กรมศุลกากรจัดประมูลขายทอดตลาด รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ของกลาง มี รถยนต์ หรู ROLLS ROYCE, MAYBACH, BENTLEY, PORSCHE, BENZ, JAGUAR รวมทั้งรถยุโรปและรถปุ่นยี่ห้อต่างๆ และ รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์เข้าร่วมประมูลจำนวน 343 คัน

อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดขายทอดตลาด รถยนต์ ของกลางในครั้งนี้ โดยกรมศุลกากร ได้มอบหมายให้บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดตามสภาพที่เป็นอยู่ และเป็นการประมูลด้วยวาจาเหมือนเช่นที่ผ่านมานั้น ปีนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลกว่า 3,000 คน ซึ่งได้เปิดให้ผู้สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเข้าชมสภาพภายนอก รถยนต์ ของกลางฯ ในวันที่ 18-19 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ ลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร

โดย รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ที่เปิดราคาประมูลต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท จะต้องวางเงินประกันคันละ 1 แสนบาท ส่วน รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ที่เปิดราคาประมูลตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องวางเงินประกันคันละ 2 แสนบาท ทั้งนี้ผู้ที่ลงทุกทะเบียนและวางเงินค้ำประกันแล้วเท่านั้น จึงได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลและเสนอราคา โดยการยกป้ายเสนอราคาแต่ละครั้งจะต้องเป็นไปตามระเบียบของกรมศุลกากร คือ 1. รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ราคาต่ำกว่า 500,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 5,000 บาท 2. รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ราคาตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 200,000 บาท 3. รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ราคาตั้งแต่ 1,000,000-2,000,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 50,000 บาท และ 4. รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ราคาตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 100,000 บาท

สำหรับ รถยนต์ ที่มีราคาการเปิดประมูลสูงสุด ได้แก่ ลำดับที่ 181 ยี่ห้อ ROLLS ROYCE รุ่น Phantom black edition ปี 2006 เปิดประมูลด้วยราคา 10.75 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ ที่มีราคาการเปิดประมูลสูงที่สุด ได้แก่ ลำดับที่ 195 ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON เปิดประมูลด้วยราคา 560,000 บาท ทั้งนี้ สหการประมูล ในฐานะผู้ดำเนินการประมูล สามารถขายทอดตลาด รถยนต์ ของกลางได้จำนวน 295 คัน มูลค่า 424,350,000 บาท และมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลกว่า 3,000 คน โดย รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ ของกลางที่ประมูลได้ สามารถออกแบบ 32 และนำไปจดทะเบียนได้ เมื่อมีการปรับปรุงสภาพตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนด เป็นรถที่มีสมองกลครบถ้วน และจะต้องไม่มีสภาพเป็น รถยนต์ จดประกอบ ซึ่งกรณีดังกล่าวกรมศุลกากรได้ประสานแจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ก่อนมีการประมูลขายทอดตลาด กรมศุลกากรทำการส่งมอบ รถยนต์ ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว คืนแก่ผู้แทนสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อส่งคืนให้แก่เจ้าของ รถยนต์ ที่แท้จริงต่อไป เพื่อเป็นการตัดวงจรหลีกเลี่ยงการเสียภาษี การนำเข้าเพื่อเลี่ยงใบอนุญาต และตัดวงจรการฟอก รถยนต์

ที่มา : สยามธุรกิจ