ก้าวทัน ประกันภัย เกี่ยวกับ คำถาม ที่ว่า เมื่อขับ รถยนต์ ที่มี ประกันภัย ไปตกหลุมด้านหน้า และรถกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นพื้นที่เปลี่ยว และเกรงต่ออันตรายเพราะคนขับเป็นผู้หญิง จึงขับรถต่อไปจนเกือบถึงบ้าน ปรากฏว่าหน้าปัทม์มีไฟโชว์ และเครื่องยนต์หยุดทำงาน ขับต่อไปไม่ได้ แจ้งบริษัท ประกันภัย ให้มาทำเคลมแล้วมีการนำ รถยนต์ เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการ มีค่าซ่อมเครื่องยนต์ที่เสียหาย แต่ บริษัทประกันภัย จ่ายค่าเสียหายเพียงส่วนน้อยเท่านั้นไม่เต็มจำนวน โดยทาง บริษัทประกันภัย บอกว่าผู้ขับขี่ไม่ดูแลความเสียหายรถเมื่อเกิดเหตุ แต่ยังคงฝืนขับรถ จึงเป็นการ ไม่ระวังทรัพย์ตามที่ควรจะเป็น ความจริงแล้ว บริษัทประกันภัย ต้องจ่ายหรือไม่

สำหรับเรื่องนี้ ตามที่ บริษัทประกันภัย อ้างว่าผู้เอา ประกันภัย ไม่ดูแลและระวังรักษาทรัพย์นั้น ก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ควรเอาเป็นกรณีนี้ เพราะว่าข้อเท็จจริงตามที่กล่าวนั้น บริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวและผู้ขับเป็นสุภาพสตรี จึงกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยหากจะหยุดลงมาดู บริษัทประกันภัย ต้องให้ความเป็นธรรมโดยการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเป็นไปตามที่ให้การหรือไม่ เช่น ในระหว่างจุดที่เกิดเหตุนั้นมีที่ที่ปลอดภัยเพียงพอที่จะให้ผู้เอา ประกันภัย หรือผู้ขับขี่ สามารถลงมาดูหรือตรวจสอบความเสียหายได้แต่ไม่ทำ หรือมีแต่ ผู้ขับขี่ไม่มีความรู้เรื่องการตรวจสอบ อย่างนี้ บริษัทประกันภัย ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เช่น อาจรับผิดชอบในความเสียหายเครื่องยนต์ให้มากกว่าที่รับผิดชอบ เพียงตัวแคร้งเครื่องเท่านั้น การที่ บริษัทประกันภัย จะยกเหตุผลทางกฎหมายที่กำหนดว่า บุคคลพึงระวังรักษาทรัพย์นั้น ต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมและวิสัยที่พึงกระทำนั้นด้วย ว่าในสภาวะการณ์นั้นสามารถกระทำได้หรือไม่ด้วย ไม่ใช่เพียงพอยกเป็นเหตุในการปฏิเสธได้ก็หยิบยกมา อย่างนี้จะดูเหมือนไร้จรรยาบรรณ

ถ้าตรวจสอบแล้วเส้นทางของการเกิดเหตุเป็นอย่างที่กล่าว บริษัทประกันภัย ต้องให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของตัวเครื่องยนต์ด้วย จะมีที่สามารถยกเว้นได้ที่ก็เป็นพวกวัสดุสิ้นเปลือง อย่างน้ำมันเครื่อง หรือชิ้นส่วนที่มีการเสื่อมสภาพอันเกิดจากการใช้งานเท่านั้น ทางเจ้าของรถต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามวิสัยและพฤติกรรมที่สามารถกระทำได้ แต่กลับละเว้นเสียไม่กระทำอย่างนี้ ก็อาจเข้าข่ายตามข้ออ้างของ บริษัทประกันภัย ได้เหมือนกัน หากเป็นเช่นนี้ทางออกของเรื่องคือ การเจรจาร่วมรับผิดชอบ เพื่อให้ยุติไป อาจจะเป็นคนละครึ่ง หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมกันไป

ส่วนสาเหตุของเครื่องยนต์ของรถที่พังนั้น เนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุ คือ แคร้งเครื่อง (บริเวณใต้เครื่องยนต์) แตก ทำให้น้ำมันเครื่องที่หล่อลื่นเครื่องยนต์นั้นไหลหมด เมื่อเครื่องยนต์ไม่มีน้ำมันหล่อลื่น ก็เลยทำให้กระบอกสูบในเครื่องยนต์เกิดติดขัด ก้านสูบหัก เพลาข้อเหวี่ยงในเครื่องเสียหาย เสื้อสูบเสียหาย

เครดิต : เส้นทางนักขาย (ฉบับที่ 351 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2560)

ที่มา : ทูเดย์อินชัวร์