ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้าองค์การ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เจ้าตลาด ประกันภัย สินค้าไอที เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2557 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 15-20% เช่นเดียวกับปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคตอบรับมากกว่าเดิม อีกทั้งระยะหลังมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาก อาทิ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก ไอแพด เป็นต้น ซึ่งมีราคาแพง เวลาเกิดอุบัติเหตุเช่นตกหล่น เครื่องเสียหาย ค่าซ่อมแพง หรือไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ ผู้บริโภคไม่อยากจ่าย จะหันมาซื้อ ประกันภัย โดยบริษัทมีเบี้ย ประกันภัย สินค้ากลุ่มนี้ 40-50 ล้านบาทต่อปี
"การแข่งขันมีมากขึ้น บริษัท ประกันภัย หันมาเล่นกันเยอะ เพราะเห็นช่องในตลาด กระแสสังคมออนไลน์มาแรง ความเสียหาย หรืออัตราสินไหมทดแทน (Loss Ratio) อย่างโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 60-70% อยู่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะเราทำมานาน บางบริษัทขาดทุน คุ้มครองอุบัติเหตุทั่วไป ภัยธรรมชาติ การโจรกรรมที่ปรากฏร่องรอยงัดแงะ วางลืมไว้ในรถแท็กซี่ ประกันภัย พวกนี้เราให้ลูกค้ารับผิดความเสียหายส่วนแรกประมาณ 500-1,000 บาท หรือ 10% ของทุน ประกันภัย "
สำหรับ ประกันภัย โทรศัพท์มือถือกล่าวว่า ประเมินทั้งตลาดน่าจะมีเบี้ย ประกันภัย ประมาณปีละ 30-40 ล้านบาท ยังเล็กมาก โดยมีผู้เล่น 3-4 บริษัทหน้าใหม่แวะเวียนเข้ามาตลอด ขณะที่รายเก่าถอนตัวออกไป เพราะแบกรับการขาดทุนไม่ไหว อัตราสินไหมสูง 100-200% บางบริษัทเจอไป 300% ส่วนใหญ่เป็นเคลมมือถือสูญหาย ถูกขโมย กระทั่งช่วงหลังบริษัท ประกันภัย ปรับเงื่อนไขใหม่ หากสูญหายต้องมีร่องรอยถูกงัดแงะด้วย หากวางลืมในรถแท็กซี่ ออฟฟิศแล้วหาย ไม่คุ้มครอง อีกสาเหตุที่ทำให้ขาดทุน เพราะตัดราคากันมาก พอเกิดเคลม เบี้ย ประกันภัย ไม่คุ้มจ่าย
ปีนี้บริษัทเน้น ประกันภัย โทรศัพท์มือถือ เพิ่งรับเป็นปีแรก เป็น ประกันภัย ไอโฟนและซัมซุง ที่ทำร่วมกับผู้จำหน่าย โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด ประมาณ 30% เน้นลูกค้าระดับกลาง-ระดับบน ราคาโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งไม่นานมานี้เพิ่งปรับเบี้ย ประกันภัย ขึ้นอีกประมาณ 20-30% เนื่องจากสินไหมสูงประมาณ 70-80% เพราะบางเคสทางร้านไม่ซ่อมให้ ลูกค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ ทำให้บริษัทต้องจ่ายชดเชยเยอะ
"เชื่อว่าตลาดคงอยู่ไม่ได้ ต้องปรับค่าเบี้ย ประกันภัย เพิ่มขึ้น ประกันภัย มือถือ มองว่าแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคมีความต้องการพวกสมาร์ทโฟนมีราคาแพง เวลาเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้งค่าซ่อม 7,000-10,000 กว่าบาท ไม่ใช่พันต้นๆ เหมือนก่อน บางครั้งซ่อมไม่คุ้มต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ เลยเทียบกับการทำ ประกันภัย จ่ายค่าเบี้ยไม่แพงมาก อีกทั้งค่ายมือถือเองมองเห็นถึงโอกาสกระตุ้นยอดขาย จะออกเป็นแพ็กเกจซื้อโทรศัพท์มือถือแถม ประกันภัย ให้กับลูกค้า แต่ก่อนมีเยอะ แต่ช่วงหลังจะไม่แถมให้ เพราะเห็นลูกค้าต้องการจะใช้วิธีเชียร์แขกให้ โดยลูกค้าต้องจ่ายเบี้ย ประกันภัย เอง อาจจะจัดเฉพาะช่วงโปรโมชั่น"
ด้านผู้จัดการทั่วไปแผนก ประกันภัย อุบัติเหตุและสุขภาพ บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันส์ จำกัดกล่าวว่า บริษัทเพิ่งออก "Big C Mobile Insure" แผน ประกันภัย โทรศัพท์มือถือ โดยร่วมกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่จัดหาแผน ประกันภัย ให้กับลูกค้าบิ๊กซี คุ้มครองความเสียหายต่อโทรศัพท์มือถือจากอุบัติเหตุต่างๆ การลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ วงเงินตามมูลค่าโทรศัพท์ตั้งแต่ 5,001-30,000 บาท เบี้ย 13% ของราคาโทรศัพท์ สมมติโทรศัพท์มือถือราคา 10,000 บาท เบี้ย 1,300 บาทต่อปี หากสูญหาย หรือเสียหายจากอุบัติเหตุโดยสิ้นเชิง ผู้เอา ประกันภัย จะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก 10% ของทุน ประกันภัย
"เราเข้าไปคุยกับช็อปต่างๆ จัดแคมเปญร่วมกัน ให้เขาช่วยสนับสนุนสินค้า การขายเป็นหน้าที่คนของเราที่ประจำอยู่เคาน์เตอร์บิ๊กซี ลูกค้าเป็นคนจ่ายเบี้ย ประกันภัย เอง เพราะเราเสนอขายลูกค้ารายย่อยทั่วไป แต่ถ้าเป็นค่ายมือถือที่เขาทำเป็นโปรโมชั่นให้กับลูกค้า เขาจะเป็นคนจ่ายเบี้ย ประกันภัย ให้เหมือนซื้อ รถยนต์ แถม ประกันภัย "
ตลาด ประกันภัย โทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ผู้ผลิตก็แข่งขันกันออกรุ่นใหม่ๆ มาดึงลูกค้า กอปรกับสมาร์ทโฟนมีราคาแพง โอกาสเกิดความเสียหายมีเยอะ ทำให้ความต้องการทำ ประกันภัย มากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขาย ประกันภัย โทรศัพท์มือถือไม่เกิน 10 ล้านบาท จากเป้าทั้งหมด 180 ล้านบาทผ่านโครงการบิ๊กซี
ที่มา : สยามธุรกิจ