กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยไทยมีโอกาสเติบโตสูง เพราะความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศในปัจจุบันมีมากขึ้น อาทิ เหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศสและที่อื่นๆ ในโลก หรือในประเทศไทยก็มีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์
“ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นตัวนำที่บอกว่าการใช้บริการด้าน ประกันภัย ต้องมีมากขึ้นแน่นอน รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดกับสินค้าการเกษตร เช่น น้ำท่วม ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว ประกันภัย จะมีบทบาทมากขึ้น”
ปัจจุบันเบี้ย ประกันภัย ทั้งระบบ มีสัดส่วนประมาณ 20-25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งไทยถือเป็นตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่จะพัฒนาต่อไปได้อีก
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ ประกันภัย มีการลงทุนในตลาดหุ้นน้อยมาก โดยสินทรัพย์ลงทุนของทั้งประกันชีวิตและ ประกันภัย รวมกันเกือบ 3 ล้านล้านบาท แยกเป็นสินทรัพย์ประกันชีวิต 2.4 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์ลงทุนประกันวินาศภัย 5 แสนล้านล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้
ที่มา : โพสต์ทูเดย์