ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

กฎลงทุนใหม่ ใช้เดือนหน้า บริษัท ประกันภัย ตีปีก ขนเงินเล่นหุ้น

อนุญาตให้บริษัท ประกันภัย ลงทุนเกินสัดส่วนที่กำหนดได้ เพิ่มหลักเกณฑ์บริหารความเสี่ยงการลงทุน บุคลากรต้องมีความเข้าใจการลงทุน ต้องมีระบบงานรองรับ

กฎลงทุนใหม่ ใช้เดือนหน้า บริษัท ประกันภัย ตีปีก ขนเงินเล่นหุ้น

พฤศจิกายน
19

ในที่สุดกฎหมายลูกฉบับใหม่ ว่าด้วยเรื่องการลงทุนของธุรกิจ ประกันภัย ที่ตั้งตารอมานาน จ่อประกาศใช้หลังจากประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย ได้ลงนามประกาศ คปภ. เรื่องการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ.2556 เมื่อ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ถัดจากวันลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาร่วมเดือน นั่นหมายความว่ากฎใหม่น่าจะใช้ในเดือนหน้า

สาระสำคัญของประกาศลงทุนฉบับใหม่ที่มีการแก้ไขปรับปรุง เลขาธิการ คปภ.กล่าวว่า มุ่งเน้นความมั่นคง สอดคล้องกับลักษณะการประกอบธุรกิจ ประกันภัย ภาระหนี้สินของบริษัท รวมถึงเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น กำหนดสัดส่วนการลงทุนของคู่สัญญา เช่น สถาบันการเงินแห่งหนึ่งออกหุ้น, หุ้นกู้, ตั๋วเงิน จะจำกัดการลงทุนทุกประเภทรวมกันที่สถาบันการเงินแห่งนี้ออก บริษัท ประกันภัย สามารถลงทุนได้ไม่เกิน 20% ของสินทรัพย์รวมจากเดิมไม่จำกัด เพื่อป้องกันการกระจุกตัวของการลงทุน เป็นต้น

เพิ่มลงทุนในประเทศ-ตปท. / "คาร์ เรโช" KPI คุมความเสี่ยง

อนุญาตให้ลงทุนเกินสัดส่วนที่กำหนดได้ เฉพาะการลงทุนในหุ้น โดยต้องใช้เงินทุนของตนเองเข้าไปลงทุน, ให้ลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน, กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นของใหม่ที่เพิ่มเข้ามา รวมไปถึงเพิ่มหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกระบวนการบริหารความเสี่ยงจากการลงทุน ทั้งในส่วนของบุคลากรที่จะต้องมีความรู้ และความเข้าใจการลงทุน เช่นเดียวกับคณะกรรมการบริษัท อีกทั้งต้องมีคณะกรรมการลงทุน รวมไปถึงต้องมีระบบงานรองรับ

นอกจากนี้ยังอนุญาตให้ลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์, ขยายเพดานการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของสินทรัพย์รวม จากเดิมจำกัดแค่ 8.5% ขณะที่การลงทุนประเภทอื่นๆ ยังจำกัดสัดส่วนเท่าเดิม

"เดิมเรากำหนดว่าบริษัทจะลงทุนเพิ่มได้ ต้องมีระดับเงินกองทุนเท่าไหร่ มีเงินกองทุนส่วนเกินกี่เปอร์เซ็นต์ แต่กฎใหม่ไม่มี เราไปกำหนดในส่วนที่ว่า บริษัทต้องมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน มีแผนลงทุน มีบอร์ดลงทุนดูแล เมื่อไหร่ก็ตามที่จะลงทุน ซึ่งหมายถึงมีความเสี่ยงเพิ่ม ต้องมีเงินกองทุนมารองรับ ตามเกณฑ์ RBC ไม่ว่าจะเป็นลงทุนอะไรจะมีริสก์ ชาร์จ คอยจับอยู่ ภายใต้กฎใหม่ใครมีเงินกองทุนมาก ลงทุนได้มาก การลงทุนใหม่ๆ ที่ขยายให้ เพื่อให้บริษัทหาผลตอบแทนได้มากขึ้น"

ครึ่งปีนี้ธุรกิจ ประกันภัย มีสินทรัพย์ลงทุน 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.88% แบ่งเป็นประกันชีวิต 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.49% ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตร หุ้นกู้ และตั๋วแลกเงิน และประกันวินาศภัย 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.05% ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากธนาคาร หุ้นทุน และพันธบัตร

บริษัท ประกันภัย ตีปีก เล็งขนเงินเล่นหุ้น / กองทุนอสังหาริมทรัพย์

ด้านบริษัท ประกันภัย ขานรับประกาศลงทุนใหม่ เตรียมเพิ่มลงทุนกันขนานใหญ่ โดยประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า หลังจากประกาศลงทุนใหม่ใช้บังคับ บริษัทเตรียมจะยื่นขออนุญาต คปภ. เพิ่มเงินลงทุนในหุ้นอีก 1-2 พันล้านบาท จากปัจจุบันลงทุนไปแล้ว 3.7 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตลงทุนมูลค่า 1.48 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนในหุ้นประมาณ 25%

ส่วนเมืองไทยประกันภัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสกล่าวว่า เบื้องต้นคงจะปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเพิ่มได้อีกประมาณ 5-10% จากตอนนี้เราลงทุนหุ้นอยู่ราว 25% ของพอร์ตลงทุน 7.1 พันล้านบาท ต่ำสุดในกลุ่มบริษัทประกันวินาศภัย คงจะเห็นการปรับเพิ่มในปีหน้า ส่วนลงทุนต่างประเทศช่วงแรกคงลำบาก อาจจะต้องเปิดเออีซีก่อน

ซีกประกันชีวิต ซึ่งมีสินทรัพย์ลงทุนมากถึง 1.7 ล้านล้านบาท และสมาคมประกันชีวิตไทยประเมินถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.9 ล้านล้านบาท การขยับตัวจะเป็นของค่ายใหญ่เช่นกัน โดยผู้จัดการทั่วไปและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายลงทุน บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย ให้ความเห็นไว้ว่า ประกาศลงทุนใหม่ให้บริษัท ประกันภัย ลงทุนต่างประเทศได้ 15% ของสินทรัพย์ลงทุนรวม จะส่งผลดีกับบริษัทประกันชีวิตสามารถปรับการลงทุนได้สะดวกขึ้น เช่นการลงทุนในหุ้น ทำให้ไม่เสียเปรียบ

ทั้งนี้ หากคิดตามเกณฑ์ใหม่ เอไอเอ จะมีสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศประมาณ 7% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 600,000 ล้านบาท โดยมีแผนจะลงทุนหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงจากเดิมไม่มี ส่วนจะลงเท่าไหร่ยังอยู่ในแผนงาน

ขณะที่กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยประกันชีวิตกล่าวว่า บริษัทมีแผนจะลงทุนโดยตรงในหุ้นต่างประเทศ โดยได้เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่สหรัฐอเมริกาเรียบร้อย แล้วจะเน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลัก ภายใต้วงเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจาก 5.22% ของสินทรัพย์ลงทุนทั้งหมดที่มีอยู่ 184,927.73 ล้านบาท เป็น 6-7% แต่ยังต้องรอดูจังหวะและโอกาสอีกครั้ง เพราะความผันผวนของตลาดหุ้นไทยมีมาก คาดปีนี้สินทรัพย์ลงทุนจะอยู่ที่ 185,000-186,000 ล้านบาท

ส่วนบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสให้ความเห็นว่า บริษัทเริ่มให้น้ำหนักกับการลงทุนทางเลือกมากขึ้น เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นลักษณะการลงทุนที่ให้กระแสเงินสดสม่ำเสมอ ผลตอบแทนน่าสนใจ และมีความมั่นคง สอดคล้องนโยบายการลงทุนของบริษัท ที่เน้นการลงทุนระยะยาว

ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนทางเลือกอยู่ที่ 2% ของสินทรัพย์ลงทุน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 95% ของสินทรัพย์รวม จำนวน 173,000 ล้านบาท โดยประเมินว่าผลตอบแทนการลงทุนปีนี้ น่าจะยังอยู่ในระดับ 4.8-4.9% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

ที่มา : สยามธุรกิจ