จากนโยบายของรัฐ มุ่งเน้นที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดนของประเทศไทย ที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการค้าขายและการลงทุน และเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงได้กำหนดให้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นรวม 10 พื้นที่ ได้แก่ ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร สงขลา เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี นราธิวาส

รัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ และมาตรการอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไว้รองรับผู้ประกอบการต่างๆ เรียบร้อย สาเหตุที่ต้องลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ได้แก่ ประเทศพม่า ที่ตากและกาญจนบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย และนครพนม ประเทศกัมพูชา ที่สระแก้วและตราด ประเทศมาเลเซีย ที่สงขลาและนราธิวาส ที่ผ่านมามูลค่าการค้าชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยมูลค่าต่อปีประมาณ 900,000 ล้านบาท

ปัจจุบันธุรกิจประเภทศูนย์กระจายสินค้า และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก เริ่มสนใจไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากสามารถเข้าถึงแรงงานจำนวนมาก และสะดวกในการกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนำเข้าสินค้าต่างๆ รวมทั้งวัตถุดิบ ชิ้นส่วนเข้ามายังประเทศไทย

โดยธุรกิจที่เหมาะกับการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน ธุรกิจการค้าชายแดนที่ต้องมีการตั้งคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าส่งไปจำหน่ายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ธุรกิจสนับสนุนการท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจบริการที่หลากหลาย เพื่อรองรับการขยายตัวชุมชนในบริเวณเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เช่น ธุรกิจการให้บริการด้านโลจิสติกส์ เป็นต้น

ในส่วนของภาคเอกชน โดยเฉพาะในธุรกิจ ประกันภัย ได้มีการพัฒนาแบบ ประกันภัย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง รองรับความเสียหายที่ไม่อาจคาดคิด เช่น บมจ.นำสินประกันภัย มีนโยบายที่จะเติมเต็ม และพัฒนาธุรกิจ ประกันภัย รถใหญ่ ให้ครอบคลุมความเสี่ยงภัยให้กับผู้ประกอบการขนส่ง ในทุกกรณีที่มีความเสี่ยงภัย โดยได้จัดทำแพ็กเกจ ประกันภัย สำหรับกลุ่ม รถบรรทุก ที่ออกแบบความคุ้มครองไว้อย่างครบวงจร ซึ่งนอกจากจะเป็นการรับ ประกันภัย เฉพาะการ ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ไม่ว่าจะทำ ประกันภัย ประเภท 1 หรือประเภท 3 แล้ว ผู้เอา ประกันภัย สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้อีก

ในส่วนของ รถบรรทุก ได้มีการขยายความคุ้มครอง การใช้รถไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมโครงการรับ ประกันภัย รถข้ามแดนที่ด่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นด่านแรกที่ภาคเอกชนและภาครัฐ ร่วมกันจัดทำโครงการรับ ประกันภัยรถยนต์ คุ้มครองแบบประเภท 3 รวม พ.ร.บ. ซึ่งเป็นแพ็กเกจเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงราย

ขณะที่ บมจ.วิริยะประกันภัย ได้มีการขยายความคุ้มครองเพิ่มเติม ให้กับกรมธรรม์ ประกันภัย ความรับผิดของผู้ขนส่ง จากเดิมที่สิ้นสุดความคุ้มครองบริเวณชายแดนของประเทศไทย ก็จะมีการขยายความคุ้มครองเข้าไปในประเทศลาว เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร และหากคนขับรถขับรถดีไม่มีอุบัติเหตุ ที่เป็นฝ่ายผิดเกิดขึ้นเลย จะได้รับรางวัลโดยตรงจากวิริยะ

นอกจากนี้ วิริยะประกันภัย มีแผนในการศึกษาหาช่องขยายธุรกิจ ไปยังประเทศกัมพูชา เมียนมา และมาเลเซีย เพิ่มเติม เพื่อรองรับกับลูกค้าในไทยที่จะไปทำธุรกิจในประเทศเหล่านั้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และอาจนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน การทำ ประกันรถยนต์ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเสียหาย ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เอา ประกันภัย หรือพูดได้ว่ามีผู้มารับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยที่ไม่มีใครรู้ร่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ ส่วนบุคคลหรือ รถสาธารณะ จำเป็นที่ต้องทำ ประกันภัย เอาไว้ โดยเฉพาะรถใหญ่ จัดว่าเป็นรถที่ความเสี่ยงสูง ซึ่งเวลาเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้ง เรียกได้ว่าเกิดความเสียหายค่อนข้างมาก ทั้งทรัพย์สินต่างๆ ความเสียหายต่อชีวิตบุคคลคนภายนอก การบาดเจ็บ การทำ ประกันภัย ก็สามารถแบ่งเบาผู้ประกอบการได้ส่วนหนึ่ง ให้กับผู้สูญเสียได้รับการชดใช้จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มรถใหญ่กำลังเนื้อหอมขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะบรรดาบริษัท ประกันภัย รายใหญ่ต่างมองเห็นโอกาสเติบโต จึงหันมารุกตลาดรถใหญ่มากขึ้น

ที่มา : อาร์วายทีไนน์