นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจประกันวินาศภัยว่า สมาคมฯ ประเมินอัตราการเติบโตครึ่งปีหลัง พบว่าธุรกิจ ประกันภัย ยังค่อนข้างไม่สู้ดีนัก ทั้งในแง่ของอัตราการเติบโต และเบี้ย ประกันภัย อีกทั้งครึ่งปีหลัง ซึ่งหมดแรงหนุนจากมาตรการ รถยนต์คันแรก ทำให้ธุรกิจ ประกันภัย ขาดตัวช่วย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นสิ่งที่ภาค ประกันภัย วิตกมากที่สุด ส่งผลให้เบี้ย ประกันภัย กลับเข้าสู่ระบบลดลง ประกอบกับราคา รถยนต์ มือ 2 ที่ราคาตกลงตั้งแต่ต้นปี เฉลี่ยลดลงแล้วกว่า 30% ทำให้โอกาสที่ รถยนต์ มือ 2 จะมีการต่อ ประกันภัย นั้นยิ่งลดลง

เมื่อรวมกับการที่ค่าย รถยนต์ ต่างเสนอแคมเปญ ทั้งการผ่อนปลอดดอกเบี้ย แคมเปญบัตรเติมน้ำมัน หรือแม้แต่ลูกค้าสามารถผ่อนยาวถึง 72 เดือน เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงสัญญาณอันตราย ของเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างชัดเจน จึงมีโอกาสที่ปีนี้ธุรกิจประกันวินาศภัย จะมีอัตราเติบโตต่ำกว่า 15% โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง หากโตได้ถึง 10% คิดเป็นมูลค่าเบี้ย ประกันภัย รับรวมทั้งปีสูงถึง 2 แสนล้านบาท ก็ถือว่าดีเกินเป้าแล้ว

ขณะที่กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้ม และอัตราการเติบโต ของธุรกิจประกันชีวิตของไทยทั้งระบบ จากภาวะราคาสินค้าเกษตร การชะลอซื้อกรมธรรม์ ประกันภัย ใหม่ จากหนี้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ยังมีความเสี่ยงที่อัตราการเติบโตจะลดลง เฉลี่ยเบี้ย ประกันภัย และอัตราการเติบโตใกล้เคียง 15% เมื่อเฉลี่ยทั้งปี จะทำให้ปีนี้ธุรกิจประกันชีวิตทั้งระบบ ยังมีโอกาสเติบโตอยู่ที่ 17% ในส่วนของไทยประกันชีวิตเอง จะพยายามรักษาอัตราการเติบโต ให้ใกล้เคียงกับตลาด คือ ไม่ต่ำกว่า 15% โดยระหว่างนี้ ได้เพิ่มศักยภาพของตัวแทนแต่ละกลุ่ม ให้สามารถเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ