ทูเดย์อินชัวร์ จำหน่าย ประกันภัยรถยนต์ ราคาถูก
สำหรับสมาชิก todayinsure.com ระบบงาน TodayInsure C.R.M. หมายเลขใบอนุญาตของ TodayInsure: 5104006215
ขณะนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัตหน้าที่อยู่ โทรหาเรา (02) 952-7322, (086)378-9671 หรือ email: sales@todayinsure.com

คลังข้อมูลข่าวย้อนหลัง

รถยนต์คันแรกอ่วม ประกันภัยรถยนต์ เล็งโขกเบี้ยดัดหลังชนดะ

สินไหม ประกันภัยรถยนต์ กลุ่มรถยนต์คันแรก คนขับส่วนใหญ่เป็นมือใหม่ ขาดประสบการณ์ ความถี่ในการเกิดเหตุมีมาก

รถยนต์คันแรกอ่วม ประกันภัยรถยนต์ เล็งโขกเบี้ยดัดหลังชนดะ

กันยายน
16

ค่าสินไหมทดแทน ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจเริ่มขยับขึ้นตั้งแต่ต้นปี อัตราสินไหมทดแทน หรือลอส เรโช (Loss Ratio) 3 เดือนแรกทะลุ 59.97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 55.41% และ 58.49% ณ สิ้นปี 2555 ขณะที่ 5 เดือนแรกไต่ระดับ 59.15% แม้ยังอยู่ในระดับไม่สูงแถว 60% แต่ถ้าเจาะเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะ รถยนต์ ขนาดเล็กที่ทะลักออกมาเป็นล้านคัน จากโครงการรถยนต์ คันแรก ที่เป็น รถยนต์ กลุ่มใหญ่ของตลาด ตัวเลขลอส เรโช พุ่งสูงมากทะลุหลัก 70% ขณะที่ค่าซ่อมมีทิศทางขยับขึ้นตามต้นทุนค่าแรง ค่าอะไหล่

รถยนต์คันแรกชนดะสินไหมทะลุ 70% / ประกันรถยนต์ เลิกอั้นครึ่งหลังขึ้นเบี้ย 15%

แม้บริษัท ประกันภัย ส่วนใหญ่จะกัดฟันยอมขาดทุน ขายเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เท่าเดิม แต่มีแนวโน้มครึ่งปีหลังจะอั้นไม่ไหว น่าจะเห็นการขยับขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 รถยนต์กลุ่มนี้ โดยรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัยกล่าวว่า สินไหมรถยนต์เล็กในกลุ่มรถยนต์คันแรก ทะลุ 70% ไปแล้ว ทำให้อัตราค่าใช้จ่ายรวม (คอมไบน์ เรโช) เกิน 100% ไม่มีกำไรจากการรับ ประกันภัย

สาเหตุที่ลอส เรโช รถยนต์กลุ่มนี้สูง เนื่องจากคนขับส่วนใหญ่เป็นมือใหม่ ขาดประสบการณ์ในการขับรถ ทำให้ความถี่ในการเกิดเหตุมีมาก โดยความถี่ในการเกิดเหตุเป็นต้นทุนสำคัญในค่าสินไหม อีกทั้งจำนวนรถยนต์ใหม่ออกมามาก พื้นที่จราจรแออัด โอกาสเกิดเหตุมีมากขึ้น ขณะที่สัญญาณจราจร ถนนในบางพื้นที่ เป็นอุปสรรคต่อการบังคับรถยนต์ของมือใหม่

ดังนั้น คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะเห็นการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น1 รถยนต์เล็กกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 2,500 บาท หรือประมาณ 15% เพราะบริษัท ประกันภัย คงไม่สามารถแบกรับลอส เรโช 70% ต่อไปได้ อีกท่ามกลางค่าสินไหมมีแนวโน้มขยับขึ้นอีก ตามความถี่ในการเกิดเหตุ และพฤติกรรมของคนขับที่ยังขับรถยนต์เหมือนเดิม รวมไปถึงต้นทุนค่าซ่อมที่เพิ่มขึ้น

"การรับรู้รายได้จากลอส เรโช คำนวณจากเบี้ยที่ถือเป็นรายได้เต็มปี รถยนต์เล็กออกมากลางปีก่อน ถึงกลางปีนี้ครบปีพอดี จะเห็นสถิติชัดเจนไตรมาสสาม สามารถประเมินผลลัพธ์จากการรับ ประกันภัยรถยนต์ ได้ เป็นโอกาสที่จะคำนวณเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ที่เหมาะสม คงจะมีการปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ กันในไตรมาสสี่ การปรับราคาไม่ได้ขึ้นทีเดียว จะทยอยทีละขั้นเริ่มจาก 1,000 บาทก่อน หากลอส เรโชขยับไปถึง 80% คอมไบน์ เรโชแตะ 110% จะขยับขึ้นไปถึง 2,500 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขคุ้มทุนตามหลักคณิตศาสตร์ ประกันภัย "

ไม่ใช่รถยนต์ขนาดเล็กกลุ่มเดียวที่จะมีการปรับอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น กลุ่มรถยนต์ขนาดใหญ่อาจจะต้องขยับขึ้นเช่นกัน อีกประมาณ 3,500 บาทหรือ 15% เพราะได้รับผลกระทบจากค่าแรง ค่าอะไหล่เหมือนกัน แต่ไม่ชัดเท่ารถยนต์เล็ก

สำหรับไทยเศรษฐกิจประกันภัย อยู่ระหว่างทบทวนอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เล็กอยู่ คงจะปรับราคาในไตรมาสสี่ตามตัวเลขที่บอกได้ แต่การปรับราคาต้องดูคู่แข่งในตลาดด้วย การขยับก่อนหรือหลังมีผลต่อการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเบี้ย ประกันรถยนต์ 80% ของเบี้ย ประกันภัย ทั้งหมดเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก 60%

สามัคคีฯ เล็งขึ้นราคา 3 พลัส / ทิพยฯ ขอดูตัวเลข ชี้สินไหมพุ่ง 10%

กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัยให้ความเห็นว่า รถยนต์เล็กในพอร์ตของบริษัทมีน้อย ประกอบกับเพิ่งปรับขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ประมาณ 3-5% ยกเว้นบางรุ่นไปเมื่อ 2 เดือนก่อน จึงยังจะไม่มีการปรับขึ้นอีก

"จริงๆ ลอส เรโช ประกันภัยรถยนต์ โดยรวมขึ้นมาสูง ตั้งแต่ธันวาคม-มกราคมแล้ว แต่การขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ก็ไม่ใช่วิธีการลดลอส เรโชได้โดยตรง เราจึงไปปรับลดค่าใช้จ่ายตัวอื่นๆ ด้วย ตอนนี้ลอส เรโชอยู่ระดับใกล้ๆ 60% แต่ถ้าเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 อย่างเดียว 60% กว่าแล้ว"

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3พลัส เนื่องจากอัตราเบี้ยใช้มาตั้งแต่ปี 2549 ยังไม่มีการปรับขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นประมาณไตรมาสสี่ หรือต้นปีหน้า โดยจะปรับขึ้นประมาณ 5-10% ซึ่งปัจจุบัน 3พลัส ของบริษัทเบี้ยเริ่มต้น 7,000 บาท ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับในตลาด ที่จะเริ่มประมาณ 6,500-6,800 บาท แต่เนื่องจากของบริษัทมี โนเคลม โบนัสให้ด้วย ดังนั้นตอนปีแรกๆ ที่ทำเบี้ยอาจจะสูง แต่หากทำไป 4-5 ปี เบี้ยอาจจะถูกลงมาอยู่ที่ 4,000-5,000 บาทเท่านั้น

ด้านกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า บริษัทมีพอร์ตรถยนต์คันแรกไม่มาก เพราะไม่เน้นรถยนต์กลุ่มนี้มาตั้งแต่แรก เนื่องจากราคาเบี้ยที่แข่งขันกันอยู่ต่ำเกินไป ไม่สามารถเข้าไปรับ ประกันภัย ได้ ส่วนที่มีอยู่ยังบอกไม่ได้ค่าสินไหมสูงมากแค่ไหน ต้องขอดูก่อน

"ถ้าดูภาพรวมรถยนต์เล็กในโครงการรถยนต์คันแรก ครึ่งปีหลังคงมีการปรับราคาเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ขึ้นแน่ มาจากค่าซ่อมส่วนหนึ่ง อีกส่วนมาจากรถยนต์กลุ่มนี้ปีแรกไฟแนนซ์ซื้อ ประกันภัยรถยนต์ มาแถมให้กับลูกค้า ซึ่งจะได้ราคาพิเศษ พอมาปีนี้ลูกค้าจ่ายเองไม่ได้เรตที่ไฟแนนซ์ซื้อ"

อย่างไรก็ดี ครึ่งปีแรกภาพรวมพอร์ตรถยนต์ทั่วไปของบริษัทฯ ลอส เรโช ขยับขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากค่าอะไหล่เป็นหลัก เพราะรถยนต์ในปัจจุบันเวลาเกิดเหตุ ถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนอะไหล่เป็นชุด ไม่ใช่ซ่อมเฉพาะจุดเหมือนในอดีต ทำให้ต้นทุนค่าซ่อมต่อคันขยับขึ้นมาก คงต้องมาดูสินไหมที่ขยับขึ้นมาจากรถยนต์กลุ่มไหน เพราะช่วงหลังรับรถใหญ่เยอะ เช่น รถยนต์สาธารณะต่างๆ รถยนต์พวกนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยขึ้น ต้องมาดูแล้วค่อยปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ กลุ่มนั้น

ค่าอะไหล่ ค่าแรงตัวแปร / ขาใหญ่มีทั้งอั้น ชิงขึ้นก่อน

ข่าวจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งให้ความเห็นว่า กำลังศึกษาว่าจะปรับเบี้ยรถยนต์เล็กเพิ่มขึ้นอย่างไร โดยจากการศึกษาตลาดพบว่า เบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ที่จัดเก็บอยู่ไม่พอ เมื่อเทียบกับลอส เรโชที่พุ่งขึ้นถึง 70% ส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันในตลาดเอง เพราะรถยนต์คันแรกเป็นพอร์ตใหญ่ เมื่ออยากได้งานก็โค้ดเบี้ยต่ำเพื่อให้ได้งาน แต่งานไหนที่ไม่อยากได้ก็ไม่ปรับเบี้ยแข่ง ซึ่งก็ขึ้นกับพอร์ตของแต่ละบริษัทว่าเป็นอย่างไร

"ที่ควรต้องปรับคือ เบี้ย ประกันภัย พื้นฐานน่าจะต้องปรับขึ้น แต่ก็ต้องดูเป็นยี่ห้อ, รุ่น โดยเฉลี่ยน่าจะปรับขึ้นไปประมาณ 10-15% ดูตัวแปรค่าอะไหล่ ค่าแรง ประกอบด้วยว่าเป็นเท่าไหร่ ควรจะปรับขึ้นเท่าไหร่"

สำหรับการขยับตัวของค่ายใหญ่ อาทิ บมจ.กรุงเทพประกันภัย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าวว่า กำลังประเมินอยู่ว่าปรับอัตราเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ขึ้นหรือไม่ หลังจากครึ่งปีแรกลอส เรโชแตะ 60% เนื่องจากค่าซ่อม ค่าอะไหล่ ค่าแรงเพิ่มขึ้นหลังปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ขณะที่อู่ซ่อมเองมีปัญหาไม่เพียงพอ กับจำนวนรถยนต์ที่เข้าซ่อมที่เพิ่มขึ้นมาก แต่การขึ้นราคาจะเป็นทางเลือกสุดท้าย จะพยายามบริหารภายใน เช่น คุมประสิทธิภาพสินไหม คัดลูกค้า เน้นรถยนต์ขนาดกลางขึ้นไป เพื่อลดสินไหม

ขณะที่เบอร์หนึ่ง อย่างบมจ.วิริยะประกันภัย ประกาศส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้ว ครึ่งปีหลังจะไม่ปรับอัตราเบี้ยกลุ่มรถยนต์คันแรกเพิ่มขึ้น แม้สินไหมจะสูงระดับ 70-80% หากสินไหมขยับขึ้นสูงไปถึง 85-88% อาจจะปรับเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ต้นปีหน้า ส่วนบมจ.สินมั่นคงประกันภัย เบอร์สอง ชิงปรับเบี้ย ประกันภัย รถเก๋งเพิ่มขึ้นไปแล้ว 5% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากปลายปีก่อนปรับขึ้น 5% ยังไม่พอสินไหมสูง 70-77%

ที่มา : สยามธุรกิจ