8 เดือนแรก บริษัทมีเบี้ย ประกันภัย รับ 21,747.73 ล้านบาท เติบโต 1.20% แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ 19,890.06 ล้านบาท แยกเป็นภาคสมัครใจ 17,884.85 ล้านบาท ภาคบังคับ 2,005.21 ล้านบาท ส่วนประกันภัยไม่ใช้รถยนต์ (นอนมอเตอร์) มีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 1,857.67 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ย ประกันอัคคีภัย 184.80 ล้านบาท ประกันภัย ทางทะเลและขนส่ง 216.15 ล้านบาท และ ประกันภัย เบ็ดเตล็ด 1,456.72 ล้านบาท

ประกันภัยนอนมอเตอร์ ยังคงขยายตัวได้ดี มาจาก ประกันภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ประกันสุขภาพ และ ประกันภัย ความรับผิดของผู้ขนส่ง (Car-rier’s Liability Insurance) ที่เติบโตถึง 20% หรือ 2 เท่า โดยเจาะตลาดกลุ่มผู้ประกอบการ รถบรรทุกสินค้า ที่วิ่งข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามการขยายตัวของการค้าและโลจิสติกส์หลังการเปิด เออีซี โดยบริษัทมีจุดแข็งด้านศูนย์บริการสินไหมทดแทน ตามแนวตะเข็บชายแดนที่มีอยู่ครอบคลุม รวมไปถึงการมีพันธมิตรบริษัท ประกันภัย ในประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ดี ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 บริษัทมีสินทรัพย์ 66,798 ล้านบาท มีเงินกองทุน 40,112 ล้านบาท มีเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 18,954 ล้านบาท เกินกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้

ที่มา : สยามอินชัวร์ นิวส์