รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมไม่ต่ำกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ประกันภัยรถยนต์ 3 หมื่นล้านบาท และ ประกันภัย ไม่ใช่รถยนต์ (นอน มอเตอร์) 3 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำผลงานได้ดี มีเบี้ย ประกันภัย รับรวมถึง 16,758.55 ล้านบาท เติบโต 27.37% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ 15,319.69 ล้านบาท เติบโต 27.23% และนอน มอเตอร์ 1,438.85 ล้านบาท เติบโต 28.88%

ทั้งนี้ ประกันภัยรถยนต์ การขยายตัวยังคงมาจากโครงการ รถยนต์ คันแรก ขณะที่นอนมอเตอร์ มาจาก ประกันภัย ทุกประเภท อาทิ ประกันภัย ทางทะเลและขนส่ง (มารีน) ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตถึง 45.95% มาจากการ ประกันภัย ความรับผิดของผู้ขนส่งที่เติบโตถึง 56% เป็น ประกันภัย คุ้มครองผู้ประกอบการขนส่งสินค้า หากสินค้าเกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งระยะหลังบริษัทหันมาขยายตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น จับกลุ่มลูกค้ารถบรรทุกสินค้าที่วิ่งในประเทศ และวิ่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รองรับระบบลอจิสติกส์ที่จะขยายตัวจากเออีซี

"คนอื่นทำ ประกันภัย การขนส่งทางทะเลแต่เราทำบนบก เดิมเรามีลูกค้ารถบรรทุกอยู่ แต่เราไม่ได้ ประกันภัย ตัวสินค้า เพิ่งจะมาขยายในช่วงหลัง มีรถบรรทุกวิ่งขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เพราะตอนนี้ถนนเชื่อมถึงกันหมด"

นอกจากนี้ ยังมี ประกันภัย โจรกรรม รถจักรยานยนต์ อยู่ในหมวด ประกันภัย เบ็ดเตล็ด มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากระยะหลังมี รถจักรยานยนต์ถูกโจรกรรมเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการ ประกันภัย ประเภทนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในแต่ละปีมีเบี้ย ประกันภัย ประมาณ 900 กว่าล้านบาทต่อปี เป็นตัวหลักที่ทำให้ ประกันภัย เบ็ดเตล็ดเติบโตถึง 30.14% ขณะที่อัตราความเสียหาย ประกันภัย โจรกรรมรถจักรยานยนต์ค่อนข้างสูง ประมาณ 70% ยังพอรับได้

จุดหนึ่งที่ทำให้ ประกันภัย นอน มอเตอร์ขยายตัวต่อเนื่อง โดย 8 เดือน เติบโตถึง 32% มาจากการบริการ โดยเฉพาะการบริหารจัดการเคลม อย่าง ประกันภัย โจรกรรมรถจักรยานยนต์ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการในพื้นที่ อนุมัติค่าสินไหมทดแทนได้ทันที โดยไม่ต้องรออนุมัติจากส่วนกลาง หรือสำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นโมเดลที่ใช้มานานแล้วกับ ประกันภัยรถยนต์ สร้างความพอใจกับลูกค้าได้มาก

สำหรับในช่วงครึ่งหลัง โครงการรถยนต์คันแรก ยังคงกระตุ้นการเติบโตของ ประกันภัยรถยนต์ ได้อยู่ แม้จะไม่เท่าครึ่งปีแรกก็ตาม ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายมีผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก โดยบริษัทปรับแผนการดำเนินธุรกิจบ้าง อย่าง ประกันภัยรถยนต์ เน้นการให้บริการ โดยเฉพาะสินไหม เช่น การซ่อมเร็ว ทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว การดูแลคู่ค้าดีลเลอร์ ไฟแนนซ์ ทำให้ได้งานมากขึ้น

ส่วน ประกันภัย นอนมอเตอร์ มุ่งสร้างทีมขาย ทั้งการให้ความรู้กับพนักงานสาขา ศูนย์บริการ รวมถึงตัวแทน ทำให้การขยายตลาดทำได้มากขึ้น

"เชื่อว่าครึ่งหลังเราคงไม่ดร็อป อย่างนอน มอเตอร์ทั้งปีตั้งเป้าไว้ 30% แต่อาจจะถึง 32% เหมือนที่ทำได้ตอน 8 เดือนก็ได้ การโตไม่ใช่มาจากการออกสินค้าใหม่ สินค้าเรามีเยอะแล้ว 50-60 ตัว อยู่ที่การลอนช์ให้ถูกวิธีมากกว่า เน้นให้คนขายเข้าใจสินค้ามากขึ้น นอน มอเตอร์เราโตเยอะ จากปี 2549 มีแชร์แค่ 4% ตอนนี้เพิ่มเป็น 9%"

ที่มา : สยามธุรกิจ